บทที่ 5
บทที่ 5
กำแพง
อาชวินทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาโทรชวนพศิกาออกมาดินเนอร์ด้วยกันที่ร้านอาหารดังริมแม่น้ำเจ้าพระยา
บรรยากาศโรแมนติกที่อบอวลไปด้วยความรักของคู่รักรอบๆทำให้หญิงสาวมีอาการเกร็งขึ้นมา แต่เขากลับพยายามตักนู่นตักนี่ใส่จานของเธอไม่หยุด และเธอก็ลำบากใจไม่น้อยที่จะปฏิเสธเขา
"พอแล้วค่ะหมอ พิ้งค์ไดเอ็ดอยู่ค่ะ"
"คุณผอมขนาดนี้ ยังจะไดเอ็ดอีกหรอพิ้งค์" อาชวินถามขึ้น เพราะหญิงสาวตรงหน้าเขาน้ำหนักไม่ถึงสี่สิบห้าด้วยซ้ำไป
"เป็นเรื่องปกติของผู้หญิงค่ะ"
"ยัยอันไม่เห็นไดเอ็ดเลย" เขาบ่นถึงน้องสาวคนเล็กที่กินยังไงก็ไม่อ้วน
"หมวดอันสวยนี่คะ ทำอะไรก็สวยหมดนั้นแหละ" พศิกาพูดด้วยความอิจฉา เพราะลึกๆแล้วเธอเองก็ยังรักรพีฉายอยู่
"แล้วทำไมคุณถึงมาที่นี่ล่ะ ?"
"พิ้งค์มารับเพื่อนที่สนามบินค่ะ"
"เพื่อนหรอ ?" เขาทวนคำ
"ใช่ค่ะ เพื่อน"
"ไม่ชวนมาด้วยกันล่ะ" อาชวินบอกด้วยความหวังดี
"ไม่ดีกว่าค่ะ เพื่อนพิ้งค์ไม่ชอบมาร้านแบบนี้หรอก"
"งั้นเราซื้อไปฝากเขาก็ได้"
"กว่าเราจะกลับเขาคงกินข้าวไปแล้วมั้งคะ" หญิงสาวตอบ ทั้งที่ความจริงเธอปวดหัวกับคำถามของเขาที่ยิงมาไม่หยุด
"ครับ"
"หมอทานเถอะค่ะ พิ้งค์ขอตัวไปเข้าห้องน้ำแปปนึงนะคะ" ร่างบางบอก แล้วลุกออกจากเก้าอี้ไปทันที
อาชวินมองตามหญิงสาวไปจนลับสายตา ก่อนจะหันมามองดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่ที่วางอยู่บนเก้าอี้ข้างตัว
เขาตั้งใจจะมอบมันให้กับเธอ และสารภาพความในใจของตัวเอง แต่ดูเหมือนว่าวันนี้หญิงสาวกำลังอารมณ์ไม่ดีสุดๆ เขาครุ่นคิดอย่างชั่งใจอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งพศิกาเดินกลับมา
"กลับกันเถอะค่ะ" หญิงสาวเดินออกมาบอก ขณะที่เสื้อผ้าของเธอเปียกปอนจนแทบดูไม่ได้
"เกิดอะไรขึ้น ?"
"ในห้องน้ำมีคนทะเลาะกันค่ะ พิ้งค์โดนลูกหลง" คนตัวเล็กบอก แล้วทำท่าจะเดินนำออกไป
"ครับ" เขายอมตามใจเธอ ทั้งที่ตัวเองยังไม่ได้กินอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วดูเหมือนว่าแผนสารภาพรักของเขาจะล่มไม่เป็นท่าอีกด้วย
"ไม่ต้องไปส่งพิ้งค์ก็ได้ค่ะ"
"แล้วคุณจะกลับยังไงล่ะ พิ้งค์ ?"
"มาแท็กซี่ ก็กลับแท็กซี่ค่ะ" หญิงสาวบอก แล้วเดินจากไป
"ให้ผมไปส่งเถอะ" เขาบอก แล้ววิ่งมาดักหน้าเธอเอาไว้
"พิ้งค์อยากอยู่คนเดียวค่ะ ขอโทษนะคะ"
อาชวินหมดปัญญาที่จะตามไป เพราะพศิกาวิ่งขึ้นแท็กซี่ออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เขาได้แต่มองตามตาละห้อย จนรถแท็กซี่แล่นออกไปไกลจากระยะสายตาของเขา
ร่างสูงเดินไปนั่งที่เก้าอี้เหล็กดัดเพื่อให้แม่น้ำเจ้าพระยาสีดำในยามค่ำคืนเป็นเพื่อนคลายเหงา
มีอีกหลายเรื่องที่เขาอยากรู้เกี่ยวกับเธอ พศิกาเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เธอเอาแต่สร้างกำแพงน้ำแข็งเพื่อผลักไสให้เขาออกห่าง ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอเหมือนจะเปิดใจให้เขาแล้วแท้ๆ
หมอหนุ่มอดคิดไม่ได้ว่าเธออาจจะยังรักรพีฉายอยู่ และภาพที่เขาเห็นเธอนั่งรถมากับรพีฉายวันนี้ ก็ยิ่งตอกย้ำในสิ่งที่เขาคิดมากขึ้นไปอีก
ดวงตาคู่คมปิดลงช้าๆ ก่อนที่โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของเขาจะเรียกสติกลับมา
ครืด~
"สวัสดีครับ" เขากรอกเสียงใส่โทรศัพท์
(นี่แต๋วเองค่ะ) แค่ได้ยินว่าเป็นใคร เขาก็แทบอยากจะวางสายทันที
"..."
(อย่าพึ่งวางสายนะคะ)
"..." เขาเงียบฟังว่าปลายสายจะพูดอะไรต่อ
(แต๋วขอโทษค่ะ)
"พรุ่งนี้พี่จะเปลี่ยนเบอร์ แล้วก็ไปทำงานบนเขานู่นหวังว่าเราจะเคลียร์ปัญหาระหว่างเราจบแค่นี้นะ" เขาบอกแล้วเลื่อนหน้าจอเพื่อตัดสายทิ้งอย่างไร้เยื่อใย
เขาไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวกับนาวิกาอีกแล้ว เพียงแต่การพูดคุยกับเธอ มันทำให้เขารู้สึกอึดอัด เพราะเขาได้ยินบทสนทนาของหญิงสาวและสิมิลัน มันทำให้เขารู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นคนโง่เง่าในสายตาของคนรอบข้าง
เขาทอดมองเรือหลายลำแล่นผ่านไป และอีกหลายลำแล่นผ่านเข้ามาในน่านน้ำสีดำทะมึน เพราะสีจากท้องฟ้าในยามวิกาลเหมือนกับเขาที่รู้สึกว่าทุกๆอย่างรอบตัวมันช่างเงียบงัน และมืดมนไปเสียหมด...