บทย่อ
จู่ๆสามสาว ผู้มีผลกับหัวใจเขาก็พร้อมใจกันเข้ามาปั่นป่วน จนต้องปวดหัว ปวดใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คนแรก... แฟนเก่า ผู้เป็นรักแรก และอดีตอันเจ็บปวดคนที่สอง... พยาบาลสาวผู้เป็นรักครั้งใหม่ ที่เขากำลังเดินหน้าจีบเต็มสูบและคนสุดท้าย... คู่กัดที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันสักเท่าไหร่ แต่อยู่ใกล้ทีไร เป็นอันต้องใจสั่นทุกที...แล้วแบบนี้ เขาต้องเลือกใครกัน ?
บทที่ 1
ร่างสูงเดินเข้าไปในบ้านด้วยอารมณ์บูดบึ้งสุดๆเพราะเขาถูกบังคับให้มาบ้านน้องเขยตัวดีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และทุกครั้งที่เขามาก็มักจะโดนเจ้าของบ้านแขวะเรื่องบางเรื่องเสมอ
“พี่อ้ายสวัสดีครับ”
“อือ กองไว้ตรงนั้นแหละ” เขาบอกน้องเขยที่ออกมาต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มสดใสจนน่าถีบ
“ดุมาเลยนะวันนี้” รพีฉายแขวะทันที
“อย่ากวนตีน วันนี้อารมณ์ไม่ดี” เขาปรายตามองเจ้าของบ้าน ก่อนจะเดินเข้าไปในภายบ้านราวกับเป็นบ้านตัวเอง
“พิ้งค์ไม่อยู่หรอกครับ”
“เลิกกวนตีนสักทีเถอะ!” เขาบอกอย่างหัวเสีย เพราะพึ่งถูกหญิงสาวปฏิเสธนัดไปดูหนังเย็นนี้
“โธ่! พี่อ้ายครับ เวลาจะจีบสาวเนี่ยเราต้องมีทริค”
“อันอยู่ไหน ?”
“อยู่ในครัวครับ” คนถูกถามตอบพี่เมียด้วยรอยยิ้มทะเล้น ก่อนจะเดินไปอุ้มลูกชายฝาแฝดที่นอนอยู่ในเปล
“ขออุ้มบ้างสิ” อาชวินบอก แล้วยื่นมือไปรับหลานชายอีกคนมาไว้ในอ้อมแขน
“รักเด็กอย่างนี้ ก็รีบๆคบกับพิ้งค์สักทีสิครับอยู่ในสถานะศึกษาดูใจมาเกือบปีแล้วเนี่ยแม่เมียผมอยากมีหลานเพิ่มแล้วนะครับ” รพีฉายบอกตามประสาคนปากไวทำให้หมอหนุ่มส่งค้อนให้เขาวงใหญ่ด้วยความหงุดหงิด
“ไอ้พี…”
“ว่าไงพี่ ?”
“ดูเหมือนว่าทำยังไง พิ้งค์ก็ไม่มีทางชอบพี่เลยว่ะ” สรรพนามที่เขาใช้แทนตัวเอง เป็นอะไรที่ชายหนุ่มตรงหน้าไม่ค่อยได้ยินบ่อยนักถึงแม้จะเป็นครอบครัวเดียวกันมาปีกว่าแล้วก็ตาม
“อะไรทำให้พี่คิดแบบนั้นล่ะ ?”
“เพราะเขาลืมแกไม่ได้ไง” อาชวินพูดขึ้นตรงๆแล้วมองหน้าน้องเขยนิ่ง
“เฮ้อ…เรื่องมันนานมาแล้วนะครับ”
“ก็เพราะว่ามันนานมาแล้วนี่ไง พี่ถึงได้คิดมากอยู่แบบนี้เหมือนระหว่างพี่กับเขามีกำแพงสูงๆกั้นอยู่บางครั้งรู้สึกเหมือนว่าเขาพยายามจะหลบหน้าด้วยซ้ำยิ่งช่วงนี้ยิ่งหนักไปกันใหญ่ ชวนไปไหนก็ไม่ยอมไป” อาชวินระบายความรู้สึกอัดอั้นตันใจออกมาอย่างเสียไม่ได้
“พี่อ้ายทำอะไรให้เขาโกธรหรือเปล่า ?”
“เหอะ! คิดว่าไม่นะ”
“อ้าว ดีๆสิครับ” รพีฉายหรี่ตา
“ไม่หรอก อันเชื่อว่าพี่อ้ายไม่มีทางทำแบบนั้นกับคนที่ตัวเองรักแน่นอน” อุรัสมาเดินออกมาจากห้องครัว พร้อมกับช่วยยืนยันอีกแรง
“แล้วทำไมพี่อ้ายไม่ลองถามพิ้งค์ดูล่ะครับ ?”
“จริง ลองถามดูสิคะ” หญิงสาวสนับสนุนความคิดสามี
“เฮ้อ…ถามไป คงได้ลำบากใจกันเปล่าๆ” อาชวินบอก แล้วหยิบกำไรข้อเท้าที่มารดาเขาซื้อมาให้หลานชายฝาแฝดออกมา
“พี่อ้ายซื้อมาให้หลานหรอคะ ?” อุรัสมาถามอย่างไม่เชื่อสายตา เพราะอาชวินไม่ค่อยชอบอะไรพวกนี้
“แม่ซื้อต่างหาก พี่เคยสนใจอะไรพวกนี้ที่ไหนล่ะ กระพรวนนี่ขยับทีเสียงน่าหงุดหงิดจะตาย”
“อันก็คิดแบบนั้นแหละ”หญิงสาวพูดกลั้วหัวเราะแต่ก็ยื่นมือไปรับมาถือไว้
“วันนี้ขอฝากท้องที่นี่แล้วกัน พรุ่งนี้จะกลับกรุงเทพอีกแล้ว” อาชวินบอกแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว พร้อมกับอุ้มหลานชายไปด้วย
“แล้วพี่อ้ายไม่ทำงานหรอ ?”
“พี่กำลังจะออกค่ายแถวภาคอีสานต้องกลับไปเตรียมตัวก่อน วันมะรืนนี้ก็ไปแล้ว”
“แล้วพิ้งค์ไปด้วยหรือเปล่าครับเนี่ย ?” รพีฉายถาม เพราะเขาเองก็อยากให้พี่ชายภรรยาสมหวังในความรักสักที
“ไปสิ” อาชวินบอก
“ดีแล้วล่ะครับ ใช้โอกาสนี้พิชิตใจสาวไปในตัว” เมื่อน้องเขยสนับสนุนเขาจึงพยักหน้าเห็นดีเห็นงามด้วย
“ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ เข้าหน้าหนาวแล้ว” อุรัสมาบอกพี่ชายอย่างเป็นห่วง
“อือ พี่แข็งแรงจะตาย”
อาชวินเห็นครอบครัวที่อบอุ่นของน้องสาวพลางนึกถึงตัวเองที่ยังครองตัวเป็นโสดแม้วัยจะล่วงเลยมาถึงสามสิบปีแล้วก็ตาม มือเรียวตักข้าวเข้าปากพลันภาพของใครคนนึงก็ผุดเข้ามาในหัว จนเขาต้องรีบวางช้อนลงแล้วขมวดคิ้วหมุ่นด้วยความหงุดหงิด
“พี่อ้ายเป็นอะไรหรอ ?” อุรัสมาถามขึ้นงงๆ เพราะกับข้าวที่เธอทำก็ปกติทุกอย่าง
“เปล่าๆ” เขารีบปฏิเสธแล้วเบนความสนใจไปที่อาหารบนโต๊ะอีกครั้ง
“เดี๋ยวอันจัดการลูกเองดีกว่า พี่อ้ายคงกินข้าวไม่สะดวกท่าทางจะอยากมีลูกมากนะเนี่ย” คนเป็นน้องล้อเลียน ก่อนจะอุ้มลูกชายกลับไปที่เปลโดยไม่รู้เลยว่าคำพูดของเธอจี้ใจดำพี่ชายเข้าเต็มๆ