บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

บทที่ 3

ไม้กันหมา

“แสบตาชะมัด” หมอหนุ่มที่พึ่งล้างตาให้ตัวเองบ่นขึ้น โดยมีเด็กชายนริศยืนมองอยู่ด้วยความเป็นห่วง

“สวัสดีครับ ลุงอ้าย” เด็กนริศยกมือไหว้แขกอย่างนอบน้อม

“สวัสดีครับ สุดหล่อ” เขารับไหว้เด็กชายอย่างเอ็นดู แล้วมองไปยังสิมิลันที่เอาแต่หัวเราะเยาะตนไม่หยุด “ไม่ต้องมาขำพี่เลยนะ มะลิ”

“โถ่... ก็มันหยุดไม่ได้นี่คะ”

“ถ้าหัวเราะไม่หยุด พี่จะกลับแล้วจริงๆด้วย” คนเสียฟอร์มพูดขึ้น เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองหน้าแตกหมอไม่รับเย็บไม่พอ ยังโดนรุ่นน้องหัวเราะใส่ไม่หยุดอีก

“เอ่อ…สวัสดีค่ะ พี่อ้าย” หญิงสาวอีกคนที่เขาไม่คิดว่าจะได้เจอเธออีก เดินเข้ามาทักด้วยรอยยิ้ม ราวกับทั้งคู่ไม่เคยมีเรื่องผิดใจกันมาก่อน

“ครับ” เขารับคำสั้นๆ เพราะรู้สึกเหมือนริมฝีปากหนักอึ้งไปหมด

“พี่อ้ายสบายดีไหมคะ ?”

“สบายดีครับ แต้วล่ะ” เขาถามกลับตามมารยาท เพื่อไม่ให้บรรยากาศมาคุจนเกินไป

“ค่ะ” เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ได้หันมามองเธอเลย หญิงสาวจึงทำได้แค่ตอบสั้นๆ แล้วเดินเข้าไปในบ้านตามเดิม

อาชวินมองตามหญิงสาวไปจนลับสายตา พรางครุ่นคิดถึงอดีตที่ผ่านมา ก่อนจะถอนหายใจยาวเหยียด จนสิมิลันอดเป็นห่วงไม่ได้

“พี่อ้ายคะ มะลิขอถามอะไรสักหน่อยได้ไหม ?”

“ว่ามาสิ”

“พี่อ้ายยังรักแต้วอยู่หรือเปล่าคะ ?” เมื่อรุ่นพี่อนุญาตแล้ว สิมิลันจึงเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา

“เรื่องของพี่กับแต้วมันเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้มะลิก็รู้ว่าพี่รักพิ้งค์” อาชวินตอบ แล้วส่งยิ้มให้คนถาม

“ค่ะ” หญิงสาวตอบรับ และถอนหายใจอย่างโล่งอก

“ถอนหายใจยาวเชียวนะ”

“โถ่... ก็มันโล่งอกนี่คะ ยัยแต้วคิดว่าพี่อ้ายจะโกรธด้วยนะ”

“พี่จะโกรธได้ยังไงล่ะ ใครๆต่างก็อยากเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองทั้งนั้นแหละ เขาไปได้ดี พี่ก็ควรยินดีกับเขาไม่ใช่หรอ ?” ร่างสูงบอก แล้วยักไหล่ด้วยท่าทางสบาย ก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับเด็กที่กำลังสะกิดเขายิกๆแทน “ว่าไงครับน้องริศ ?”

“ลุงอ้ายพาริศไปที่สวนสาธารณะหน่อยนะครับ วันนี้อาเหนือเลี้ยงน้องช่วยพี่มะลิ” เด็กชายบอกเศร้าๆเพราะอยากออกไปเล่นนอกบ้าน

“ได้สิ” อาชวินบอก พร้อมกับลูบหัวเด็กชายอย่างเอ็นดู

“ลุงอ้ายใจดีที่สุดเลยครับ” นริศกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจตามประสาเด็กทำให้ผู้ใหญ่ใจดีหัวเราะรวน

“พี่แต้วขอไปด้วยคนนะคะ”

“ครับ” นริศรีบตอนทันควัน เพราะอยากให้มีคนไปด้วยเยอะๆ

แต่หมอหนุ่มกลับทำหน้าปั้นยาก เพราะเขาไม่รู้จะเริ่มต้นพูดคุยกับเธอยังไง ในเมื่อเรื่องราวระหว่างอดีตของทั้งคู่ไม่ได้จบลงด้วยดีนัก

อาชวินกับนริศเดินนำออกไปที่ประตูแล้ว ในขณะที่นาวิกากำลังก้มใส่รองเท้าอยู่นั้น สิมิลันจึงเข้ามาพูดคุยกับเพื่อนรักใกล้ๆ

“แกไม่ออกไปไม่ได้หรอแต้ว ?”

“ทำไมล่ะ ?” นาวิกาถามกลับ

“แกกำลังทำให้พี่อ้ายอึดอัดนะ” สิมิลันเตือนเพื่อนตรงๆ เพราะท่าทีของอาชวินยังคงอึกอักอย่างเห็นได้ชัด

“ไหนแกบอกว่าเขามีคนรักอยู่แล้วไง อีกอย่างเมื่อกี้เขาก็บอกเองว่าไม่ได้โกรธอะไรฉัน งั้นก็แปลว่าระหว่างฉันกับพี่อ้าย เราก็ยังมีมิตรภาพที่ดีต่อกันนี่นา”

“แต่...”

“อย่าคิดมากสิมะลิ ฉันก็แค่อยากอธิบายเหตุผลที่ฉันต้องไปเรียนต่อต่างประเทศเฉยๆ บางทีพี่อ้ายเขาอาจจะเข้าใจฉันมากขึ้นก็ได้” นาวิกาบอกเพื่อนรักเสียงเศร้า เพราะในอดีตเธอตัดความสัมพันธ์กับเขาช่วงที่ไปเรียนต่ออเมริกา โดยไม่ได้อธิบายเหตุผลให้อีกฝ่ายได้รับรู้เลย

“ฉันว่า...ไม่พูดดีกว่าไหม ยังไงตอนนี้แกก็แต่งงานไปแล้ว แถมพี่อ้ายเขาก็มีคนรักอยู่แล้วด้วย จะพูดเรื่องในอดีตขึ้นมาอีกทำไม”

“พี่อ้ายไม่รู้นี่ว่าฉันแต่งงานแล้ว”

“แต่ฉันว่าเขารู้” สิมิลันแย้งขึ้น

“ไม่หรอกน่า ฉันแต่งงานที่อเมริกา พี่อ้ายจะรู้ได้ยัง ถ้าฉันเคลียร์กับเขาเรียบร้อย ฉันจะบอกเขาว่าฉันแต่งงานแล้ว โอเคไหม ?” นาวิกาบอก แล้วถอดแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้ายทันที

นาวิกาตั้งใจจะพูดคุยกับเขาตามลำพัง ทว่าสิ่งที่เธอคิดกลับตาลปัตรไปหมด เพราะอาชวินกำลังยืนเกาะประตูรั้วข้างบ้านเหนือเมฆแล้วตะโกนเรียกชื่อใครบางคนอยู่

“ณิชา!”

“อะไรอีก !?” เจ้าของชื่อเปิดประตูบ้านออกมาถามด้วยความหงุดหงิด

“ดีกันนะคะ” อาชวินยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้าหญิงสาวทันที พร้อมกับพูดจาไพเราะเสนาะหูสุดชีวิต

“หะ !?”

“เค้ารู้ว่าเค้าผิดมาก ตัวเองให้อภัยเค้านะ

“เอ่อ… สมองกระทบกระเทือนป่ะเนี่ย” ณิชาที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วยมองเขางงๆ เพราะปกติอาชวินกับเธอ เจอกันทีไรเป็นต้องทะเลาะกันอยู่แล้ว และทุกครั้งเขาก็ไม่เคยมาขอโทษเธออย่างนี้

“ดีกันนะคะ แล้วไปสวนสาธารณะกัน” อาชวินขยิบตาให้เธอ เพื่อส่งสัญญาณให้เธอตอบตกลง

“ไม่อะ”

“นะครับที่รัก” หมอหนุ่มออดอ้อนเธอ ราวกับว่าเขากำลังมาง้อขอคืนดีกับแฟนสาว ทำให้คนฟังยิ่งงงไปกันใหญ่

“อะไรนะ! ที่รัก ? ฉันไปเป็น...” ณิชาตั้งท่าจะโวยวาย ทว่ากลับถูกอีกฝ่ายยื่นนิ้วมาแตะที่ริมฝีปาก

“ช่วยไปเป็นไม้กันหมาให้ฉันหน่อย” อาชวินยื่นหน้าไปกระซิบใกล้ๆหูเธอ และยิ่งเห็นเขามาขอร้อง เธอก็ยิ่งอยากปฏิเสธ

‘มันเรื่องอะไรที่ฉันจะต้องช่วยเหลือศัตรูแบบไอ้หมอปากหมานี่กัน !’ หญิงสาวคิดในใจ แล้วตอบออกไปทันที

“ไม่!”

“ช่วยหน่อยดิ นะนะนะ” เขาอ้อน แล้วลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ เหมือนกำลังจะหอมแก้มเธอ

“เฮ้ย! จะทำอะไรเนี่ย ?”

“ช่วยหน่อยนะ ขอร้องล่ะ ให้ไหว้ก็ยอมเลยเอ้า!” อาชวินยอมลงทุนสุดๆ เพราะเขากลัวว่าตัวเองจะใจอ่อนกับแฟนเก่า ผู้เป็นรักแรกอีกครั้ง

“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ แค่นายไม่กัดฉันอีกก็พอละ” ณิชากระแทกเสียงใส่ แต่ยังคงรักษาระดับเสียงให้ได้ยินกันแค่สองคนอยู่

“ตกลง”

“สรุปจะใช้ฉันช่วยเป็นไม้กันหมาใช่ไหม ?” ณิชาถามย้ำ ก่อนจะมองไปที่นาวิกาที่ยืนรออยู่ห่างๆอย่างไม่เชื่อสายตา

“อือ”

‘สวยขนาดนั้น นายหมอปากกรรไกรนี่กล้าปฏิเสธได้ยังไง’ เธอคิดในใจ แล้วหันมามองคนตรงหน้าอีกครั้ง

“ไม่ต้องคิดนานจะได้ไหม ก็แค่ช่วยนิดๆหน่อยๆเอง” คนปากเปราะพูดขึ้น ทั้งที่ตัวเองเป็นคนมาขอร้องเขาแท้ๆ

“นี่นาย!!”

“นะๆ ช่วยผมหน่อยนะครับคุณณิชา” เขากลายเป็นคนสุภาพขึ้นมาทันที เพื่อเร่งให้เธอตอบตกลง

“แต่น้องริศรู้ว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน”

“ติดสินบนแล้ว”

“หืม นายนี่ชั่วเนอะ” หญิงสาวได้ที จึงหลอกด่าเขา

“นี่!”

“เออๆ ช่วยก็ช่วย แต่มีข้อแลกเปลี่ยนนะ” ณิชาต่อลองเขา

“ตกลง” อาชวินรีบตอบแบบไม่ต้องคิด แล้วฉีกยิ้มหวานให้เธอแบบที่คนเป็นศัตรูเขาไม่ทำกัน

“แล้ว…จะจูบกันอีกนานไหมคะ ?” นาวิกาพูดขึ้นอย่างหัวเสีย เพราะท่าทีที่ทั้งคู่กระซิบกระซาบกันอยู่ มันคล้ายกับว่าพวกเขากำลังจูบกัน

“หะ !?” ณิชาอุทานเสียงดัง

“ก็…เห็นหน้าเขาแล้ว พี่ห้ามใจไม่อยู่จริงๆ” หมอหนุ่มตีเนียนให้หญิงสาวเข้าใจอย่างนั้น แล้วหันมาทำปากขมุบขมิบใส่ณิชาที่กำลังทำหน้าบึ้งอยู่ “ทำหน้าให้มันดีๆหน่อย”

“มันเรื่องของฉันป่ะ”

“อ่อ แต่งกันเมื่อไหร่ล่ะคะ ?” นาวิกาถามต่อ เพราะไม่เชื่อว่าทั้งคู่เป็นคนรักกัน

“รอณิชาตอบตกลงไง รายนี้นะเล่นตัวอยู่ได้”

“ไอ้…” คนถูกพาดพิงกัดฟันกรอด

“เมื่อไหร่ณิชาจะยอมแต่งงานกับผมสักทีล่ะครับ” ร่างสูงหันมาพูดออดอ้อน จนคนฟังเกือบจะหลุดด่าเขาอยู่แล้ว

“นั่นสิครับ” นริศที่โดนติดสินบนรีบเห็นดีเห็นงามด้วย

“เอ่อ...” ณิชาอ้ำอึ้ง เพราะไม่รู้ว่าเธอควรจะพูดอะไร ทำให้คนคิดแผนต้องรีบแก้สถานการณ์

“ไปกันเถอะ ว่าที่เจ้าสาวพี่เขินจนหน้าแดงไปหมดแล้ว”

“ค่ะ” นาวิกาพยักหน้า แล้วมองทั้งคู่อย่างจับผิด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel