3 ขออยู่ด้วย
เดนิสากลับมาอยู่เมืองไทยได้เกือบสองอาทิตย์แล้วเธอกำลังพยายามปรับตัวให้ใช้ชีวิตกับที่นี่ได้อย่างมีความสุข หญิงสาวตื่นเช้าเพื่อช่วยคุณยายทำกับข้าว พอช่วงสายก็ตามคุณยายและน้าสาวไปที่ร้านเบเกอรี่ที่อยู่หน้าปากซอย เดนิสาขับมอเตอร์ไซค์ไม่เป็นหญิงสาวจึงปั่นจักรยานไปที่ร้านเพราะระยะทางไม่ไกลมากเท่าไหร่
วันนี้เดนิสาก็ไปช่วยงานที่ร้านอย่างเคยพอทานอาหารกลางวันเสร็จหญิงสาวก็ขอตัวปั่นจักรยานกลับมาก่อนเพราะรู้สึกปวดหัวจึงอยากมานอนพักที่บ้าน
เมื่อปั่นจักรยานมาถึงหน้าบ้านก็เห็นว่าหมอติณณภพกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ริมรั้ว
“สวัสดีค่ะอาหมอ วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอคะ” หญิงสาวทักทายเพื่อนบ้านที่ไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยเท่าไหร่เราอีกฝ่ายนั้นออกจากบ้านแต่เช้าและกลับเข้ามาอีกทีก็ค่ำแล้ว
“วันนี้วันหยุดครับ เดซี่ปั่นจักรยานไปไหนมาล่ะ”
“ไปที่ร้านน้าษามาค่ะ”
“ไปช่วยงานที่ร้านสนุกไหมปรับตัวกับอากาศที่นี่ได้หรือยัง”
“ยังเลยค่ะ ที่นี่ร้อนมาก หนูขี่จักรยานทุกวันตัวดำไปหมดแล้วค่ะ”
“ดำที่ไหนกันล่ะ คิดไปเองล่ะสิ”
“อาหมอพูดจริงใช่ไหม”
“อือ กลัวดำแล้วทำไมปั่นมาตอนแดดเปรี้ยงแบบนี้ล่ะ”
“หนูปวดหัวนิดหน่อยค่ะเลยว่าจะมานอนพักสงสัยว่าอากาศจะร้อนเกินไปค่ะ”
“งั้นก็ไปพักเถอะ ที่บ้านมียาพาราใช่ไหม”
“มีค่ะ หนูขอตัวก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ” เดนิสายกมือไว้ก่อนจะปั่นจักรยานเข้าไปในบ้านของตน
หญิงสาวเดินเข้าบ้านไปแล้วแต่ติณณภพยังยืนอยู่ที่เดิมเขา รู้สึกว่าสิ่งที่คุณยายราตรีกังวลนั้นไม่เกินจริงเลย เพราะเท่าที่สังเกตนั้นเดนิสายังคงมีแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ซึ่งในฐานะคนที่เป็นหมออย่างเขาเวลาเห็นใครเป็นแบบนี้ก็อยากจะช่วยแม้ว่าเจ้าตัวจะไม่เอ่ยปากขอก็ตาม
แต่เรื่องที่เกิดขึ้นมันค่อนข้างละเอียดอ่อนมากๆ การช่วยเหลือนั้นก็มีหลายวิธีชายหนุ่มจึงคิดว่าจะหาทางช่วยเธอในแบบที่เธอไม่รู้ตัวน่าจะดีกว่าเพราะดูแล้วเดนิสาก็เป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งพอสมควร
ติณณภพไม่ได้เรียนมาทางนี้โดยตรงแต่มันก็ไม่ยากเกินถ้าหากเขาจะเรียนรู้เพิ่มเติม ชายหนุ่มรู้สึกกระตือรือร้นเป็นอย่างมากและคิดว่าสิ่งที่กำลังคิดจะทำอยู่นั้นค่อนข้างท้าทายอยู่ไม่น้อย
เมื่อคิดได้ดังนั้นติณณภพจึงรีบรดน้ำต้นไม้ให้เสร็จและกลับเข้าไปอาบน้ำ ก่อนจะมานั่งหน้าคอมพิวเตอร์ในห้องทำงานเพื่อหาข้อมูลที่ตนเองสนใจ เขาหยิบแว่นกรองแสงที่มักจะสวมเป็นประจำเวลาอ่านหนังสือหรืออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์มาสวมก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาหาข้อมูลอย่างเต็มที่
ขณะที่กำลังหาข้อมูลอยู่นั้นเสียงออดหน้าบ้านก็ดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดแอปพลิเคชันกล้องวงจรปิดเพื่อนดูว่ามีคนมาหาจริงๆ หรือคนที่มากดออกจะเป็นพนักงานขายตรงที่มักจะมาเสนอขายสินค้าในวันหยุดแบบนี้
เมื่อเห็นว่าคนที่มากดออดเป็นใครเขาก็รีบเดินออกไปหน้าบ้านทันที
“สวัสดีอีกรอบค่ะอาหมอ” เดนิสากล่าวทักทายด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ
“มีอะไรหรือเปล่าเดซี่ แล้วนั่นหอบอะไรมาด้วยล่ะ” ติณณภพมองข้างของพะรุงพะรังที่เดสิสาถือมาก็กอดถามไม่ได้เพราะมีทั้งแก้วน้ำเก็บความเย็น แท็บเล็ต หนังสือและขนมอีกถุงหนึ่ง
“หนูมีเรื่องจะรบกวนอาหมอค่ะ” เสียงเอ่ยเบาแสดงถึงความเกรงใจเพราะทั้งสองเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานแต่เธอก็มารบกวนวันหยุดของเขาเสียแล้ว
“เรื่องไรอะไร หรือว่ายังปวดหัวไม่หาย”
“ก็ยังปวดอยู่ค่ะ แต่หนูกินยาไปแล้ว”
“เข้ามาคุยข้างในก่อนไหม ตรงนี้แดดมันแรง”
“ได้ค่ะ” เดนิสาเดินตามติณณภพเข้ามาในบ้านของเขาซึ่งมันก็คล้ายๆ กับบ้านของเธอแต่ต่างกันตรงที่บ้านของของเขามีเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นกว่ามาก
“นั่งก่อนสิ”
“ขอบคุณค่ะอาหมอ อาหมอยุ่งอยู่ไหมคะ”
“ไม่หรอกครับเดซี่มีอะไรกับอาหรือเปล่า”
“หนูขอมาอยู่บ้านอาหมอจนกว่าคุณยายกับน้าษาจะกลับบ้านได้ไหมคะ”
“ได้สิ” ติณณภพตอบตกลงโดยไม่ถามถึงเหตุผลเพราะกลัวว่าถ้าถามออกไปจะให้เดนิสาอึดอัด
“ไม่รบกวนจนเกินไปใช่ไหมคะ”
เดนิสารู้สึกเกรงใจแต่เธอก็อยู่ที่บ้านไม่ได้ ครั้นจะไปหาคุณยายและน้าสาวที่ร้านก็ไม่อยากจะตอบคำถามให้วุ่นวายว่าเพราะอะไรถึงกลับไปที่ร้านอีก
“ไม่หรอกครับ เดซี่อยู่ได้ตามสบายเลย อยากดูทีวีก็เปิดได้เลยนะ”
“ก่อนหน้าที่หนูจะมากดออดอาหมอทำอะไรอยู่คะ”
“อากำลังหาข้อมูลบางอย่างอยู่ เดซี่จะไปนั่งเล่นในห้องทำงานของอาก็ได้นะ”
“หนูขอไปนั่งอ่านหนังสือในห้องนั้นได้ไหมคะ” เพราะตอนนี้เดนิสาไม่อยากอยู่คนเดียวจึงขอไปนั่งในห้องทำงานของเขาด้วย
ถึงแม้ว่าจะรู้จักกับอาหมอข้างบ้านได้ไม่นานแต่ก็เคยได้ยินคุณยายเล่าให้ฟังอยู่บ่อยๆ ว่าคุณหมอติณณภพคนนี้เป็นคนนิสัยดี สุภาพเรียบร้อยและเป็นคนที่ไว้ใจได้คนหนึ่ง หญิงสาวจึงคิดว่าการอยู่กับเขาตามลำพังน่าจะปลอดภัยกว่าการอยู่ที่บ้านของตนเอง
“ได้สิตามอามาเลย”
เดนิสาเดินตามเขามานั่งยังชุดโซฟาที่มุมห้อง เธอพอจะเดาออกว่าห้องทำงานของเขาน่าจะมีขนาดเท่าห้องนอนของเธอเพราะดูจากทิศทางแล้วจะน่าอยู่ตำแหน่งเดียวกันของบ้าน
ขนาดห้องค่อนข้างกว้างมีโต๊ะทำงานชุดคอมพิวเตอร์อยู่มุมหนึ่งซึ่งตรงตรงกันข้ามกับจุดที่เธอนั่งอยู่
“ทำตัวตามสบายเลยนะ”
“ขอบคุณค่ะอาหมอ”
“ถ้าหิวก็ไปหาอะไรกินในครัวนะ ของกินในตู้เย็นก็หยิบกินได้เลย” ติณณภพอยากให้หญิงสาวรู้สึกว่าที่นี่เป็นเหมือนบ้านของตนเองจึงไม่เตรียมน้ำหรือขนมให้
“หนูเตรียมขนมมาแล้วค่ะ หนูกินขนมในห้องนี้ได้ไปไหมคะ”
“ได้สิ อาบอกแล้วว่าทำตัวตามสบายเหมือนเวลาที่อยู่บ้านคุณยายนั่นแหละ”