บทย่อ
เพราะเบื่อกับคำว่าหมอเพลย์บอย ติณณภพเลยเปลี่ยนเป็นคนเย็นชาและทุ่มให้กับการทำงานอย่างเต็มที่ แต่แล้วสาวน้อยข้างบ้านก็มาทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอีกครั้ง ********** "เราหาอะไรทำกันดีไหมล่ะ" "อาหมออยากทำอะไร" "แล้วเดซี่ละ อยากให้อาทำอะไร" เหมือนมีแรงดึงดูดระหว่างคนทั้งสอง สายตาที่จ้องประสานมีความต้องการที่ซ่อนอยู่ ติณณภพก้มลงจูบไปบนเรียวปากอิ่มอย่างแผ่วเบา แต่พอริมฝีปากของทั้งสองสัมผัสกันก็เหมือนกับไฟที่กำลังราดลงบนกองเพลิง
1 ยินดีต้อนรับ
ติณณภพสูตินรีแพทย์วัย 35 ปีกำลังอ่านตำราทางการแพทย์ภาษาอังกฤษเล่มใหม่ล่าสุดที่เพิ่งได้รับมาอยู่ในบ้านขนาดสองห้องนอนสามห้องน้ำซึ่งชายหนุ่มเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ไม่ถึงปี แต่ยังอ่านไปได้ไม่ถึงไหนดังโครมครามก็รบกวนสมาธิทำให้เขาต้องปิดตำราทางการแพทย์เล่มหนาเพื่อเดินออกมาดูบริเวณหน้าบ้านว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อเห็นรถที่จอดอยู่บริเวณนอกรั้วซึ่งด้านข้างมีชื่อของร้านเฟอร์นิเจอร์ติดไว้ ก็เข้าใจได้ไม่ยากว่าเพื่อนบ้านของเขาไม่หลังใดก็หลังหนึ่งน่าจะสั่งสินค้าจากร้านนี้ ชายหนุ่มชะเง้อคอไปทางด้านบ้านทางขวา ซึ่งเป็นบ้านของคุณหมอรุ่นพี่ซึ่งนานๆ จะกลับมาที่บ้านครั้งหนึ่งเพราะเป็นหมอประจำที่โรงพยาบาลในต่างจังหวัดแต่ทั้งบ้านก็เงียบสนิท เขาจึงเดินมาด้านซ้ายมองผ่านรั้วสูง 2 เมตรซึ่งด้านล่างปูด้วยอิฐหนาทึบส่วนด้านบนนั้นเป็นโครงเหล็ก ทำให้พอมองออกว่าคนในบ้านกำลังทำอะไรกันอยู่
“หมอติณณ์พวกเราทำเสียงดังรบกวนเวลาพักผ่อนของคุณหมอหรือเปล่าคะ” เสียงผู้หญิงสูงวัยทักทายตั้งแต่เขายังเดินไปไม่ถึงริมรั้วบ้าน
“นิดหน่อยครับคุณยาย แต่ไม่เป็นไรหรอกผมตื่นนานแล้ว คุณยายซื้อของเข้าบ้านเยอะเลยนะครับ”
“ก็ต้องซื้อเยอะหน่อยจ้ะ เพราะว่าหลานสาวยายจะมาอยู่ด้วยน่ะ”
“หลานที่คุณยายเคยเล่าให้ฟังว่าอยู่อังกฤษเหรอครับ”
“ใช่จ้ะ หมอติณณ์ยังไม่เคยเจอล่ะสิ เดี๋ยวยายจะเรียกหนูเดซี่มาให้ทำความรู้จักกันสักหน่อยนะ” คุณยายราตรีบอกกับคุณหมอหนุ่มก่อนจะหันไปตะโกนเรียกหลานสาวที่กำลังดูพนักงานช่วยกันขนเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้าน
“เดซี่ หนูเดซี่ออกมาหายายหน้าบ้านหน่อยจ้ะ”
“ค่ะคุณยาย” เสียงใสตอบกลับก่อนจะเดินมาหาคุณยายของตนที่ยืนอยู่ริมรั้ว
ติณณภพมองไปตามเสียงก็ต้องสะดุดตากับหญิงสาวคนหนึ่ง เธอมีรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวอมชมพูอย่างสุขภาพดี วงหน้ารูปไข่รับกับดวงตากลมโต ผมสีน้ำตาลเข้มยิ่งขับให้ผิวนั้นดูขาวกระจ่างมากขึ้น เขายอมรับในทันทีเลยว่าหลานสาวของคุณยายราตรีคนนี้สวยและดูมีเสน่ห์สะกดสายตาเขาได้มากเลยทีเดียว
“เรียกหนูเหรอคะคุณยาย”
“จ้ะ ยายอยากจะแนะนำให้หนูรู้จักเพื่อนบ้านเราหน่อยนี่หมอติณณภพ”
“สวัสดีค่ะคุณหมอติณณภพ” เดซี่หรือเดนิสายกมือไหว้เพื่อนบ้านอย่างนอบน้อมถึงแม้เธอจะอยู่ต่างประเทศมาตั้งแต่เด็กแต่หญิงสาวก็เรียนรู้ทั้งภาษาไทยและมารยาทของคนไทยมาจากมารดาได้เป็นอย่างดี
“สวัสดีครับ” ติณณภพยกมือรับไหว้และพยักและยิ้มรับเมื่อเห็นว่าอีกคนยิ้มให้ แต่เขารู้สึกแปลกเมื่อเห็นว่าหญิงสาวที่กำลังยิ้มให้นั้นมีแววตาที่เศร้าทั้งที่มันควรจะสดใสเหมือนกับรอยยิ้ม นัยน์ตาสีฟ้าของเธอมันดูหม่นหมองเหมือนมีเรื่องอะไรอยู่ในใจ
“หมอติณณจ้ะ หลานสาวยายนะชื่อหนูเดซี่ เธอจะมาเรียนต่อที่เมืองไทย ถ้ายังไงยายก็ฝากหลานสาวให้หมอติณณ์ช่วยดูแลอีกคนหนึ่งนะ ถือว่าเป็นลูกเป็นหลานก็แล้ว”
“ครับคุณยาย”
“แล้วหนูต้องเรียกคุณหมอคนนี้ว่าอะไรคะคุณยาย” เดนิสาหันไปถามคุณยายเพราะเธอไม่คุ้นเคยกับการเรียกคนไทยเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าจะเรียกได้แค่ชื่อเหมือนตอนที่อยู่อังกฤษหรือเปล่า
“ปีนี้หมอติณณ์อายุเท่าไหร่แล้วล่ะ ขอโทษนะที่ยายต้องถามจะได้ให้หนูเดซี่เรียกถูก” ยายราตรีรับอธิบายเพราะกลัวคุณหมอจะหาว่าละลาบละล้วงที่ไปถามถึงอายุ
“ผมอายุ 35 แล้วครับคุณยาย”
“หนูเดซี่เพิ่งจะ 20 งั้นเรียกคุณอาก็แล้วกันนะจะได้ดูสนิทสนม”
“คุณอาหมอติณณภพ”
“เรียกผมว่าหมอติณณ์ก็ได้นะ ไม่ต้องเรียกชื่อจริงหรอก”
“ค่ะอาหมอ"
“แล้วนี่จะมาเรียนที่นี่เลยใช่ไหม”
“ค่ะ หนูจะมาเรียนที่นี่ตอนนี้กำลังทำเรื่องเทียบหน่วยกิตกับทางมหาลัยค่ะ”
“มีอะไรให้อาช่วยเหลือก็บอกได้นะ”
“ขอบคุณค่ะอาหมอ"
“หนูไปจัดของต่อเถอะเดี๋ยวยายคุยกับหมอติณณ์อีกนิดแล้วยายจะตามไปนะ”
“ค่ะยาย” พูดจบหญิงสาวก็เดินกลับเข้าไปในบ้าน
“แปลกนะครับคุณยาย”
“แปลกยังไงเหรอหมอติณณ์”
“ก็ปกติแล้วใครๆ เขาก็อยากไปเรียนต่างประเทศกันทั้งนั้น แต่หลานสาวคุณยายกลับย้ายมาเรียนที่เมืองไทย”
“หลายของยายเจอปัญหานิดหน่อยน่ะจ้ะ เอาไว้ยายจะเล่าให้นะ”
“คุณยายครับ ครับถ้ามันเป็นเรื่องภายในครอบครัวยายไม่ต้องเล่าให้ผมฟังก็ได้”
“มันเป็นเรื่องภายในครอบครัวของยายก็จริง แต่ยายก็เห็นหมอติณณ์เป็นลูกเป็นหลาน อีกอย่างหมอติณณ์ก็เป็นหมอยายว่าบางทีอาจจะช่วยเหลือหลานสาวของยายได้บ้าง” ยายราตรีมองหน้าคุณหมอหนุ่มอย่างมีความหวัง
“ถ้ายายคิดอย่างนั้นผมก็ยินดีรับฟังครับ”
“เย็นนี้หมอติณณ์มาทานข้าวที่บ้านยายสิ ยายจะทำอาหารเลี้ยงต้อนรับหนูเดซี่อยู่พอดีเลย”
“ได้ครับคุณยาย”
“ยายมัดมือชกหมอติณณ์เกินไปหรือเปล่า หมอต้องออกไปตรวจคนไข้หรือไปเที่ยวไหนไหม”
“ไม่หรอกครับปกติวันอาทิตย์ผมก็อยู่บ้านเกือบทั้งวันอยู่แล้ว”
“ไม่ต้องไปตรวจคนไข้ใช่ไหมจ้ะ”
“ไม่ต้องไปตรวจครับ นอกจากว่าโรงพยาบาลจะโทรตามเพราะมีเคสเร่งด่วน”
“ถ้าอย่างนั้นสัก 6 โมงเย็นยายจะให้หนูเดซี่มาเรียก”
“ไม่เป็นไรไม่เป็นไรครับคุณยายเดี๋ยว 6 โมงผมไปที่บ้านคุณยายเอง”
“ก็ได้จ้ะ ตอนนี้ยายขอตัวไปดูก่อนไม่รู้ว่าเฟอร์นิเจอร์ที่สั่งมานั้นจัดวางได้ถูกใจหลานสาวยายหรือเปล่า”
ครับคุณยายเมื่อคุยกับคุณยายข้างบ้านแล้วติณณภพก็กลับเข้ามายังบ้านของตนเองแต่เขาไม่ได้อ่านหนังสือต่อเพราะเสียสมาธิไปแล้วจึงเปลี่ยนมาออกกำลังกายและทำความสะอาดบ้านแทน
จริงๆ แล้วเขาก็จ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดเป็นประจำในวันจันทร์ถึงศุกร์ แต่ถ้าเป็นหยุดหรือวันเสาร์อาทิตย์ชายหนุ่มต้องการความเป็นส่วนตัวจึงมักจะทำความสะอาดและทำกับข้าวกินเองที่บ้าน