บท
ตั้งค่า

1 ยินดีต้อนรับ

ติณณภพสูตินรีแพทย์วัย 35 ปีกำลังอ่านตำราทางการแพทย์ภาษาอังกฤษเล่มใหม่ล่าสุดที่เพิ่งได้รับมาอยู่ในบ้านขนาดสองห้องนอนสามห้องน้ำซึ่งชายหนุ่มเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ไม่ถึงปี แต่ยังอ่านไปได้ไม่ถึงไหนดังโครมครามก็รบกวนสมาธิทำให้เขาต้องปิดตำราทางการแพทย์เล่มหนาเพื่อเดินออกมาดูบริเวณหน้าบ้านว่าเกิดอะไรขึ้น

เมื่อเห็นรถที่จอดอยู่บริเวณนอกรั้วซึ่งด้านข้างมีชื่อของร้านเฟอร์นิเจอร์ติดไว้ ก็เข้าใจได้ไม่ยากว่าเพื่อนบ้านของเขาไม่หลังใดก็หลังหนึ่งน่าจะสั่งสินค้าจากร้านนี้ ชายหนุ่มชะเง้อคอไปทางด้านบ้านทางขวา ซึ่งเป็นบ้านของคุณหมอรุ่นพี่ซึ่งนานๆ จะกลับมาที่บ้านครั้งหนึ่งเพราะเป็นหมอประจำที่โรงพยาบาลในต่างจังหวัดแต่ทั้งบ้านก็เงียบสนิท เขาจึงเดินมาด้านซ้ายมองผ่านรั้วสูง 2 เมตรซึ่งด้านล่างปูด้วยอิฐหนาทึบส่วนด้านบนนั้นเป็นโครงเหล็ก ทำให้พอมองออกว่าคนในบ้านกำลังทำอะไรกันอยู่

“หมอติณณ์พวกเราทำเสียงดังรบกวนเวลาพักผ่อนของคุณหมอหรือเปล่าคะ” เสียงผู้หญิงสูงวัยทักทายตั้งแต่เขายังเดินไปไม่ถึงริมรั้วบ้าน

“นิดหน่อยครับคุณยาย แต่ไม่เป็นไรหรอกผมตื่นนานแล้ว คุณยายซื้อของเข้าบ้านเยอะเลยนะครับ”

“ก็ต้องซื้อเยอะหน่อยจ้ะ เพราะว่าหลานสาวยายจะมาอยู่ด้วยน่ะ”

“หลานที่คุณยายเคยเล่าให้ฟังว่าอยู่อังกฤษเหรอครับ”

“ใช่จ้ะ หมอติณณ์ยังไม่เคยเจอล่ะสิ เดี๋ยวยายจะเรียกหนูเดซี่มาให้ทำความรู้จักกันสักหน่อยนะ” คุณยายราตรีบอกกับคุณหมอหนุ่มก่อนจะหันไปตะโกนเรียกหลานสาวที่กำลังดูพนักงานช่วยกันขนเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้าน

“เดซี่ หนูเดซี่ออกมาหายายหน้าบ้านหน่อยจ้ะ”

“ค่ะคุณยาย” เสียงใสตอบกลับก่อนจะเดินมาหาคุณยายของตนที่ยืนอยู่ริมรั้ว

ติณณภพมองไปตามเสียงก็ต้องสะดุดตากับหญิงสาวคนหนึ่ง เธอมีรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวอมชมพูอย่างสุขภาพดี วงหน้ารูปไข่รับกับดวงตากลมโต ผมสีน้ำตาลเข้มยิ่งขับให้ผิวนั้นดูขาวกระจ่างมากขึ้น เขายอมรับในทันทีเลยว่าหลานสาวของคุณยายราตรีคนนี้สวยและดูมีเสน่ห์สะกดสายตาเขาได้มากเลยทีเดียว

“เรียกหนูเหรอคะคุณยาย”

“จ้ะ ยายอยากจะแนะนำให้หนูรู้จักเพื่อนบ้านเราหน่อยนี่หมอติณณภพ”

“สวัสดีค่ะคุณหมอติณณภพ” เดซี่หรือเดนิสายกมือไหว้เพื่อนบ้านอย่างนอบน้อมถึงแม้เธอจะอยู่ต่างประเทศมาตั้งแต่เด็กแต่หญิงสาวก็เรียนรู้ทั้งภาษาไทยและมารยาทของคนไทยมาจากมารดาได้เป็นอย่างดี

“สวัสดีครับ” ติณณภพยกมือรับไหว้และพยักและยิ้มรับเมื่อเห็นว่าอีกคนยิ้มให้ แต่เขารู้สึกแปลกเมื่อเห็นว่าหญิงสาวที่กำลังยิ้มให้นั้นมีแววตาที่เศร้าทั้งที่มันควรจะสดใสเหมือนกับรอยยิ้ม นัยน์ตาสีฟ้าของเธอมันดูหม่นหมองเหมือนมีเรื่องอะไรอยู่ในใจ

“หมอติณณจ้ะ หลานสาวยายนะชื่อหนูเดซี่ เธอจะมาเรียนต่อที่เมืองไทย ถ้ายังไงยายก็ฝากหลานสาวให้หมอติณณ์ช่วยดูแลอีกคนหนึ่งนะ ถือว่าเป็นลูกเป็นหลานก็แล้ว”

“ครับคุณยาย”

“แล้วหนูต้องเรียกคุณหมอคนนี้ว่าอะไรคะคุณยาย” เดนิสาหันไปถามคุณยายเพราะเธอไม่คุ้นเคยกับการเรียกคนไทยเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าจะเรียกได้แค่ชื่อเหมือนตอนที่อยู่อังกฤษหรือเปล่า

“ปีนี้หมอติณณ์อายุเท่าไหร่แล้วล่ะ ขอโทษนะที่ยายต้องถามจะได้ให้หนูเดซี่เรียกถูก” ยายราตรีรับอธิบายเพราะกลัวคุณหมอจะหาว่าละลาบละล้วงที่ไปถามถึงอายุ

“ผมอายุ 35 แล้วครับคุณยาย”

“หนูเดซี่เพิ่งจะ 20 งั้นเรียกคุณอาก็แล้วกันนะจะได้ดูสนิทสนม”

“คุณอาหมอติณณภพ”

“เรียกผมว่าหมอติณณ์ก็ได้นะ ไม่ต้องเรียกชื่อจริงหรอก”

“ค่ะอาหมอ"

“แล้วนี่จะมาเรียนที่นี่เลยใช่ไหม”

“ค่ะ หนูจะมาเรียนที่นี่ตอนนี้กำลังทำเรื่องเทียบหน่วยกิตกับทางมหาลัยค่ะ”

“มีอะไรให้อาช่วยเหลือก็บอกได้นะ”

“ขอบคุณค่ะอาหมอ"

“หนูไปจัดของต่อเถอะเดี๋ยวยายคุยกับหมอติณณ์อีกนิดแล้วยายจะตามไปนะ”

“ค่ะยาย” พูดจบหญิงสาวก็เดินกลับเข้าไปในบ้าน

“แปลกนะครับคุณยาย”

“แปลกยังไงเหรอหมอติณณ์”

“ก็ปกติแล้วใครๆ เขาก็อยากไปเรียนต่างประเทศกันทั้งนั้น แต่หลานสาวคุณยายกลับย้ายมาเรียนที่เมืองไทย”

“หลายของยายเจอปัญหานิดหน่อยน่ะจ้ะ เอาไว้ยายจะเล่าให้นะ”

“คุณยายครับ ครับถ้ามันเป็นเรื่องภายในครอบครัวยายไม่ต้องเล่าให้ผมฟังก็ได้”

“มันเป็นเรื่องภายในครอบครัวของยายก็จริง แต่ยายก็เห็นหมอติณณ์เป็นลูกเป็นหลาน อีกอย่างหมอติณณ์ก็เป็นหมอยายว่าบางทีอาจจะช่วยเหลือหลานสาวของยายได้บ้าง” ยายราตรีมองหน้าคุณหมอหนุ่มอย่างมีความหวัง

“ถ้ายายคิดอย่างนั้นผมก็ยินดีรับฟังครับ”

“เย็นนี้หมอติณณ์มาทานข้าวที่บ้านยายสิ ยายจะทำอาหารเลี้ยงต้อนรับหนูเดซี่อยู่พอดีเลย”

“ได้ครับคุณยาย”

“ยายมัดมือชกหมอติณณ์เกินไปหรือเปล่า หมอต้องออกไปตรวจคนไข้หรือไปเที่ยวไหนไหม”

“ไม่หรอกครับปกติวันอาทิตย์ผมก็อยู่บ้านเกือบทั้งวันอยู่แล้ว”

“ไม่ต้องไปตรวจคนไข้ใช่ไหมจ้ะ”

“ไม่ต้องไปตรวจครับ นอกจากว่าโรงพยาบาลจะโทรตามเพราะมีเคสเร่งด่วน”

“ถ้าอย่างนั้นสัก 6 โมงเย็นยายจะให้หนูเดซี่มาเรียก”

“ไม่เป็นไรไม่เป็นไรครับคุณยายเดี๋ยว 6 โมงผมไปที่บ้านคุณยายเอง”

“ก็ได้จ้ะ ตอนนี้ยายขอตัวไปดูก่อนไม่รู้ว่าเฟอร์นิเจอร์ที่สั่งมานั้นจัดวางได้ถูกใจหลานสาวยายหรือเปล่า”

ครับคุณยายเมื่อคุยกับคุณยายข้างบ้านแล้วติณณภพก็กลับเข้ามายังบ้านของตนเองแต่เขาไม่ได้อ่านหนังสือต่อเพราะเสียสมาธิไปแล้วจึงเปลี่ยนมาออกกำลังกายและทำความสะอาดบ้านแทน

จริงๆ แล้วเขาก็จ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดเป็นประจำในวันจันทร์ถึงศุกร์ แต่ถ้าเป็นหยุดหรือวันเสาร์อาทิตย์ชายหนุ่มต้องการความเป็นส่วนตัวจึงมักจะทำความสะอาดและทำกับข้าวกินเองที่บ้าน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel