13 แค่ได้คุยก็หายเหนื่อย
ตั้งแต่ไปดูหนังด้วยกันเมื่อครั้งก่อนปิ่นปินัทธ์และกรัณย์กรก็มีความสนิทสนมกันมากขึ้น ถ้าวันไหนชายหนุ่มไม่ขึ้นเวรก็จะหาเวลามาทานข้าวกับเธอและคุณยายที่บ้านส่วนเสาร์อาทิตย์ถ้าไม่มานั่งเล่นที่บ้านก็พากันออกไปเดินเล่นและซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า
คุณยายละมัยรู้สึกสบายใจมากขึ้นเมื่อเห็นว่าคุณหมอกรัณย์กรนั้นคบกับหลานสาวของเธออย่างเปิดเผยและจะขออนุญาตทุกครั้งก่อนจะพาปิ่นปินัทธ์ออกจากบ้าน
ตอนนี้ความรู้สึกที่ปิ่นปินัทธ์มีให้กับหมอกรัณย์กรนั้นมากอย่างที่ไม่เคยมีให้กับผู้ชายคนไหนมาก่อน เพราะหมอเป็นคนสุภาพมีเหตุผลถึงแม้เขาจะทำงานหนักมาก แต่คุณหมอหนุ่มก็ยังแบ่งเวลาโทรหาและไลน์หาเธอได้ทุกวัน มันทำให้หัวใจของหญิงสาวเต้นแรงจากความชอบ ความชื่นชมตอนนี้เธอคิดว่าตนเองนั้นรักคุณหมอหนุ่มคนนี้อย่างสุดหัวใจ
เกือบสี่เดือนแล้วที่ทั้งสองรู้จักกันแต่ถ้านับเวลาคบกันเป็นแฟนก็ประมาณสองเดือนทั้งสองไม่เคยทะเลาะกันเลยสักครั้ง
หญิงสาวรู้ว่างานของเขายุ่งและไม่ค่อยมีเวลาเธอก็ไม่เคยงี่เง่าหรืองอแงให้เขาต้องมาอยู่ด้วย เหตุผลข้อนี้เลยทำให้คุณหมอหนุ่มเองก็รู้สึกว่าโชคดีมากๆ ที่ได้คบกับคุณครูปิ่นปินัทธ์เพราะที่ผ่านมาเขาเจอแต่ผู้หญิงเอาแต่ใจมาตลอดไม่เคยมีใครเข้าใจเขา ไม่เคยสนใจว่าในแต่ละวันเขาต้องเหนื่อยมากแค่ไหน แต่กับปิ่นปินัทธ์แล้วหญิงสาวถามไถ่ห่วงใยเขาอยู่ตลอดเวลา
แม้บางวันมีเวลาคุยกับเธอไม่ถึงห้านาทีแต่เธอก็ไม่เคยแสดงอาการน้อยใจให้เขาเห็นเลยสักครั้ง กรัณย์กรวางแผนไว้ว่า ก่อนที่ตัวเองจะไปเรียนต่อเฉพาะทางในกรุงเทพจะต้องให้มารดามาพูดจาสู่ขอปิ่นปินัทธ์กับคุณยายของเธอเพราะระหว่างที่เขาเรียนอยู่กรุงเทพเขาก็กลัวว่าจะมีใครมาสนใจคุณรักของเขา
กรัณย์กรอยากจะพาปิ่นปินัทธ์ไปค้างกับตนเองบ้างแต่ก็ยังไม่มีโอกาส อีกทั้งเขาก็ไม่รู้จะบอกกับคุณยายว่ายังไงการที่จะพาหลานสาวของคุณยายละมัยออกไปนอนค้างด้วย
มันเป็นเรื่องที่เขาคิดไม่ตกจริงๆ แต่ถ้าให้มารดาพูดจาสู่ขอหรือหมั้นกันไว้ก่อน การพาเธอออกไปค้างด้วยก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่เขายังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับปิ่นปินัทธ์เพราะยังเหลือเวลาอีกหลายเดือนกว่าจะถึงเวลาที่เขาจะไปเรียนที่กรุงเทพ ชายหนุ่มอยากจะใช้เวลาอยู่กับเธอให้มากที่สุดระหว่างที่ตนเองยังประจำอยู่โรงพยาบาลแห่งนี้
“ปิ่นทำอะไรอยู่ครับ” คุณหมอหนุ่มโทรศัพท์มาหาแฟนสาวในเวลาสามทุ่มหลังจากกลับมาจากโรงพยาบาล
“ปิ่นกำลังตรวจการบ้านเด็กค่ะ หมอล่ะคะเพิ่งเลิกงานเหรอวันนี้เหนื่อยไหมคะ”
“นิดหน่อยครับวันนี้ผมเข้าไปเป็นลูกมืออาจารย์หมอในห้องผ่าตัดด้วยเพิ่งจะกลับถึงห้องตอนนี้เอง”
“คงเหนื่อยแย่เลยนะคะ แล้วกินข้าวหรือยัง”
“ผมว่าเดี๋ยวจะเอาอาหารกล่องมาเวปกินครับให้ไปซื้อตอนนี้คงไม่ไหวแน่ๆ”
“ถ้างั้นหมอรีบไปกินเถอะค่ะจะได้นอนพักนะคะ”
“ได้ยินเสียงปิ่นแบบนี้ผมก็หายเหนื่อยแล้วครับ”
“หมอก็พูดเกินไปค่ะ มันไม่มีหรอกคนเราต้องนอนพักถึงจะหายเหนื่อย ไม่รู้ว่าเป็นหมอมาได้ยังไงนะคะ” หญิงสาวพูดแล้วหัวเราะทำให้ปลายสายอีกฝั่งรู้สึกอารมณ์ดีตามเธอไปด้วย
“ปิ่นไลน์มาว่ามีเรื่องจะบอกผม เรื่องอะไรครับ”
“ตายจริงปิ่นลืมไปเลยค่ะ คือปิ่นจะบอกว่าที่หมอนัดปิ่นไว้ว่าจะพาปิ่นไปทานข้าวปิ่นคงต้องยกเลิก”
“ทำไมล่ะ”
“ปิ่นลืมค่ะ ว่าปิ่นมีนัดเลี้ยงรุ่น”
“เหรอครับน่าเสียดายจัง แล้วปิ่นนัดเลี้ยงรุ่นที่ไหนล่ะ”
“นัดเลี้ยงกันที่กรุงเทพค่ะ”
“แล้วปิ่นจะไปยังไงครับ”
“ก็ขับรถไปเองสิคะ ใกล้นิดเดียว”
“ผมอยากขับรถไปให้เป็นจัง”
“ปิ่นว่าวันหยุดทั้งทีหมอพักอยู่บ้านเถอะค่ะ”
“ปิ่นไปวันไหนล่ะ”
“งานเลี้ยงมีเย็นวันเสาร์ค่ะ ปิ่นจะไปค้างที่กรุงเทพหนึ่งคืน วันอาทิตย์เย็นๆ ค่อยกลับค่ะ”
“ผมอยากขับรถให้ปิ่น อยากไปเจอเพื่อนของปิ่นด้วย”
“เพื่อนของปิ่นมีแต่ผู้หญิง หมอไปเจอก็คงจะต้องเบื่อแน่ๆ”
“ที่ไม่อยากให้ผมไปเพราะแอบซ่อนอะไรไว้หรือเปล่า”
“ไม่ได้แอบซ่อนอะไรไว้หรอกค่ะ ปิ่นเกรงใจหมอจริงๆ ทำงานเหนื่อยมาทั้งอาทิตย์แล้ววันหยุดควรจะพักผ่อน”
“แต่เราเป็นแฟนกันนะให้ผมดูแลปิ่นบ้างเถอะได้ไหมผมไม่ค่อยได้ทำหน้าที่แฟนเลย”
“การให้คุยกันทุกวันโทรหากันทุกวันก็ทำก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้วค่ะ”
“แต่ผมรู้สึกว่าตัวเองเอาเปรียบปิ่นยังไงก็ไม่รู้นะ ชอบไปขอข้าวที่บ้านปิ่นกินอยู่เรื่อยเลย”
“แต่หมอไม่ได้มาขอฟรีๆ นี่คะ พักหลังหมอซื้อทั้งผลไม้ซื้อทั้งอาหารเสริมมาให้คุณยายจนท่านกินแทบไม่ทันแล้ว”
“มันยังน้อยไปนะครับ กับอาหารอร่อยๆ ที่คุณยายทำให้ผมกิน ตกลงปิ่นให้ผมขับรถไปให้ดีไหม ผมไปส่งปิ่นที่งานเลี้ยงแล้วกลับมานอนที่คอนโดพอเป็นเลิกงานผมก็ไปรับปิ่นดีไหมครับ”
“หมอแค่ไปส่งปิ่นที่โรงแรมก็พอค่ะ เพราะเลิกงานแล้วปิ่นก็จะพักที่นั่นเลย ปิ่นจองโรงแรมไว้แล้ว”
“ผมนึกว่าปิ่นจะไปค้างที่คอนโดกับผม โรงแรมที่จัดงานอยู่ตรงไหนครับ”
“โรงแรม xxx ค่ะ”
“มันอยู่ไกลจากคอนโดของผมเหมือนกันนะ”
“ถ้ามันไกลมาก ปิ่นว่าปิ่นไปคนเดียวดีกว่าค่ะ ไม่อยากให้หมอเหนื่อย”
“ผมจองโรงแรมเดียวกับปิ่นก็ได้ ส่งปิ่นแล้วผมจะได้นอนพัก”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจหมอเถอะค่ะ”
กรัณย์กรอยากชวนเธอไปค้างที่คอนโดด้วยแต่ถ้าบอกไปตอนนี้ปิ่นปินัทธ์คงต้องปฏิเสธแน่เขาคิดว่าพอถึงวันงานจะต้องหาทางชวนหญิงสาวมาค้างกับตัวเองให้ได้
ตั้งแต่คบกับผู้หญิงมาไม่เคยมีใครทำให้เขารอนานขนาดนี้ บางคนรู้จักกันแค่สองสัปดาห์เขาก็พาขึ้นเตียงแล้ว แต่เขากับปิ่นปินัทธ์รู้จักกันมาสี่เดือน ชายหนุ่มได้แค่จับมือกับหอมแก้มหญิงสาว เขารู้ว่าถ้ารักก็ต้องรอให้ได้และต้องให้เกียรติเธอละครอบครัวแต่บางครั้งก็อยากจะทำตามอารมณ์และความรู้สึกของตนเอง ถ้าหากเขากับเธอจะนอนด้วยกันก็คงไม่ผิดอะไรเพราะเขาจริงจังกับความรักครั้งนี้มากและมองถึงการได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน
“ตกลงเราเจอกันสายๆ วันเสาร์ดีไหม ปิ่นขับรถมาจอดที่โรงพยาบาลหรือจะให้ผมไปรับที่บ้าน”
“ปิ่นขอขับรถไปจอดที่โรงพยาบาลดีกว่าค่ะ ปิ่นไม่อยากให้ยายเป็นห่วงถ้ายายรู้ว่าปิ่นไปกับหมอ”
“หมายความว่าปิ่นจะบอกยายว่าตัวเองไปคนเดียวเหรอครับ”
“ค่ะ ปิ่นกลัวยายไม่สบายใจ” ปิ่นปินัทธ์ไม่รู้ว่าถ้าเธอบอกคุณยายว่าการไปกรุงเทพครั้งนี้หมอกรัณย์กรจะเป็นคนขับรถให้คุณยายจะยอมให้เธอไปกับเขาไหม ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะจองห้องพักที่โรงแรมแล้วก็ตาม เธอเลยเลือกที่จะไม่บอกคุณยายดีกว่าเพราะไม่อยากให้ท่านคิดมาก
“ถ้างั้นก็ตกลงตามนี้นะคะ หมอไปทานข้าวได้แล้วค่ะ”
“ผมว่ากินข้าวแล้วจะนอนเลย คืนนี้ไม่โทรมาแล้ว ปิ่นก็อย่านอนดึกนะ ครับรักษาสุขภาพด้วย”
“ค่ะ ฝันดีนะคะ”
“ฝันดีครับ”
เมื่อวางสายจากหมอกรัณย์กรแล้วปิ่นปินัทธ์ก็นั่งทำงานต่ออีกพักใหญ่ก่อนจะปิดไฟและเตรียมเข้านอน
อาทิตย์หน้าเธอมีนัดเลี้ยงรุ่นกับเพื่อนและเพื่อนส่วนใหญ่ก็จะพาแฟนไปเปิดตัวกันในงานนี้แต่ เธอไม่ได้บอกเพื่อนว่าจะพาใครไปเพราะไม่กล้าชวนกรัณย์กรเนื่องจากเห็นว่าเขางานค่อนข้างยุ่งแต่ในเมื่อเขาตกลงจะไปแบบนี้ ใกล้ถึงวันงานเธอจะลองถามเขาอีกครั้งว่าที่เขาบอกอยากจะรู้จักกับเพื่อนของเธอนั้นเขาอยากรู้จักจริงๆไหม บางทีเธออาจจะพาเขาไปแนะนำให้กับเพื่อนร่วมรุ่นได้รู้จักบ้างหลังจากที่ไปเลี้ยงรุ่นคนเดียวตั้งแต่เรียนจบ