ตอนที่ 8 คุณไม่เหมาะกับการใส่เสื้อเชิ้ต
จินอวี้หรงกดวางสาย แล้วหันไปมองหวังยีหมิง
หวังยีหมิงได้ยินบมสนทนาของจินอวี้หรงและพอจะคาดเดาเรื่องราวได้ เขาจึงพูดขึ้นว่า “เล่นงานเย่ฉางชิงใช่ไหม เรื่องเล็กน้อย เดี๋ยวผมหาเวลาไปเล่นงานเขาแทนน้องชายคุณเอง ที่จริงแล้วเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องเล็กมาก ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการได้ร่วมมือกับตระกูลจ้าว ผมมีเพื่อนที่รู้จักทำงานในเฟิงเหนียน กรุ๊ปพรุ่งนี้เราไปหาเขากัน”
จินอวี้หรงพยักหน้า ยิ่งมองหวังยีหมิงก็ยิ่งพอใจ หวังยีหมิงรู้ว่าเธอต้องการอะไร และยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเธอ
อีกทั้งยังมีคนรู้จักที่กว้างขวาง แล้วยังมีเพื่อนที่รู้จักทำงานในเฟิงเหนียน กรุ๊ป
นี่คือสิ่งที่ไม่ว่าเย่ฉางชิงจะทำยังไงก็ไม่มีวันเทียบเขาได้
พอคิดได้แบบนี้ เธอยิ่งรู้สึกว่าเธอหย่ากับเย่ฉางชิงแล้วคบกับหวังยีหมิง ถือเป็นการทอดทิ้งสิ่งที่ไร้ประโยชน์แล้วเลือกสิ่งที่ดีกว่าแทน
อารมณ์ของเธอเริ่มดีขึ้น
วันต่อมา
หลังจากที่เย่ฉางชิงไปส่งลูกสาวที่โรงเรียนอนุบาลแล้ว เขาก็ไปที่เฟิงเหนียน กรุ๊ป
ตอนออกจากบ้าน แม่ของเขาย้ำนักย้ำหนาให้เขาลองเริ่มก่อนบ้าง พูดจาให้หวานมากขึ้น และยังบอกอีกว่าจ้าวชิวเยญเป็นผู้หญิงที่ดีมากคนหนึ่ง
ปากของเขาตกปากรับคำ แต่ที่จริงแล้วเขาแค่อยากให้แม่ดีใจ
เขารู้ว่าเขาทำไม่ได้ จินอวี้หรงทำร้ายจิตใจเขาอย่างหนัก ทำให้ตอนนี้เขายากที่จะทุ่มเทความรักให้กับผู้หญิงคนอื่น
การไปพบจ้าวชิวเยญในครั้งนี้ เขาจะไม่ทำให้ตัวเองต้องลำบากใจแน่นอน
ส่วนเรื่องการแต่งงาน ก็ปล่อยให้เป็นไปตามโชคชะตา!
ที่ห้องทำงานประธานเฟิงเหนียน กรุ๊ปจ้าวชิวเยญมีสีหน้าที่เย็นชา แต่ดูกังวลเล็กน้อย
เหมือนกับผิวน้ำที่ถูกน้ำแข็งปกคลุม เริ่มมีรอยแตกขึ้นมา
“ถิงถิง ฉันจะทำยังไงดี?เย่ฉางชิงก็แค่ผู้ชายลามกคนหนึ่ง ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน เขาก็ปลดกระดุมเสื้อฉันแล้ว อีกทั้งวันนี้เขาก็จะมาหาฉันเพื่อทำความรู้จักกันมากขึ้นอีกด้วย คนแบบนี้ ฉันไม่อยากทำความรู้จักต่อเลย แต่เพราะมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากเขา จะไล่เขาไปไม่ได้”
หลิวอวี้ถิงเป็นเลขาของจ้าวชิวเยญ และยังเป็นเพื่อนสนิทของเธอด้วย ตอนนี้กำลังยืนปลอบอยู่ข้างๆ “อดทนหน่อยนะ ถ้าเขากล้าทำอะไรไม่ดีกับเธอ ไม่ต้องรอเธอบอก ฉันจะจัดการไล่เขาออกไปเอง!”
ขณะที่พูด เธอก็ยกหมัดขึ้นมาชกอากาศ เหมือนแมวตัวเล็กที่ถูกเหยียบหาง ท่าทางดุร้าย
จ้าวชิวเยญเห็นแบบนั้นก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาบ้าง “เธอว่าเราจะให้เขาทำงานตำแหน่งอะไรดี?”
หลิวอวี้ถิงเองก็กังวล “บริษัทเราเป็นบริษัทผลิตยา หมอคนหนึ่ง ดูเหมือนจะไม่มีตำแหน่งที่เหมาะสมกับเขาเลย ให้เขาเป็นคนขับรถให้เธอดีไหม?”
จ้าวชิวเยญสีหน้าไม่ชอบใจ “ฉันไม่อยากนั่งรถกับเขา ถ้าเขาเกิดมีอารมณ์ขึ้นมาตอนจับรถ ฉันจะไม่ใช่หาเรื่องใส่ตัวเองเหรอ?”
หลิวอวี้ถิงหัวเราะออกมาเบาๆ “เธอเองก็อายุมากขนาดนี้แล้ว ยังไม่เคยลิ้มลองรสชาติของผู้ชายเลย หรือว่าจะใช้โอกาสนี้ลองเปิดใจดู?”
จ้าวชิวเยญหน้าแดงก่ำ “ยัยบ้า เธอพูดบ้าอะไรของเธอ?”
หลิวอวี้ถิงหัวเราะแล้วพูดว่า “เธอนี่นะ ปากแข็งจริงๆ แต่ในใจคงคิดอยู่เหมือนกันใช่ไหมล่ะ”
จ้าวชิวเยญทำท่าจะตี “ยัยบ้า เธอคิดถึงผู้ชายเอง แล้วมาว่าฉัน อยากโดนตีตายใช่ไหม?”
หลิวอวี้ถิงหดคอหนี “ไม่พูดแล้ว ไม่พูดแล้ว เรามาพูดเรื่องสำคัญกันดีกว่า ตำแหน่งงานของเย่ฉางชิงฉันยังขอยืนยันว่าให้เขาเป็นคนขับรถของเธอ ถ้าอยากเจอเขาก็ให้เขามาขับรถให้ ถ้าไม่อยากเจอก็ให้เขาขับรถอีกคันหนึ่ง จะเจอหรือไม่เจอก็อยู่ที่เธอจะตัดสินใจ”
จ้าวชิวเยญคิดตามแล้วก็เห็นด้วย “ได้ ตกลงตามนี้เลย”
ติ๊ง~
ประตูลิฟต์เปิดออก
เย่ฉางชิงเดินออกมาจากลิฟต์ แล้วเห็นห้องทำงานของประธานบริษัท เขาก็เดินตรงไป
พอถึงหน้าประตู เขาก็เห็นจ้าวชิวเยญกำลังนั่งเขียนอะไรอยู่ วันนี้จ้าวชิวเยญใส่ชุดสูท แต่งหน้าบางๆ ริมฝีปากสีแดงน่าดึงดูด ดูมีความมั่นใจและสวยกว่าเมื่อวานมาก เขายืนอยู่ตรงนั้นนาน ไม่รู้ว่าจะเริ่มทักทายประโยคแรกว่าอะไรดี
จ้าวชิวเยญ เงยหน้าขึ้นมา แล้วเห็นเย่ฉางชิงเธอจึงสะดุ้งตกใจเล็กน้อย จากนั้นสีหน้าของเธอก็กลับไปเย็นชาเหมือนเดิม “คุณมาแล้วเหรอ”
เย่ฉางชิงตอบรับเสียงเบา แล้วเดินเข้าไปในห้องทำงาน พร้อมกับนั่งลงตรงข้ามกับจ้าวชิวเยญ “วันนี้คุณสวยมาก”
เขาทำตามคำแนะนำของแม่ พยายามพูดจาหวานๆ
เริ่มต้นด้วยการชมเธอ
สีหน้าของจ้าวชิวเยญยิ่งเย็นชามากขึ้น “อ่อ”
เย่ฉางชิงทอดสายตามองที่หน้าอกของจ้าวชิวเยญ โดยไม่รู้ตัว แล้วมองไปที่กระดุมเม็ดที่สาม
จ้าวชิวเยญ ขมวดคิ้วแน่น เขาเป็นคนลามกจริงๆ ด้วย ดูสายตาของเขาสิ “คุณมองตรงไหนของคุณ!”
เย่ฉางชิงเคยถูกเข้าใจผิดมาก่อน จึงรู้สึกเข็ดหลาบ และไม่กล้ามองอีก เขาแค่เผลอมองไปที่กระดุมเม็ดที่สามของจ้าวชิวเยญ
วันนี้จ้าวชิวเยญ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว เสื้อเชิ้ตดูรัดแน่นจนกระดุมเหมือนจะหลุดออกได้ทุกเมื่อ
เขารู้ว่าอีกฝ่ายต้องเข้าใจผิดแน่ “ผมขอเตือนหน่อยนะ คุณไม่ควรใส่เสื้อเชิ้ต
บางครั้ง… มันใหญ่เกินไป ทำให้กระดุมหลุดได้ง่าย”
จ้าวชิวเยญ โกรธจนหน้าแดงก่ำ “คุณยังจะพูดอีก!”
เย่ฉางชิงเห็นท่าทางเธอ และรู้ว่าเธอเข้าใจผิดอีกแล้ว จึงรีบเปลี่ยนเรื่อง “ผมมาที่นี่เพื่อจะได้ทำความรู้จักกับคุณมากขึ้น แต่จะให้นั่งเฉยๆ ก็ไม่ได้
คุณจัดงานให้ผมด้วย”
จ้าวชิวเยญ กัดฟันกรอด “คนขับรถ ฉันจะคุณทำงานเป็นคนขับรถส่วนตัวของฉัน นี่คือกุญแจรถ”
กุญแจรถถูกวางลงบนโต๊ะ ก่อนที่มือของเธอจะผลักไปข้างหน้า กุญแจเลื่อนไปทางเย่ฉางชิงอย่างรวดเร็ว
ก่อนที่กุญแจจะตกจากโต๊ะ
เย่ฉางชิงก็จับกุญแจรถไว้ได้ “รถจอดอยู่ที่ไหน?”
จ้าวชิวเยญ รู้สึกแปลกใจที่เย่ฉางชิงสามารถจับกุญแจไว้ได้ เธอฮึดฮัดในใจว่า “อยู่ที่ชั้นล่างสุด ที่จอดรถชั้นใต้ดิน
คุณรีบไปได้แล้ว!”
เธอโบกมือเหมือนกับไล่ เธออยากให้เย่ฉางชิงรีบออกไปจากห้องนี้
อ่อ~
เย่ฉางชิงลุกขึ้นและเดินออกไป ตอนที่เดินถึงหน้าประตู เขาก็หันกลับมาพูดอีกครั้ง “หน้าอกของคุณใหญ่เกินไป ไม่เหมาะกับการใส่เสื้อเชิ้ต”
“นี่คุณ! คนลามก!”
จ้าวชิวเยญ หายใจแรงด้วยความโมโห หน้าอกของเธอขยับขึ้นลงอย่างแรง
หลิวอวี้ถิง เดินเข้ามา “พวกเธอคุยอะไรกัน ทำไมเธอถึงโมโหขนาดนี้?”
จ้าวชิวเยญพูดอย่างไม่พอใจว่า "ตาบ้านั่นบอกว่าหน้าอกของฉัน... มันใหญ่เกินไป ไม่เหมาะที่จะใส่เสื้อเชิ้ต"
หลิวอวี้ถิงมองไปที่หน้าอกของจ้าวชิวเยญสักพัก แล้วถามด้วยความไม่แน่ใจ "ดูเหมือนว่า... มันจะใหญ่ขึ้นจริงๆ เธอทำได้ยังไง?"
จ้าวชิวเยญตอบอย่างโมโห "ไปให้พ้นเลย!"
หลิวอวี้ถิงหลุดหัวเราะออกมา แล้วพูด "ฉันไปก็ได้ ไปแล้วนะ"
พูดจบเธอก็รีบเดินออกไป
เย่ฉางชิงนั่งลิฟต์ไปที่ชั้นใต้ดิน กดปุ่มกุญแจรถ แล้วรถยนต์สีชมพูใหม่เอี่ยมไฟกะพริบขึ้นมา
สีชมพู?
เย่ฉางชิงขมวดคิ้ว ลูกผู้ชายอกสามศอก จะให้ขับรถแบบนี้มันดูหวานแหววเกินไป และดูตุ้งติ้งเกินไป
รถคันนี้ เขารู้สึกกระดากอายที่จะขับรถออกไป
ในเวลานี้เองตรงบริเวณทางเข้า มีรถยนต์คันหนึ่งขับเข้ามาจอดข้างรถสีชมพู ก่อนที่ประตูรถจะเปิดออก
จินอวี้หรงลงจากรถมา แล้วเห็นเย่ฉางชิง"ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่?"
เย่ฉางชิงมองจินอวี้หรงด้วยสายตาเย็นชา ไม่พูดอะไร
หย่ากันแล้ว เขาไม่อยากมีความสัมพันธ์อะไรกับเธออีก ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากให้ไม่ต้องอีกตลอดชีวิต
จินอวี้หรงเห็นเย่ฉางชิงนิ่งเงียบ เธอก็นึกถึงเรื่องที่น้องชายของเธอถูกทำร้ายขึ้นมา "เย่ฉางชิงก่อนหน้านี้นายยังถือว่าเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่ง อย่างน้อยก็ไม่เคยลงมือทำร้ายใคร
แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เพิ่งเซ็นใบหย่า นายก็เผยธาตุแท้ออกมาแล้ว
ถึงแม้นายจะไม่อยากหย่า หรือมีความไม่พอใจอะไร ก็ไม่ควรไประบายอารมณ์กับน้องชายของฉัน!"
ระบายอารมณ์?
เย่ฉางชิงได้ยินแบบนี้สายตาของเขาก็ยิ่งเย็นชามากขึ้น “คุณคิดไปเองมากเกินไปแล้ว ที่ผมกระทืบน้องชายคุณ เพราะเขาสมควรโดนกระทืบ ตอนนี้ผมรู้สึกว่าที่ผมกระทืบเขาเมื่อครั้งที่แล้วมันยังน้อยไปด้วยซ้ำ!”
จินอวี้หรงโกรธจนตัวสั่นเย่ฉางชิงเปลี่ยนไปจนเธอแทบไม่รู้จักเขาแล้ว
ทั้งหยาบคาย ไร้เหตุผล ชอบใช้ความรุนแรง และเย็นชา
เพิ่งเปลี่ยนสถานะเป็นอดีตน้องเขย เขาก็ลงมือทำร้ายอีกฝ่ายแล้ว “นายทำให้ฉันผิดหวังมาก! นายไม่ควรทำร้ายน้องชายของฉัน ถึงเขาจะนิสัยไม่ค่อยดีไปบ้าง แต่เขาก็เป็นน้องชายของฉัน!”
เย่ฉางชิงยิ่งฟังยิ่งโมโห “ถึงเขาจะเป็นพ่อของคุณ ผมก็ยังกระทืบอยู่ดี!”
จินโหย่วซินมาอาละวาดทำลายข้าวของที่บ้านเขาหลายครั้ง พ่อแม่ของเขาถูกรังแกจนสภาพทั้งสองคนดูแก่ลงสิบปียังไม่พอ ยังทำร้ายหลิงลิงลูกสาวของเขาอีก ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร เขาก็กระทืบอยู่ดี!
เรื่องนี้เขาไม่มีวันใจอ่อนเด็ดขาด!