ตอนที่ 5 คุณใช่เย่ฉางชิงไหม
จินอวี้หรงตกตะลึง เมื่อเห็นว่าเย่ฉางชิงกำลังเร่งเร้าให้เธอเร็วๆ หน่อย
ทำไมถึงเป็นอย่างนี้?
ไม่ควรจะเป็นเย่ฉางชิงที่พยายามหาข้ออ้าง เพื่อจะได้ไม่ต้องหย่าเหรอ?
หรือว่าเธอจะคิดผิดไป?
เย่ฉางชิงเห็นจินอวี้หรงยืนนิ่งอึ้ง เขาก็พูดเสียงเย็นว่า “หยุดเหม่อได้แล้ว เดินเร็วๆผมไม่อยากอยู่ในฐานะสามีภรรยากับคุณอีกแม้แต่วินาทีเดียว!”
เขาถูกทำร้ายจิตใจมากพอแล้ว ตอนนี้เขาแค่อยากให้ทุกอย่างมันจบ
ตรงหน้าประตูมีคนเดินผ่านไปผ่านมา แล้วมองไปที่จินอวี้หรงด้วยสายตาแปลกๆ
จินอวี้หรงสีหน้ากระอึกกระอัก ในเวลานี้เหมือนกับว่าเป็นฝ่ายเธอที่ไม่ยอมหย่า เธอรู้สึกขายหน้ามาก จึงรีบเดินเข้าไปในสำนักทะเบียนเขต
ในปากยังคงหาข้ออ้างให้ตัวเอง “เป็นฉันต่างหากที่อยากหย่ากับนาย นาย…”
เธอพูดยังไม่ทันจบ แต่พบว่าเย่ฉางชิงไปถึงตรงโต๊ะแล้ว เธอจึงรีบเดินตามหลังไป
มีหนังสือสัญญาการหย่าร้าง อีกทั้งทั้งสองคนต่างก็เอาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนมาแล้ว และต่างก็ยืนยันที่จะหย่ากัน
เจ้าหน้าที่เงยหน้าขึ้นมองทั้งสองคน แล้วจัดการเรื่องการหย่าให้พวกเขา
เย่ฉางชิงได้ใบการหย่าแล้ว เขาก็รีบเดินออกจากสำนักทะเบียนเขตทันที
จินอวี้หรงเห็นว่าเย่ฉางชิงเดินจากไปแล้ว เธอก็ตะโกนเรียกตามหลัง “เย่ฉางชิงหยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
เย่ฉางชิงเพิ่งหย่า อารมณ์กำลังแปรปรวน พอได้ยินเสียงเรียกก็หยุดเดิน เขาหันกลับไปมองจินอวี้หรงด้วยสายตาเย็นชา “มีอะไร?”
จินอวี้หรงโบกใบหย่าที่อยู่ในมือ “ตอนนี้เรามีใบนี้แล้ว จากนี้ไป เราจัเป็นแค่คนแปลกหน้าต่อกัน
ดังนั้นมีบางอย่างที่ฉันต้องพูดให้ชัดเจน ถ้านายไม่มีเงิน ก็อย่ามาขอยืมฉัน ถ้าไม่มีงาน ก็อย่ามาขอให้ฉันแนะนำ มีปัญหาก็อย่ามาขอความช่วยเหลือจากฉัน เพราะถึงแม้จะมาขอร้อง ฉันก็ไม่ช่วย
ฉันจะเริ่มต้นชีวิตใหม่แล้ว!”
ถึงแม้จะหย่าแล้ว แต่เธอยังรู้สึกเหมือนไม่ใช่เรื่องจริง เย่ฉางชิงไม่มีทั้งเงินและยังไม่มีงานทำ
เธอกลัวว่าเย่ฉางชิงจะมาขอความช่วยเหลือจากเธอ
เธอจึงตัดสินใจที่จะเตือนเขาไว้ก่อน
“ขอร้องเธออย่างนั้นเหรอ?”
เย่ฉางชิงยิ่งฟังก็ยิ่งโมโห “จินอวี้หรงคุณสำคัญตัวเองเกินไปหรือเปล่า!ผมจะต้องมีชีวิตที่ดีกว่าคุณแน่นอน ในอนาคตอาจจะเป็นคุณมากกว่าที่มาขอร้องผม!”
พอพูดจบเขาก็ไม่รอให้จินอวี้หรงพูดตอบ แล้วเดินไปที่ข้างถนน มองซ้ายมองขวา พอเห็นแท็กซี่คันหนึ่งขับมาทางนี้ เขาจึงรีบโบกมือเรียกรภ
รถแท็กซี่เหมือนมองไม่เห็นเขา แล้วเหยียบคันเร่ง ขับผ่านไปอย่างรวดเร็ว
“ฮึ!”
จินอวี้หรงทำสีหน้าเยาะเย้ย ผู้ชายคนหนึ่งตกต่ำถึงขั้นต้องนั่งรถแท็กซี่กลับบ้าน อีกทั้งแท็กซี่ยังไม่รับเขาอีก
นี่มันยังขายหน้าไปพออีกหรือไง?
ถึงขั้นนี้แล้ว ยังปากแข็งอีก
เธอเตรียมจะพูดประชดประชันสักหน่อย โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นมา เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาดู พอเห็นว่าคนที่โทรมาคือหวังยีหมิง “ฮัลโหล~”
เสียงของหวังยีหมิงดังออกมา “เซ็นใบหย่าเสร็จหรือยัง?”
จินอวี้หรงยกยิ้มแล้วตอบ “วางใจได้ค่ะ เซ็นเรียบร้อยแล้ว”
เสียงของหวังยีหมิงดังออกมาด้วยน้ำเสียงดีใจ “ดีจริงๆ นี่ถือเป็นข่าวดีมาก
คุณยืนอยู่ตรงนั้นรอผมก่อนนะ เดี๋ยวผมจะไปรับ วันนี้เราจะต้องฉลองกันให้ยิ่งใหญ่ไปเลย”
จินอวี้หรงยกยิ้มมุมปาก หวังยีหมิง อยากจะจัดฉลอง แสดงว่าเขาให้ความสำคัญกับเธอมาก “งั้นคุณรีบมานะคะ ฉันรอคุณอยู่”
จากนั้นก็กดวางสายไป ในใจอยากจะรู้ว่าหวังยีหมิงจะเซอร์ไพรส์อะไรเธอ
เธอตั้งหน้าตั้งตารอคอยด้วยความคาดหวัง
เย่ฉางชิงรู้สึกเสียดายเล็กน้อย เมื่อรถแท็กซี่ขับเขาไป
เขามองตามทาง เพื่อมองหารถแท็กซี่คันต่อไป แต่ภาพที่เห็นตกหน้าทำให้เขาต้องตกใจ
สิ่งที่เขาเห็น มีรถหรูสิบกว่าคันกำลังขับเรียงแถวกัน และขับตรงเข้ามา
โดยเฉพาะรถคันแรก สภาพรถดูใหม่ เทคโนโลยีทันสมัย จะต้องเป็นรถสปอร์ตที่มีราคาแพงมากแน่นอน
พอรถขับเข้ามาใกล้ เขาถึงได้รู้ว่า เป็นรถของเคอนิกเส็กก์ อาเกียรา
ไม่ต้องคิดก็รู้ ว่านี่คงเป็นรถที่มีคนใช้ในงานแต่งงาน
ตลอดข้างทาง มีผู้คนเดินผ่านไปมา พอเห็นขบวนรถ แต่ละคนก็หยุดเดินและหันไปคุยกัน
“โห นี่มันรถหรูนี่ ปกติจะมีโอกาสได้เห็นคันเดียวก็ยากแล้ว แต่วันนี้กลับได้เห็นเป็นขบวนเลย”
“ไม่รู้ว่ากำลังจะไปรับใคร ขบวนรถนี้มันหรูหราสุดยอด!”
……
จินอวี้หรงเห็นขบวนรถหรู ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมา
หวังยีหมิงบอกว่าจะมารับเธอ แต่เธอไม่คิดว่าจะจัดเต็มได้ขนาดนี้ ขบวนรถหรูแบบนี้ หลายคนแต่งงานยังทำไม่ได้
พอได้ยินบทสนทนาของคนข้างทาง เธอยิ่งรู้สึกภูมิใจ ยิ่งพอได้เห็นเย่ฉางชิงมองขบวนรถหรูตาไม่กะพริบ
เธอเดินไปที่ข้างทางแล้วพูดกับเย่ฉางชิงที่ยืนอยู่ข้างหน้า “เย่ฉางชิงหลีกทางสิ!”
เย่ฉางชิงได้ยินเสียงของจินอวี้หรงก็อารมณ์เสียขึ้นมา เขาแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน แล้วยืนกอดอกเงียบ แต่ก็ไม่ยอมหลบทางให้
ด้านข้างมีทางเดินกว้าง รถสองคันขับเคียงกันไปก็ยังไม่มีปัญหาเลย
ไม่รู้ว่าต้องหลบทางทำไม
จินอวี้หรงเดินไปข้างๆ เย่ฉางชิงแล้วมองไปที่ขบวนรถหรูที่ขับเข้ามาช้าๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยว่า “เย่ฉางชิงเห็นไหม?เพิ่งหย่ากับนายเสร็จก็มีขบวนรถหรูมารับฉัน ส่วนนาย แม้แต่รถแท็กซี่ก็ยังไม่จอดรับนายเลย
นายบอกว่าจะทำให้ฉันเสียใจ ฉันก็นึกเสียใจจริงๆ เสียใจที่ได้หย่าช้าไป!
ถ้าไม่อย่างนั้นก็มีขบวนรถหรูคงมารับฉันตั้งนานแล้ว!”
สิ่งที่เย่ฉางชิงพูดก่อนหน้านี้ เธอรู้สึกแค้นใจมาก ตอนนี้มีโอกาสแล้ว เธอจึงพูดเยาะเย้ยเขาอย่างไม่ลังเล
ขบวนรถหรูค่อยๆ ชะลอความเร็วลง แล้วหยุดจอดตรงหน้าทั้งสองคน
ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาบนถนนต่างก็หยุดเดิน พนักงานและลูกค้าในร้านค้าข้างถนนต่างพากันออกมามุงดูขบวนรถหรู
บางคนชี้ไปที่รถหรู แล้วหันไปคุยกัน เสียงพูดคุยและเสียงอุทานดังขึ้นมาเป็นระยะ
“โอ้พระเจ้า นี่พวกเขามารับใครกัน ดูเหมือนรถคันแรกจะแพงมาก”
“คันแรกคือเคอนิกเส็กก์ อาเกียรา ได้ยินมาว่ามันราคาแพงมาก ราคาของรถหนึ่งคันสามารถสร้างตึกได้ครึ่งหลังเลยล่ะ”
“รถคันหลังๆ ก็ไม่เลว ถ้าชีวิตนี้ตอนแต่งงานได้นั่งรถแบบนี้ ฉันคงจะมีความสุขมาก”
……
จินอวี้หรงยิ้มหน้าบาน หย่าวันแรก เธอก็กลายเป็นจุดเด่นของผู้คนรอบกายแล้ว
ในเวลานี้ เธอรู้สึกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเย่ฉางชิงที่แม้แต่แท็กซี่ยังไม่รับแล้ว หวังยีหมิงคือทางเลือกที่ถูกต้องที่สุดของเธอแล้ว
การตัดสินใจหย่าคือสิ่งที่ถูกต้องแล้ว!
เธอไม่มีเวลาสนใจเย่ฉางชิงท่ากลางสายตาตกตะลึงและอิจฉาของทุกคน เธอก็เดินตรงไปที่เคอนิกเส็กก์ อาเกียรา
ปึก รถประตูเปิดออก
แล้วมีคนขับรถที่ใส่ชุดสูทเดินลงมาจากรถ
จินอวี้หรงเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ใช่หวังยีหมิง จึงคิดว่าหวังยีหมิง น่าจะอยู่ในห้องอาหารที่ไหนสักแห่ง กำลังสั่งอาหารและเครื่องดื่มไว้ พร้อมกับจุดเทียนรอเธอแล้ว
เธอยิ่งตั้งตารอคอยมากขึ้น เธอเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับ แล้วเข้าไปนั่งทันที
พอเห็นคนขับยังยืนนิ่ง มองเธอด้วยสายตางงงวย เธออดที่จะพูดเร่งเร้าไม่ได้ “รีบกลับมาขับรถสิ! มัวยืนอยู่ทำไม?”
คนขับรถขมวดคิ้ว ก่อนจะเอ่ยพูดอย่างมีมารยาท “ขอโทษครับ พวกเราไม่ได้มารับคุณ”
อะไรนะ?
จินอวี้หรงคิดว่าตัวเองฟังผิดไป “นี่...พวกนายไม่ได้มารับฉันเหรอ? เป็นไปไม่ได้! อย่ามาล้อเล่นนะ!”
ความคิดแรกของเธอคือคนขับรถกำลังแกล้งเธออยู่
หวังยีหมิงเพิ่งรับปากว่าจะมารับเธอ ขบวนรถก็มา เวลามันตรงกันพอดี
คนขับรถพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ขอโทษนะครับ พวกเราไม่ได้มารับคุณจริงๆ คนที่พวกเรามารับเป็นผู้ชาย ส่วนคุณเป็นผู้หญิง”
ผู้ชาย?
สีหน้าของจินอวี้หรงเปลี่ยนไปเล็กน้อย ก่อนจะมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในสมอง “เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่สั่งให้พวกนายมารับฉันใช่ไหม? นี่มันไม่ตลกเลยนะ ถ้ายังไม่หยุดล้อฉันเล่น ฉันจะโกรธแล้วจริงๆ นะ!”
คนขับรถเองก็เริ่มไม่พอใจ “ผมจะบอกคุณอีกครั้งนะครับ พวกเราไม่ได้มารับคุณ พวกเรามารับคนที่ชื่อว่าเย่ฉางชิงคุณคือเย่ฉางชิงเหรอครับ?”