บทที่ 13 หมดสิ้นทุกอย่างภายในคืนเดียว
บทที่ 13 หมดสิ้นทุกอย่างภายในคืนเดียว
ทุกคนในตระกูลเย่ต่างก็ไม่คาดคิด ว่าเย่สวนจะได้รับจดหมายเทียบเชิญ
แม้แต่เย่เจิ้งกั๋ว เย่เจิ้งซานและ เย่เจิ้งเหอ ก็ยังมีสีหน้าเหลือเชื่อ
เรื่องจดหมายเทียบเชิญ ท่านย่ามอบหมายให้เย่หยุนเทาไปลองเชิงเป็นคนแรก แต่เย่หยุนเทากลับถูกไล่ตะเพิดกลับเสียอย่างนั้น
แต่ตอนนี้กลับเป็นเย่สวนที่ได้รับจดหมายเทียบเชิญแทน แบบนี้ก็แสดงว่า เย่สวนมีความสามารถมากกว่าเย่หยุนเทาน่ะสิ
ความสัมพันธ์แบบมีส่วนได้ส่วนเสียเหล่านี้ เย่หยุนเทาพอจะนึกออก จึงรีบพูดกับท่านย่าว่า “คุณย่าครับ แล้วถ้าหากว่าบางคนอยากชนะ จนต้องทำจดหมายเทียบเชิญปลอมๆขึ้นมาล่ะครับ คุณย่าอย่าเพิ่งหลงกลเลยนะครับ”
“ใช่ค่ะ ฉันว่าจดหมายนี่น่าจะเป็นของปลอมไปแล้วครึ่งหนึ่ง” เย่ซวงพูดเสริม
ท่านย่ายิ้มออกมาบางๆแล้วพูดว่า “ของจริง”
“เหรอครับ” เย่หยุนเทากับเย่ซวงสะอึกหน้าแดง สีหน้ากล้ำกลืนเหมือนกำลังกินของเสียเข้าไป
“ใช่ แม้ว่าเย่สวนจะจัดการเรื่องนี้สำเร็จ แต่หยุนเทาแกก็อย่าเพิ่งถอดใจไป” ท่านย่าตบโต๊ะ มองมาที่เย่หยุนเทาแล้วพูดขึ้นมาอย่างปลอบประโลมว่า “ก่อนหน้านี้ แกเป็นคนไปลองเชิงคนแรกไม่ใช่เหรอ? นั่นก็แปลว่าแกเป็นตัวแทนของตระกูลเย่ไปให้หยูเม่ยหยินกรุ๊ปเห็นหน้าแล้ว ตอนที่เย่สวนกลับไปที่นั่นอีกครั้ง ก็ถือเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจของตระกูลเย่ ดังนั้นการได้รับจดหมายเทียบเชิญในครั้งนี้ แกก็มีส่วนช่วยด้วย"
เมื่อได้ฟังที่ท่านย่าพูดมา เย่สวนก็แอบถอนหายใจ ท่านย่ารักหลานผู้ชายมากกว่าหลานผู้หญิงมาตลอด ดูเหมือนว่าไม่ว่าเธอจะพยายามมากแค่ไหน ไม่ว่าจะสร้างผลงานที่สำคัญมากเท่าไหร่ ในสายตาของท่านย่าเธอก็คงไม่สู้เย่หยุนเทาที่เป็นหลานชายอยู่ดี
ดวงตาของเย่หยุนเทาเป็นประกาย พูดขึ้นมาว่า “ที่คุณย่าพูดมาก็ถูก ถ้าไม่ใช่ว่าผมไปปูทางไว้ให้ก่อนแล้ว คนบางคนจะไปทำสำเร็จได้ยังไง? เอาตามตรง ผมว่าผมมีส่วนช่วยมากกว่าอีก บางคนก็แค่บังเอิญโชคดีได้จดหมายมาเท่านั้นแหละ”
เย่เจิ้งกั๋วติดใจตรงหมายเหตุรายชื่อของผู้ที่สามารถเข้าร่วมงานบนจดหมาย จึงเอ่ยถามขึ้นมา
ท่านย่าตอบไม่ตรงคำถามของเขา แต่กลับพูดยืนยันออกมาว่า “ถึงจะสามารถเข้าร่วมได้แค่คนเดียว ยังไงหยุนเทาก็ต้องเป็นคนไป”
เย่เจิ้งกั๋วรู้สึกเบาใจลงญาติๆในตระกูลเย่ก็เริ่มแสดงความยินดีและยกยอเย่หยุนเทาเสียยกใหญ่
เย่สวนนั่งอึ้งอยู่กับที่ ไม่มีใครสนใจเธอเลย
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็ผ่านไปแล้วหนึ่งอาทิตย์
ช่วงนี้ตระกูลเย่เบิกบานครึกครื้นเป็นพิเศษ
หลังจากที่ได้รับจดหมายเทียบเชิญเข้าร่วมงานอภิปรายของหยูเม่ยหยินกรุ๊ป สิ่งแรกที่พวกเขาทำก็คือการประกาศข่าวดีนี้ออกไปให้ทุกคนรู้
จนกลายเป็นที่อิจฉาของบริษัทมากมายนับไม่ถ้วน
เพราะทุกคนรู้ดีว่า มีแค่บริษัทชั้นนำเท่านั้น ถึงจะมีสิทธิ์ได้รับจดหมายเทียบเชิญจากหยูเม่ยหยินกรุ๊ป
และวันนี้ ก็เป็นวันเกิดครบ80ปีของท่านย่าพอดี
เพราะจดหมายฉบับนั้นของหยูเม่ยหยินกรุ๊ป ตอนนี้ตระกูลเย่จึงมีอิทธิพลในเมืองปินเหอเป็นอย่างมาก
ครอบครัวของเย่สวนมาถึงบ้านของท่านย่า เกือบจะเป็นลำดับสุดท้าย ภายในห้องโถงรับแขกกว้างใหญ่เต็มไปด้วยแขกเหรื่อมากมาย
และทันทีที่ครอบครัวเย่สวนเดินเข้ามา สายตาของทุกคนก็มองมาที่ลู่เสี้ยงหยาง ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยแววเยาะเย้ยและสะใจ
พื้นเพของครอบครัวของเย่สวน เดิมทีแล้วก็เป็นครอบครัวที่อ่อนแอที่สุดในวงศ์ตระกูล ตอนนี้ยังมีลูกเขยที่ไม่เอาไหนแต่งเข้ามา พูดได้เลยว่าช่างเป็นอะไรที่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดสุดๆ
เมื่อเย่หยุนเทาเห็นลู่เสี้ยงหยางก็อารมณ์ไม่ดี สิ่งแรกที่ทำก็คือเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเย่สวน ถามยิ้มๆว่า “เย่สวน ฉันล่ะนับถือใจของแกจริงๆ คนไร้ประโยชน์แบบนี้ยังกล้าพามาออกงานด้วยเหรอ ไม่กลัวขายหน้าหรือไง?”
“เย่หยุนเทา นายไม่พูด ก็ไม่มีใครคิดว่านายเป็นใบ้หรอกนะ” เย่สวนส่งเสียงฮึดฮัดออกมาจากจมูก จากนั้นก็ตีหน้านิ่ง
“ก็ได้ๆ พูดถึงคนไร้ประโยชน์ฉันก็หงุดหงิดเหมือนกันนั่นแหละ งั้นเราไม่พูดเรื่องนี้อีกก็แล้วกัน ใช่สิ ปีนี้ครอบครัวแกเตรียมของขวัญอะไรไว้ให้คุณย่า แต่อย่าเหมือนปีก่อนๆที่หาได้ตามข้างทางล่ะ ถึงตอนนั้นถ้าทำให้ย่าอารมณ์เสีย พวกแกต้องรับผิดชอบผลที่ตามมานะ” เย่หยุนเทาอมยิ้มพร้อมกับพูดออกมา
เมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าของหลิวจิ้งและเย่สวนก็เริ่มเปลี่ยนเป็นถมึงทึง ความพร้อมในด้านต่างๆของครอบครัวพวกเธอแย่มากที่สุด จึงไม่สามารถหาซื้อของขวัญแพงๆเหมือนครอบครัวของลุงใหญ่ ลุงรอง และลุงสามได้ เพราะฉะนั้นในงานวันเกิดทุกๆปี ของขวัญจากครอบครัวของพวกเธอจึงไร้ค่า และถูกคนอื่นเยาะเย้ยอยู่ทุกปี
ปีนี้ เกรงว่าก็น่าจะเป็นเหมือนเดิม
เมื่อไม่กี่วันก่อนชิงสุยกรุ๊ปของเย่สวนขาดเงินทุนหมุนเวียน ยังดีที่ลู่เสี้ยงหยางยืมเพื่อนมาได้สิบล้านถึงอุดรูรั่วนี้ได้
เมื่อเงินขาดมือ เย่สวน จึงไม่สามารถหาซื้อของขวัญวันเกิดแพงๆมาให้คุณย่าได้
“เหอะๆ พวกเราจะรอดูละครสนุกๆจากครอบครัวของแกก็แล้วกัน อย่าทำให้พวกเราผิดหวังล่ะ” เย่หยุนเทาทิ้งคำพูดเอาไว้จากนั้นก็หมุนตัวเดินจากไป
หลิวจิ้งกระทืบเท้าอย่างโมโห มองไปทางลู่เสี้ยงหยางอย่างไม่ได้ดั่งใจ ถ้าไอ้คนไร้ประโยชน์นี่รู้จักสู้คนบ้าง ครอบครัวของเธอคงไม่ถูกคนในตระกูลรุมกลั่นแกล้งแบบนี้หรอก
เย่สวนรู้สึกไม่ดีจนเกือบจะร้องไห้ออกมา เธอพยายามมามากแล้ว แต่ข้างกายกลับไม่มีผู้ช่วยเก่งระดับเทพเลย ข้างกายเธอมีแต่ทีมที่ไม่เอาไหน
ไม่นานหลังจากนั้น แขกเหรื่อก็มากันครบ
ผู้คนทยอยส่งมอบของขวัญวันเกิด ภายใต้การนำของเย่เจิ้งกั๋ว
ครอบครัวของเย่สวนรู้ตัวเองดี ว่าครอบครัวของพวกเขาต้องได้มอบของขวัญในลำดับท้ายๆ ดังนั้นเมื่อถึงลำดับสุดท้ายพวกเขาจึงเดินอืดอาดเข้าไปมอบของขวัญ
เย่หยุนเทาอยากหัวเราะเยาะครอบครัวของเย่สวน ไวๆ จึงบอกให้ผู้ช่วยของท่านย่าประกาศของขวัญที่แต่ละครอบครัวนำมามอบให้เร็วๆ
“ลูกคนโตเย่เจิ้งกั๋ว มอบกำไลหยกสีฟ้าคุณภาพดีมาหนึ่งวง”
“ลูกคนที่สองเย่เจิ้งซาน มอบชาต้าหงเผาคุณภาพชั้นเยี่ยมมาหนึ่งกล่อง”
“ลูกคนที่สามเย่เจิ้งเหอ มอบสร้อยคอหยกมรกตมาหนึ่งเส้น”
“คุณชายใหญ่เย่หยุนเทา มอบภาพวาดไผ่ยักษ์พันปีของแท้มาหนึ่งภาพ”
……
ต่อมาก็เป็นรายชื่อคนมอบของขวัญ ลำดับต่อๆมา
แต่เมื่อผู้ช่วยอ่านมาถึงรายชื่อสุดท้าย ทุกคนต่างก็พากันเงียบโดยอัตโนมัติ เพื่อตั้งใจฟัง
“คุณเย่สวน มอบรังนกสกัดมาหนึ่งกล่อง”
เมื่อประโยคนี้ถูกพูดออกมา ภายในโถงก็เงียบอยู่สักพัก จากนั้นทุกคนก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาจากห้อง
รังนกสกัดก็ยังถือว่าเป็นสินค้าเกรดต่ำในบรรดาอาหารเสริมอยู่ดี รังนกกล่องหนึ่งอย่างมากก็แค่สี่ถึงห้าพันหยวนเอง
ท่านย่าตีหน้านิ่ง พูดออกมาอย่างไม่พอใจว่า “ของพวกนี้เอามาทำทานเหรอ”
เย่สวนกับหลิวจิ้งก้มหน้าลง
เย่หยุนเทาลำพองใจ ภาพวาดไผ่ยักษ์พันปีของเขาเป็นภาพก็อบเกรดเอ ไม่คาดคิดเลยว่าจะไม่มีคนดูออกเลยสักคน จึงพูดออกมาว่า “ของขวัญวันเกิดของครอบครัวพวกคุณนี่พิเศษสุดๆไปเลย กระจอกขนาดนี้ ทำไมไม่เก็บเอาไว้ใช้เองล่ะ คิดว่ามันคู่ควรกับคนสูงส่งอย่างคุณย่าเหรอ?”
เย่ซวงหัวเราะเยาะแล้วพูดว่า “เย่สวน จะว่าไปแกก็เป็นเจ้าของบริษัทอยู่นี่นา ทำไมเป็นอย่างนี้ไปได้ล่ะ คงไม่ใช่ว่าแกฮุบเงินบริษัทเข้ากระเป๋าตัวเองเพื่อเอาไปเลี้ยงหนุ่มหน้าอ่อนคนนี้หรอกใช่ไหม?”
“ฮ่าๆๆ” เสียงหัวเราะเยาะบาดหูดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ประธานจางจากหย่งหยวนกรุ๊ปมาถึงแล้วครับ” ทันใดนั้นก็มีเสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นมาที่หน้าทางเข้า
เป็นจางติ่งเทียนที่เดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ
หย่งหยวนกรุ๊ปเป็นบริษัทในเครือของหยูเม่ยหยินกรุ๊ป และถือเป็นบริษัทชั้นนำแห่งหนึ่ง
ดังนั้น เมื่อจางติ่งเทียนเดินเข้ามาจึงกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนในงานทันที
ขนาดท่านย่าที่นั่งอยู่กับที่ยังต้องลุกขึ้นยืน
“ฮ่าๆ ท่านย่า ขอโทษด้วยนะครับ รถติดผมเลยมาสาย นี่เป็นของขวัญชิ้นเล็กชิ้นน้อย หวังว่าท่านย่าจะรับมันเอาไว้นะครับ” จางติ่งเทียนพูดพร้อมกับส่งกุญแจไปให้
กุญแจดอกนี้มีรูปทรงงดงาม ไม่รู้ว่าทำมาจากวัสดุใดบ้าง แต่มองดูแล้วกลับเป็นประกายวิบวับราวกับเพชร
แต่ว่ามีคนตาถึงมองออก จึงอุทานขึ้นมาอย่างตกใจว่า “คุณพระ นี่มันกุญแจวิลล่าสวนโบตั๋นนี่นา”
หลังจากมีคนอุทานออกมา ทั่วทั้งห้องโถงก็เกิดเสียงฮือฮา
สวนโบตั๋นเป็นหนึ่งในพื้นที่ของพวกคนรวยที่มีระดับมากที่สุดในเมืองปินเหอ ราคาพื้นที่ข้างในสูงถึงหนึ่งแสนต่อตารางเมตร ถ้าจะซื้ออย่างน้อยก็ต้องใช้เงินสองถึงสามสิบล้านเป็นอย่างต่ำ
มือเหี่ยวย่นของท่านย่าที่ถือกุญแจอยู่สั่นเทาขึ้นมา นี่คงเป็นของขวัญที่ล้ำค่ามากที่สุดในชีวิตนี้แล้ว
ของขวัญจากแขกทุกคนที่ให้มาเมื่อครู่ แม้ว่าจะมีราคาสูง แต่อย่างมากก็แค่ไม่กี่แสน
แต่ว่าของที่จางติ่งเทียนให้มา เป็นคฤหาสน์ราคาสามสิบล้านเลยนะ
“ประธานจาง ของขวัญของคุณแพงเกินไปแล้ว ฉันไม่กล้ารับจริงๆ” ท่านย่ารีบคืนกุญแจกลับไป
จางติ่งเทียนส่ายหน้า แล้วพูดว่า “ท่านย่า ผมคิดว่าคุณต้องรับของชิ้นนี้ไปแน่ๆ เพราะว่าอีกเดี๋ยวผมมีเรื่องใหญ่จะมาพูดกับคุณ”
“เรื่องใหญ่? เอางั้นก็ได้ ยายแก่อย่างฉันก็คงต้องน้อมรับเอาไว้” ความจริงแล้วท่านย่าชอบคฤหาสน์สวนโบตั๋นมาก ดังนั้นจึงยอมหน้าหนารับกุญแจเอาไว้
“ประธานจางรีบหาที่นั่งเถอะ” ท่านย่าตบไหล่ของจางติ่งเทียน เพื่อแสดงความสนิทสนม
จางติ่งเทียนกวาดตามองแค่แวบเดียวก็มองเห็นเย่สวนที่ยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน จึงเดินยิ้มๆเข้าไปหา
และแน่นอน ว่าตอนนี้เขากำลังฝืนยิ้ม ทั้งๆที่ในใจกำลังคลั่งเลือด
หนึ่งสัปดาห์ก่อน จู่ๆเขาก็ได้รับเอกสารจากสำนักงานใหญ่ของหยูเม่ยหยินกรุ๊ป ว่าได้ถอนหุ้นทั้งหมดของเขาในหย่งหยวนกรุ๊ปออก ทำให้ความบากบั่นที่เขาเพียรพยายามมาตลอดหลายปี สูญหายไปจนหมด
ทุกอย่างหมดสิ้นไปภายในคืนเดียว
เรื่องนี้เขาเคยแอบสอบถามมาบ้าง จึงได้รู้ว่าเขาไปสร้างความไม่พอใจให้คนที่ไม่ควรไปลองดีด้วยเข้า แต่พอเขาคิดดีๆแล้ว ก็พบว่าเขาต้องไปขัดใจคนที่มีอิทธิพลใหญ่คับฟ้าเข้าแน่ๆ!
แต่เขาไม่ยอมถอดใจทั้งอย่างนี้หรอก โดยเฉพาะนางฟ้าในฝันของเขา เย่สวน
หลังจากได้เจอกับเย่สวน เขาก็หลงเสน่ห์เย่สวนจนถอนตัวไม่ขึ้น เขาปฏิญาณไว้แล้วว่าจะเอาผู้หญิงคนนี้มาเป็นของตัวเองให้ได้
ดังนั้นเขาจึงดับเครื่องชน ตัดสินใจเดิมพันครั้งใหญ่ โดยการนำเอาทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่มีมาขาย เพื่อนำมาซื้อคฤหาสน์สวนโบตั๋น
วันนี้ที่กลั้นใจมอบคฤหาสน์แสนแพงนี้ให้ท่านย่าก็เพื่อจะเอาใจ อยากให้ท่านย่ายกเลิกการหมั้นหมายระหว่างเย่สวนกับลู่เสี้ยงหยาง และให้เย่สวนมาแต่งกับเขาแทน
ของขวัญที่จางติ่งเทียนนำมามอบให้ ทำให้ทุกคนตื่นตะลึงอยู่สักพัก จากนั้นถึงได้ค่อยๆกลับมาสงบลง
ในตอนนี้เอง จู่ๆเย่หยุนเทาก็คิดอะไรออก จึงมองไปที่ลู่เสี้ยงหยางแล้วพูดว่า “ไอ้อ่อน ของขวัญแกล่ะ? ยังไม่ให้เลยไม่ใช่เหรอ?”