บทที่ 12 ได้รับจดหมายเทียบเชิญ
บทที่ 12 ได้รับจดหมายเทียบเชิญ
ต่อมา เมื่อจัดการเรื่องราวจนเสร็จ ลู่เสี้ยงหยางก็ไม่มีอารมณ์อยู่ที่นี่ต่อแล้ว หลังจากบอกให้ทุกคนกลับไป ตัวเองก็อยู่พูดคุยกับหลิวผิงสักพัก จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
ตอนเขากลับมาถึง หลิวจิ้งกับเย่สวนก็ยังไม่กลับ เขาจึงนอนหลับไปคนเดียว
เช้าวันต่อมา เขาก็ไปทำงานที่หยูเม่ยหยินกรุ๊ป
เพิ่งนั่งลงยังไม่ทันไร ซุนเซียงเซียงก็เดินเข้ามาแล้วพูดว่า “ท่านประธาน ข้างนอกมีคนชื่อเย่หยุนเทาอยากพบคุณค่ะ”
“มาพบผมทำไม? เขาได้บอกไหม?” ลู่เสี้ยงหยางเอ่ยถาม
“ไม่ได้บอกไว้ค่ะ แต่ก็พอจะเดาได้ ว่าคงมาเพราะเรื่องโควตาเข้าร่วมเวทีการอภิปรายทางธุรกิจที่หยูเม่ยหยินกรุ๊ปของเราเป็นเจ้าภาพ” ซุนเซียงเซียงพูดขึ้น
“อืม บอกให้เขากลับไปเถอะ แล้วก็ฝากบอกเขาด้วยว่า ห้ามคนของตระกูลเย่ก้าวเท้าเข้ามาในบริษัทของเราแม้แต่ก้าวเดียว แต่เว้นเย่สวนไว้คนหนึ่ง ถ้าจะมาก็ให้เย่สวนมาคุยที่บริษัทด้วยตัวเอง” ลู่เสี้ยงหยางออกคำสั่งเรียบๆ
“ค่ะ ท่านประธาน” ซุนเซียงเซียงขานรับ จากนั้นก็รีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
ไม่นานหลังจากนั้น เย่หยุนเทาก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหิ้วปีกโยนออกนอกบริษัท จากนั้นก็นำคำพูดของลู่เสี้ยงหยางมาบอกกับเขาด้วยท่าทางนิ่งๆ
เย่หยุนเทานิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ประธานหยูเม่ยหยินกรุ๊ปไม่ต้องการพบใคร นอกจากเย่สวน อย่างนั้นเหรอ?
เป็นไปได้ยังไง?
แม้รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ แต่กระนั้นสิ่งแรกที่เย่หยุนเทาทำก็คือนำเอาข่าวคราวนี้กลับไปบอกคนในตระกูลด้วยอาการกระหืดกระหอบ
ตระกูลเย่กรุ๊ปบริษัทสาขาใหญ่ของตระกูลเย่
ภายในห้องประชุม
สายตาของทุกคนต่างจดจ้องมาที่เย่สวนจนแทบทะลุ ถือสิทธิ์อะไร ทำไมประธานหยูเม่ยหยินกรุ๊ปถึงอยากเจอแค่เธอคนเดียว
เย่ซวงจ้องเย่สวนเขม็ง ใบหน้าแสดงความไม่พอใจออกมา เธอเป็นลูกสาวของเย่เจิ้งซาน ในตระกูลมีแค่เย่สวนที่หน้าตาดีกว่าเธอ การศึกษาก็สูงกว่าเธอ เพราะฉะนั้นเธอเลยรู้สึกเป็นรองอยู่ตลอด
“เย่สวน ในเมื่อท่านประธานหยูเม่ยหยินกรุ๊ปอยากพบแก งั้นแกก็ไปเถอะ” ในที่สุดท่านย่าก็เอ่ยพูดออกมา
เย่สวนมีสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เธอไม่เชื่อที่เย่หยุนเทาพูด ว่าประธานหยูเม่ยหยินกรุ๊ปอยากพบเธอจริงๆ คิดแค่ว่าเย่หยุนเทาถูกหยูเม่ยหยินกรุ๊ปปฏิเสธไม่ต้อนรับ เลยรู้สึกไม่พอใจ จึงแต่งเรื่องขึ้นมา เพื่อให้เธอไปขายหน้าที่หยูเม่ยหยินกรุ๊ปด้วยอีกคน
“ทำไม ไม่อยากไปเหรอ?” เมื่อเห็นว่าเย่สวนลีลาไม่ตอบรับสักที ท่านย่าจึงเพิ่มความเข้มในน้ำเสียง
“ได้ค่ะคุณย่า ฉันจะไป” เย่สวนฝืนพยักหน้าตอบรับออกไป
“อืม เวลามีไม่มากนัก รีบไปเถอะ โควตานี้มันสำคัญกับพวกเราตระกูลเย่มาก” คุณย่าพูดเร่งรัดอย่างอดรนทนรอไม่ไหว
เมื่อเย่สวนออกไปจากห้องประชุมแล้ว เย่ซวงก็เรียกเย่หยุนเทาให้ออกมาจากห้องประชุมเพื่อปรึกษากัน
“หยุนเทา ไม่คิดว่าเรื่องนี้มันแปลกๆไปหน่อยเหรอ? ถ้าเย่สวนทำเรื่องนี้สำเร็จจริงๆ ในอนาคตเธอต้องได้เลื่อนตำแหน่งในบริษัทแน่ๆ แล้วถ้าหากมันสั่นคลอนตำแหน่งของนายจะทำยังไง?”
เย่หยุนเทาเป็นลูกชายของคุณลุงใหญ่ ถูกวางตัวให้เป็นผู้สืบทอดตระกูลเย่กรุ๊ปในอนาคต เขาไม่มีวันยอมให้ใครหน้าไหนมาสั่นคลอนตำแหน่งของเขาได้หรอก
“หึ คนอย่างเย่สวนน่ะนะจะมาสั่นคลอนฉันได้ เธอไม่มีโอกาสนั้นหรอก ครั้งนี้ ประธานหยูเม่ยหยินกรุ๊ปก็แค่อยากเจรจากับเธอ ไม่ได้แปลว่าเธอจะทำสำเร็จสักหน่อย และถ้าเธอพลาด เรื่องราวทั้งหมดมันก็เป็นเพราะเธอทำมันพัง ถึงตอนนั้นฉันจะบอกคุณย่า ว่าเธอเป็นผู้กระทำความผิดต่อตระกูล แล้วให้คุณย่าลงโทษเธอหนักๆ”
“ฮ่าๆ เป็นความคิดที่ดีเลย หยุนเทา นายนี่มันเจ้าแผนการจริงๆ ผู้หญิงโง่ๆอย่างเย่สวนน่ะ ถูกนายเล่นงานจนตายก็ไม่มีทางรู้เรื่องอะไรหรอก” เย่ซวงยิ้มออกมาอย่างสบายใจ
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เย่สวนก็มาถึงหยูเม่ยหยินกรุ๊ป โดยมีซุนเซียงเซียงรอต้อนรับ
ลู่เสี้ยงหยางไม่อยากเปิดเผยตัวตนออกมาเร็วขนาดนี้ เลยไม่ได้ออกมาอวดโฉมหน้า
แต่เรื่องที่ทำให้เย่สวนตกตะลึงเป็นอย่างมากก็คือ เธอยังไม่ทันได้พูดอะไรกับซุนเซียงเซียง ซุนเซียงเซียงก็เป็นฝ่ายยื่นจดหมายเชิญฉบับหนึ่งมาให้เธอก่อน
และมันก็คือจดหมายเทียบเชิญเข้าร่วมงานอภิปรายทางธุรกิจที่หยูเม่ยหยินกรุ๊ปเป็นเจ้าภาพนั่นเอง!
“อ่าหัวหน้าซุน นี่มันหมายความว่ายังไงคะ?” เย่สวนถือจดหมายเทียบเชิญไว้ในมือ รู้สึกหนักอึ้งไปหมด เอ่ยถามออกมาด้วยเสียงสั่นๆ
“ฮ่าๆ ท่านประธานของพวกเราชื่นชมคุณมากๆ ต่อจากนี้คุณก็ตั้งใจทำให้ดีล่ะ อย่าทำให้ท่านประธานผิดหวังเด็ดขาด” ซุนเซียงเซียงพูดยิ้มๆ
“เหรอคะ?” เย่สวนรู้สึกตกใจที่ได้รับคำยกยอแบบนี้ ประธานหยูเม่ยหยินกรุ๊ปชื่นชมเธอ นี่มันช่างเป็นเกียรติจากสวรรค์แท้ๆ
“แน่อยู่แล้ว ไม่แน่นะหลังจากนี้ท่านประธานของพวกเราอาจจะมาพบคุณด้วยตัวเองก็ได้” ซุนเซียงเซียงพูดพร้อมกับอมยิ้ม
ตู้ม!
ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ ในหัวของเย่สวนก็คล้ายกับมีเสียงระเบิดดังสะท้อนออกมา จนร่างกายสั่นสะท้าน
จู่ๆก็รู้สึกฮึกเหิมห้าวหาญ กำลังใจในการสู้ก็ยิ่งมีมากกว่าเดิม
ประธานหยูเม่ยหยินกรุ๊ปที่ยิ่งใหญ่คับฟ้าในแวดวงธุรกิจแห่งเมืองปินเหอใครบ้างจะไม่อยากเจอ?
เย่สวนกลับตระกูลด้วยหัวใจที่ระริกระรี้
ณ บริษัทสาขาใหญ่ ภายในห้องประชุมของตระกูลเย่กรุ๊ป
ทุกคนในตระกูลเย่อยู่กันครบ เมื่อเห็นว่าเย่สวนเดินเข้ามา แต่ละคนต่างก็ยืดคอชะโงกหน้ามองมาที่เธอ เพื่อคาดเดาผลลัพธ์จากสีหน้าของเธอ
ความระริกระรี้และความปีติยินดีบนใบหน้าของเย่สวนถูกปกปิดเอาไว้ ในเวลานี้บนใบหน้าของเธอ จึงเหลือแค่ความเรียบนิ่ง
ซึ่งในมุมมองของพวกเย่หยุนเทากลับคิดว่า เย่สวนคงทำล้มเหลวมาแน่ๆ
“ฮ่าๆ คุณย่าครับ ดูเหมือนเธอก็ทำไม่สำเร็จเหมือนกันนะ เธอทำเรื่องดีๆของตระกูลเราพัง ที่ตระกูลเราไม่ได้โควตาเข้าร่วมงานอภิปรายของหยูเม่ยหยินกรุ๊ป เป็นเพราะเธอทำไม่เต็มที่ คุณย่าครับ เพื่อความยุติธรรม คุณย่าต้องลงโทษเธอนะครับ” เย่หยุนเทาผลักภาระมาที่เย่สวนอย่างหน้าด้านๆ
“ใช่ค่ะคุณย่า ถ้าเย่สวนเก่งกว่าคนอื่นจริงๆ แล้วทำไมถึงจัดการเรื่องนี้ไม่ได้ล่ะ? ต้องโทษที่เธอทำงานไม่ได้เรื่อง ซ้ำร้ายยังทำให้เรื่องมันยิ่งแย่ลงกว่าเดิมอีก”
ท่านย่าหน้าตึง ใบหน้าเผยความผิดหวังออกมาเล็กน้อย
แต่ในตอนนี้เอง เย่สวนก็เดินมาหยุดอยู่ข้างๆท่านย่า ยิ้มออกมาบางๆแล้วพูดว่า “คุณย่าคะ นี่จดหมายเทียบเชิญ คุณย่าเปิดดูสิคะ”