บทย่อ
ช็อค!ลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงที่ได้รับได้รับความอัปยศอดสูการเหยียดหยาม หลังจากที่เปิดเผยฐานะตัวเองแล้ว แม่ภรรยาตั้งเงื่อนไข่ที่น่าอับอาย
บทที่1 ทุ่งหญ้าบนหัว
บทที่1 ทุ่งหญ้าบนหัว
เมืองปินเหอ ภายในคฤหาสน์หรูหรา
ลู่เสี้ยงหยางกำลังล้างมือ ชโลมน้ำมันนวดไปทั่วมือ
บนโซฟามีสาวงามรุ่นใหญ่คนหนึ่งกับสาวน้อยสองคนนอนอยู่
สาวงามรุ่นใหญ่คือหลิวจิ้งแม่ยายของลู่เสี้ยงหยาง ถึงแม้จะอายุได้ 30กว่าปีแล้ว แต่กลับดูผ่อนคลาย ราวกลับได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ทรวดทรงก็ผอมเพรียว
สาวน้อยผู้งดงามอีกสองคนคือเย่สวนภรรยาของลู่เสี้ยงหยางและไป๋สู้สู้เพื่อนสนิทของเธอ
“ไอ้ขยะ นานขนาดนี้แล้ว ยังเตรียมไม่เสร็จอีกหรอ?” ในเวลานี้เย่สวนพูดเร่งลู่เสี้ยงหยางอย่างไม่อดทน
ลู่เสี้ยงหยางตอบด้วยน้ำเสียงร้อนรนแผ่วเบา “เสร็จแล้วเสร็จแล้ว”
วิ่งถือผ้าขนหนูมายืนข้างเย่สวน
เย่สวนสวมชุดอยู่บ้าน นอนอยู่บนโซฟา สัดส่วนเว้าโค้งงามชดช้อย
ลู่เสี้ยงหยางเริ่มลงมือนวดให้เย่สวนอย่างชำนาญ
ปฏิเสธไม่ได้ว่า หุ่นของเย่สวนเซ็กซี่มากเหลือเกิน
อึก!
เสียงลู่เสี้ยงหยางกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่
ไป๋สู้สู้เห็นลู่เสี้ยงหยางว่านอนสอนง่ายแบบนี้ ก็หัวเราะขึ้นมา “สวนจื่อ ผู้ชายของเธอชำนาญน่าดูเลยนะ แต่สายตาของเขาดูไม่จริงใจเท่าไหร่ แอบมองฉันหลายครั้งแล้ว!”
เย่สวนตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คางคกอยากกินเนื้อหงส์ ขยะอย่างเขามานวดให้ฉัน ฉันยังรังเกียจมือสกปรกของเขาเลย”
ลู่เสี้ยงหยางก้มหัวลง ไม่กล้าพูดอะไร
เขาเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลเย่ แต่งเข้าบ้านนี้มาสามปี ไม่มีใครในตระกูลเย่มองเขาเป็นคน ใช้ชีวิตอยู่ไม่ต่างกับสุนัขตัวหนึ่ง
แต่โชคชะตาก็ยังเล่นตลกกับเขา ยามเขาถูกคนในตระกูลเย่รังแก คนเหล่านั้นล้วนเป็นสาวงามทั้งสิ้น
“ผลั่ก!” คิ้วของเย่สวนก็ขมวดขึ้นเล็กน้อยทันที ดูเหมือนว่าลู่เสี้ยงหยางจะใช้แรงเยอะเกินไป ไม่พูดไม่จา คำพูดทั้งหมดถูกใส่ลงบนหน้าของลู่เสี้ยงหยาง
ใบหน้าครึ่งหนึ่งของลู่เสี้ยงหยางถูกทิ้งรอยฝ่ามือแดงก่ำไว้
“ไอ้ขยะไร้ประโยชน์ ถ้ากล้าทำให้ฉันเจ็บอีกครั้งเดียว ฉันทุบหน้านายเละแน่” เย่สวนจ้องตาเขม็งอย่างคุกคาม
ลู่เสี้ยงหยาง รีบร้อนขอโทษขอโพย เบาน้ำหนักมือลง
ไม่นาน หลังนวดให้เย่สวนเสร็จ เขาก็เริ่มนวดให้แม่ยายหลิวจิ้ง
ปัก!
หลิวจิ้งง้างมือขึ้นฝากรอยไว้บนหน้าอีกข้างของลู่เสี้ยงหยาง
“ไอ้เศษสวะ ไม่รู้จักการใช้ใจหน่อยรึไง?” หลิวจิ้งโกรธจนใบหน้าแดงก่ำ ชี้หน้าถามลู่เสี้ยงหยาง
ลู่เสี้ยงหยางไม่กล้าตอบกลับ ถัดจากนั้น เมื่อนวดให้หลิวจิ้งเสร็จ ลู่เสี้ยงหยางก็เข้าไปซักเสื้อผ้าในห้องน้ำ
ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น หยิบขึ้นมาดูจึงเห็นว่าเป็นแม่ของเขาโทรมาหา
ตั้งแต่เขาแต่งงานเข้ามา แม่ก็โทรหาเขาน้อยมาก เพราะกลัวจะถูกปฏิเสธและเป็นตัวถ่วง ทำให้ฝ่ายหญิงไม่พอใจ ในตอนนี้อยู่ๆกลับติดต่อมา
เขาเครียดนิดหน่อย คงไม่ใช่เกิดเรื่องอะไรขึ้นนะ?
ลู่เสี้ยงหยางรีบกดรับสาย ไม่รอเขาพูดก่อน น้ำเสียงตื่นเต้นของแม่ก็เอ่ยขึ้น “ลูกแม่ ลุงของลูกเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ พ่อของลูกออกมาจากคุกแล้ว ตอนนี้ได้สานต่อกิจการทั้งหมดของตระกูลลู่ อีกหน่อยลูกไม่ต้องใช้ชีวิตลำบากแล้ว พ่อให้เงินลูกหนึ่งพันล้านเป็นค่าชดเชย จากนี้อยากใช้เงินยังไงก็ใช้ได้เลย”
พอได้ฟัง ภายในหัวของลู่เสี้ยงหยางก็ส่งเสียงพึมพำ
ต่อจากนั้นเสียงของแม่ก็ไม่อาจฟังได้ชัดเจน ในสมองมีเพียงคำว่า “หนึ่งพันล้าน” ลอยไปลอยมา
น้ำตาเขาเริ่มคลอ หลังจากนั้นพักใหญ่ ถึงเช็ดน้ำออกจากตา
วันนี้ นานเกินไปแล้ว นานจนเมื่อมันมาถึงจริงๆ เขากลับรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
เดิมทีเขาเป็นนายน้อยแห่งตระกูลลู่ที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้นๆในเมืองหลวง พ่อของเขาพ่ายแพ้ให้กับลุงในการแย่งชิงตำแหน่งทายาทในตระกูล สุดท้ายถูกคุมขัง แม่ของเขาก็ถูกขับไล่ออกจากบ้าน
ลิ้มลองสีหน้าของคนอื่น เนื่องจากอำนาจของลุง ทำให้เขาหางานที่มั่นคงทำไม่ได้สักงาน
แม้กระทั่งตอนนี้ แม่ของเขาก็ยังอยู่ในห้องใต้ดินเล็กๆ เพียงเพื่อให้เขาได้แต่งเข้าสำเร็จ ให้เขาได้มีที่ซุกหัวนอนหลบลมฝน
ในวันนี้พ่อของเขาได้รับการปล่อยตัว กลายเป็นผู้สืบทอดตระกูลลู่ ในที่สุดเขาก็ได้รับในสิ่งที่ต้องการ ยืดเส้นยืดสายได้
“ฮ่าฮ่าฮ่า สองสามปีมานี้ ฉันต้องได้รับความยุติธรรม!” ลู่เสี้ยงหยางสาบานในใจเงียบๆ ในขณะเดียวกัน สามคนในห้องรับแขกกำลังพูดคุยกัน ไม่มีใครสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของลู่เสี้ยงหยาง
ไป๋สู้สู้ขมวดคิ้วพร้อมเอ่ยขึ้น “สวนจื่อ บริษัทของเธอเกิดเรื่อง สายเงินทุนถูกทำลาย เรื่องนี้อาจมีทางหนีทีไล่ที่วนเวียนอยู่นะ”
“เอ๋ จริงหรอ?” เย่สวนตาเป็นประกาย เติมเต็มการรอคอยเธอได้ สายเงินทุนในบริษัทของเธอแย่ลงมาเดือนกว่าแล้ว เงินเดือนของพนักงานไม่สามารถออกให้ได้ ทุกวันนี้แทบจะล้มละลาย
“คืออย่างนี้ แฟนของฉันไม่ใช่ทำงานอยู่ที่หย่งหยวนกรุ๊ปหรอ? เขากับประธานจางเจ้าของหย่งหยวนกรุ๊ปมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน พูดคุยสถานการณ์บริษัทของเธอให้เขาฟัง ประธานจางตกลงที่จะเพิ่มเงินทุนให้กับบริษัทของเธอ” ไป๋สู้สู้กล่าว
“อะไรนะ? นี่...นี่เป็นเรื่องจริงหรอ?” เย่สวนร้องออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ
หย่งหยวนกรุ๊ปเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเมืองปินเหอ ว่ากันว่าเจ้าของจางติ่งเทียนมีมูลค่าเกือบหนึ่งพันล้าน หากเขาสัญญาว่าจะสนับสนุนเงินทุนให้บริษัทของเย่สวน งั้นบริษัทของเย่สวนก็กลับมามีชีวิตได้อีกครั้งอย่างแน่นอน
“เป็นเรื่องจริงแน่นอนสิ พวกเราเป็นเพื่อนที่สนิทกันที่สุด ฉันจะโกหกเธอได้ยังไงล่ะ” ไป๋สู้สู้พูดพร้อมยิ้มให้ แต่ในใจกลับรู้สึกทำอะไรไม่ถูก ประธานจางจะช่วยเย่สวนฟรีๆได้ยังไง เงื่อนไขของประธานจางคือให้เย่สวนไปนอนกับเขาหนึ่งคืน
แต่เงื่อนไขนี้ไป๋สู้สู้ไม่ได้พูดออกไป
ช่วงนี้แฟนของเธอก็มีปัญหากวนใจที่บริษัท จำเป็นต้องใช้ผู้หญิงแบบเย่สวนเข้าหากับประธานจาง ถึงได้ให้ไป๋สู้สู้มาหลอกล่อเย่สวน
“งั้นตกลง ฉันจะไปเจอประธานจาง” เย่สวนตอบตกลงทันที
“อืม งั้นฉันให้แฟนฉันเอาคำพูดของเธอไปบอกประธานจาง ถ้าไม่ผิดพลาดอะไร พรุ่งนี้ประธานจางก็จะมาเจอเธอ อย่างช้าสุดมะรืนนี้เงินทุนสนับสนุนก็จะไปถึงบริษัทของเธอ” ไป๋สู้สู้บอก
ในเวลานี้ ลู่เสี้ยงหยางที่เดินเข้ามาในห้องรับแขกพอดีก็ได้ยินบทสนทนาของพวกเธอ เดินไปสองสามก้าว ก็ถึงข้างกายเย่สวน พูดกับเธออย่างจริงจังว่า “ที่รัก คุณต้องการความช่วยเหลือไม่จำเป็นต้องไปขอร้องคนอื่น ตอนนี้คุณขาดเงินไม่ใช่หรอ ผมสามารถหาวิธีช่วยคุณได้...”
“คิกคิกคิก...”เขายังไม่ทันพูดจบ ไป๋สู้สู้ก็หัวเราะขึ้นมา มองไปที่ลู่เสี้ยงหยางด้วยความดูถูกเหยียดหยามแล้วพูดขึ้น “ให้พึ่งนาย? ทั้งเนื้อทั้งตัวนายตอนนี้มีเงินถึง100ไหม? เหมือนตัวตลกเสียจริง ไปเอาความกล้าจากไหนมาคุยโม้ขนาดนี้?”
ใบหน้าสวยงามของเย่สวนก้มลงต่ำ พูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความดูหมิ่น “นายกล้าดียังไงจะมาช่วยฉัน? ไสหัวไป เห็นหน้านายแล้วจะอ้วก”
คิ้วของหลิวจิ้งขมวดเป็นเส้นตรง ง้างมือขึ้นเตรียมจะฝากรอยไว้ที่หน้าของลู่เสี้ยงหยางอีกครั้ง
แต่ลู่เสี้ยงหยางไม่ขยับหนี พูดอย่างสงบว่า “ผมช่วยคุณได้จริงๆ”
ไป๋สู้สู้หัวเราะจนน้ำตาไหล มองลู่เสี้ยงหยางเหมือนกับมองคนโง่เง่า เอื้อมมือชี้ไปที่หน้าอกเขา แล้วพูดทีล่ะคำ “บริษัทของสวนจื่อต้องใช้เงินทุนอย่างน้อย10ล้านหยวนถึงรอดตาย 10ล้านหยวน! ขยะอย่างนายชั่วชีวิตนี้สามารถทำเงินได้มากขนาดนี้ไหม? ใครให้นายมาเสนอหน้าพูดวางท่าที่นี่”
ลู่เสี้ยงหยางยิ้มตอบ “ก็แค่10ล้านไม่ใช่หรอ?”
“โอ้โห น้ำเสียงโอหัง ก็แค่10ล้าน? ขยะอย่างนายหามาได้สักแสนนึง ฉันไป๋สู้สู้ยอมให้นายออกคำสั่งเลย!” ไป๋สู้สู้หัวเราะขึ้นมาอย่างดูถูก