บท
ตั้งค่า

บทที่ 10 ไป๋สู้สู้ที่อับอายขายหน้า

บทที่ 10 ไป๋สู้สู้ที่อับอายขายหน้า

สิ้นคำสั่งของพี่เสือ ลูกน้องชายฉกรรจ์กว่าสิบคนของเขาก็เข้าล้อมลู่เสี้ยงหยางไว้

ซุนเซียงเซียงในตอนนี้โกรธจัด หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความให้หลิวผิงทันที ในข้อความนั้นคือ ลูกน้องของคุณจะลงไม้ลงมือกับประธานของหยูเม่ยหยินกรุ๊ป จะร่วมมือกันก็ร่วมมือ ถ้าไม่ร่วมมือก็ไปซะ

บนใบหน้าของลู่เสี้ยงหยางไม่ได้มีความโกรธเคืองใดๆ ถึงขั้นมองข้ามชายฉกรรจ์กว่าสิบคนที่ยืนล้อมอยู่ด้วยซ้ำ แล้วหัวเราะคิกคักพูดกับพี่เสือ “ถ้านายคุกเข่ายอมรับความผิดตอนนี้ บางทีอาจจะยังรักษาหน้าที่การงานไว้ได้นะ”

คำพูดของลู่เสี้ยงหยาง ทำเอาพี่เสือขำออกมา แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “แกคิดว่าแกเป็นใคร? เจ้านายฉันคือหลิวผิงคุณชายหลิวแห่งเมืองปินเหอ ใครบ้างเจอเขาจะไม่เกรงใจ?”

“จัดการมัน เกิดอะไรขึ้นฉันรับผิดชอบเอง!”

ได้ยินดังนั้น ชายฉกรรจ์กว่าสิบคนก็เริ่มลงมือ ยกกำปั้นขึ้น แล้วปล่อยหมัดไปที่ลู่เสี้ยงหยาง

แต่กำปั้นยังไม่ทันถูกตัวลู่เสี้ยงหยาง เสียงตะโกนน่าสะพรึงกลัวของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นกะทันหัน

“เชี่ย แม่งเอ้ย พวกแกไอ้พวกโง่ หยุดมือ รีบหยุดมือเดี๋ยวนี้”

ทุกคนหันไปมอง เห็นเพียงชายผู้หล่อเหลาสวมชุดสูทหวีผมเรียบ วิ่งมาทางนี้อย่างไม่คิดชีวิต

เขาไม่ใช่ใครอื่น คือหลิวผิงคุณชายหลิว เจ้านายของพี่เสือ และยังเป็นชายที่คืนนี้ไป๋สู้สู้อยากรู้จักเป็นพิเศษ

ชายฉกรรจ์ทั้งหมดถูกสั่งให้หยุด โดยที่ไม่มีใครรู้สาเหตุ ต่างก็มองไปที่หลิวผิงด้วยความสงสัย

“นายน้อย”

“นายน้อย” รอจนหลิวผิงเดินเข้ามา ชายฉกรรจ์กว่าสิบคนนั้นต่างพากันก้มหัวให้หลิวผิง แสดงความเคารพอย่างมาก

เพี๊ยะเพี๊ยะเพี๊ยะ!

แต่หลิวผิงไม่ได้ตอบรับพวกเขา เพียงแค่ง้างฝ่ามือขึ้น ฟาดไปที่หน้าของแต่ละคนอย่างหนักหน่วง

ใบหน้าครึ่งหนึ่งของชายฉกรรจ์กว่าสิบคนบวมขึ้นมา ปรากฏรอยฝ่ามือสีแดงสดเด่นชัด

“เชี่ยเอ้ย! นี่มันเรื่องอะไรกัน?” ชายฉกรรจ์กว่าสิบคนใจวูบไปอยู่ตาตุ่ม คุณชายหลิวตีผิดคนหรือเปล่า?

“เอ่อ คุณชายหลิว คือคือคือ...” พี่เสือแววตาตกตะลึง เกาหลังหัวของเขาไม่หยุด

“คือแม่แกสิ ทำงามหน้ามากนะ ใครเป็นคุณชายหลิวของแก? แกมันรนหาที่ตาย” หลิวผิงด่าทอด้วยความโมโห ไม่ทิ้งความรู้สึกใดๆ เขาง้างมือขึ้นฟาดไปที่หน้าของพี่เสืออีกคน

การตบรอบนี้แทบจะใช้แรงทั้งหมด พี่เสือถูกตบจนล้มไปกองกับพื้น สายตาเห็นดาววิ่งไปมา เลือดสดไหลออกจากมุมปาก แม้กระทั่งฟันก็หักไปหลายซี่

ผู้คนรอบข้างต่างตกตะลึง พี่เสือเป็นลูกน้องที่มีความสามารถของหลิวผิง ทำไมจู่ๆถูกหลิวผิงสั่งสอนขนาดนั้น?

“คุณชายหลิว คุณ คุณตีคนผิดหรือเปล่า? ผมคือเสือไง” พี่เสือยกมือขึ้นประกบแก้มที่ปูดบวม ใบหน้าน้อยใจเต็มไปด้วยทำถาม

“ที่ฉันจะตีก็คือแกนั่นแหละ” หลิวผิงแผดเสียง เงื้อมือขึ้นอีกข้างของพี่เสือ ใบหน้าถูกฝากรอยฝ่ามือไว้อีกรอย

พี่เสือถูกตบตีจนกะเผลกไปนั่งบนโซฟา สีหน้ามีแต่ความงุนงง

คืนนี้เขาไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ เมื่อครู่ก็พึ่งออกมาจากออฟฟิศของหลิวผิง หลังหลิวผิงได้รับโทรศัพท์จากเฉินจิ่นซิ่ว ก็ให้เขาลงมาดูสถานการณ์ก่อน

“อ้อ... คุณชายลู่ ที่แท้คือท่านนี่เอง ท่านมาถึงนี่ทำไมไม่บอกกล่าวผมเสียหน่อย ผมจะได้มาต้อนรับด้วยตัวเอง” ในขณะที่ทุกคนกำลังงุนงง หลิวผิงที่สั่งสอนพี่เสือเสร็จก็หันมาก้มหัวให้ลู่เสี้ยงหยาง ท่าทีอ่อนน้อมอย่างมาก

ในเวลานี้ ใจที่คิดอยากจะตายของหลิวผิงก็เกิดขึ้นแล้ว

ที่คลับดีโอราแห่งนี้ พ่อของเขาเป็นเจ้าของเพียงแค่เบื้องหน้า จะเรียกเจ้าของก็เป็นแค่คำพูดที่ทำให้น่าฟัง ถ้าพูดอย่างไม่น่าฟัง ก็เป็นแค่หุ่นเชิด

หลิวผิงเป็นเพียงแค่หุ้นส่วนภายใต้หยูเม่ยหยินกรุ๊ป เพียงแค่ได้กินเค้ก ก็เจริญรุ่งเรืองขึ้น พูดให้ชัดเจนคืออาศัยลู่เสี้ยงหยางกินข้าว เมื่อครู่นั่งดื่มชาอยู่ข้างบน ได้ยินหัวหน้าซุนบอกว่าลูกน้องกำลังหาเรื่องนายใหญ่ของหยูเม่ยหยินกรุ๊ป ก็ตกใจจนรีบร้อนวิ่งลงมา

ม่านตาของไป๋สู้สู้หลี่ลงเล็กกว่าปลายเข็ม อ้าปากเหวอ หายใจหืดหอบ เส้นประสาทวิ่งพล่านไปทั่วตัว เหมือนโดนคลื่นใหญ่ซัด ไม่ต้องพูดถึงความสั่นสะเทือน

ลู่เสี้ยงหยางคือคนที่เธอเห็นก็ขยะแขยง แต่หลิวผิงคุณชายสูงศักดิ์คนนี้ทำไมถึงได้ไปแสดงความเคารพต่อเขาขนาดนั้น?

“พระเจ้า อย่าเล่นตลกกับฉัน” เสือแทบจะกระอักเลือด นายน้อยของพวกเขาเคยนอบน้อมขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

มีเพียงคำอธิบายเดียว นั่นคือลู่เสี้ยงหยางเป็นคนใหญ่คนโตที่ต้องเกรงกลัว น่ากลัวกระทั่งนายน้อยของพวกเขายังไม่กล้ายั่วยุ!

“หึหึ นายยุ่งขนาดนั้น มีเวลามาต้อนรับฉันซะที่ไหน” ลู่เสี้ยงหยางยิ้มน้อยๆพูดตอบหลิวผิง

เปรี้ยง!

ในหัวของหลิวผิงมีเสียงฟ้าร้องดังลั่น เหงื่อเย็นเยือกไหลซึมบนหน้าผากของเขา

ผู้ยิ่งใหญ่ตรงหน้าท่านนี้ไม่พอใจกับสิ่งที่เขาทำหรือ?

“อะไรกัน... คุณชายลู่ คุณอย่าล้อเล่นกับผมเชียว ผมมันอ่อนหัด รับมือความน่ากลัวของคุณไม่ไหว” น้ำเสียงหลิวผิงเริ่มสั่นเทา เห็นได้ชัดว่าถูกทำให้กลัวแล้วจริงๆ

เมื่อเห็นฉากนี้ ทุกคนแทบทนไม่ไหวที่จะควักลูกตาออกมา หลิวผิงในลักษณะนี้ ดูเหมือนกับเด็กนักเรียนเข้าพบครูใหญ่เพราะกระทำความผิด

“เอาเถอะเอาเถอะ ฉันแค่ล้อเล่น” ลู่เสี้ยงหยางโบกสะบัดมือ

หลิวผิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ในที่สุด เปรียบเหมือนได้รับนิรโทษกรรม ราวกับดาบเล่มคมที่ห้อยอยู่เหนือหัวเขาถูกปลดออก

“เช่นนั้นคุณชายลู่ เมื่อครู่นี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” หลิวผิงถามอย่างระมัดระวัง

ลู่เสี้ยงหยางมองไปที่ไป๋สู้สู้แสร้งยิ้มแล้วพูดว่า “เธออยากให้ฉันเป็นขันที”

เมื่อเขาพูดคำนั้น หลิวผิงช็อคจนแทบบ้า เหงื่อเย็นๆบนหน้าผากกลายเป็นเม็ดเหงื่อขนาดเท่าทั่วเหลืองจำนวนมาก ไหลลงตามแก้มของเขาแล้วตกไปสู้พื้น

เธอคนนี้รนหาที่ตายหรือไง กล้าพูดแบบนั้นกับลู่เสี้ยงหยาง

“คุณชายลู่วางใจเถอะ ผมจะทำให้เธอเหมือนตายทั้งเป็น” หลิวผิงให้คำมั่นสัญญา

สิ้นเสียงพูดคุย เขาก็หันไปเรียกลูกน้องกลุ่มหนึ่ง “พวกแก จับผู้หญิงคนนี้ถอดเสื้อผ้า แล้วเอาไปโยนทิ้งข้างถนน”

ไป๋สู้สู้สีหน้าหวาดกลัวอย่างไม่มีอะไรเทียบได้ ราวกับเห็นผีในตอนกลางวัน กลัวจนเดินถอยหลังไม่หยุด แต่เมื่อนึกถึงแฟนหนุ่มของตน ก็เรียกความมั่นใจกลับคืนมาได้ “คุณชายหลิว คุณทำอะไรฉันไม่ได้ แฟนของฉันคือหวงโหย่วเหวย ถ้าคุณทำร้ายฉันแม้แต่ปลายขน คุณจะต้องรับผลร้ายที่ตามมา” ไป๋สู้สู้เชิดหน้าขึ้น กล่าวอย่างเย่อหยิ่ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel