ตอนที่ 4
เสียงโทรศัพท์โต๊ะทำงานดังขึ้น ลักนารารีบรับสาย
“ค่ะท่านประธาน”
“คุณลักเข้ามาพบผมหน่อย”
“ได้ค่ะ” หญิงสาววางสาย แล้วลุกจากเก้าอี้ทำงาน เดินตรงไปยังห้องประธาน
วิทวัฒน์ผายมือให้เลขานั่งลงตรงข้าม เธอแปลกใจที่เห็นเจ้านายเรียกมาเช่นนี้ ท่าทางดูหนักใจกับบางอย่าง
“มีอะไรหรือเปล่าคะท่านประธาน” เธอถาม เพื่อให้อีกฝ่ายเบาใจ
“พอดีผมอยากให้คุณไปทำงานเป็นเลขาของหุ้นส่วนบริษัทเราหน่อย ผมหาคนมีฝีมือที่วางใจได้แทบไม่มีนอกจากคุณ”
ลักนาราขมวดคิ้วสีหน้าครุ่นคิด
“ใช่คนคุณไคล์หรือเปล่าคะ” เธอถาม แล้วสบตา
คนถูกถามพยักหน้าช้าๆ “ใช่แล้ว”
ลักนาราสีหน้าหนักใจขึ้น เพราะเท่าที่รู้ไคล์ แม็กโคนิคมีชื่อกระฉ่อนเกี่ยวกับผู้หญิงไม่น้อยเลย แต่คงปฏิเสธงานนี้ไม่ได้ เมื่อท่านประธานมีบุญคุณกับเธอมากเหลือเกิน
“ถ้าท่านประธานต้องการให้ลักไปช่วยงาน ลักยินดีค่ะ”
วิทวัฒน์อดเป็นห่วงไม่ได้ เอ็นดูเลขาเหมือนลูกหลาน ทำงานด้วยกันมาหลายปี ลักนาราไม่เคยทำให้ผิดหวัง ตนเองเคยได้ยินข่าวคราวของไคล์มาบ้าง แต่เขาไม่ได้สนใจเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว แค่หวังว่าหุ้นส่วนคงไม่คิดเกินเลยกับเลขาสาวสวยของเขา
“ฝากด้วยนะลัก”
เธอยิ้มบางๆ เพื่อให้ท่านประธานเบาใจ
“ค่ะ ไม่ต้องห่วง”
ชายกลางคนยกท่อนแขนดูเวลา ใกล้ถึงการนัดหมายแล้ว เขาลุกยืนแล้วหันมองเลขา
“ไปที่ห้องประชุมกันเถอะ” วิทวัฒน์บอกแล้วเดินนำออกจากห้องไป
เลขาสาวสูดลมหายใจครู่หนึ่งแล้วก้าวตามไป ห้องประชุมไม่มีผู้ใด มีเพียงเขาและเลขาเท่านั้น เหลือเวลานัดอีกสิบนาที ข่าวแว่วว่าไคล์เป็นคงตรงเวลามาก นาฬิกาเดินจนถึงเวลานัดประตูห้องประชุมเปิดออก ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาโดยมีลูกน้องเดินตามหลัง
วิทวัฒน์รีบยืนแล้วฉีกยิ้มเพื่อต้อนรับหุ้นส่วนคนสำคัญ ไคล์ยกมือจับกับนักธุรกิจชาวไทย ก่อนสายตาเลยไปถึงหญิงสาวหน้าตาหมดจดซึ่งยืนอยู่เบื้องหลัง
“เชิญนั่งครับคุณไคล์” วิทวัฒน์ผายมือ แล้วนั่งลงบนเก้าอี้บุนวมสีดำเช่นเดียวกัน
ไคล์ทรุดกายลง ดวงตาคมยังคงจับจ้องใบหน้าของหญิงสาวจนคนถูกมองรู้สึกได้ ลักนาราสบตาเข้ากับเขาพอดี รีบเบือนหน้าหนี หัวใจเต้นโครมครามไม่หยุด มือบางชื้นเหงื่อตกประหม่าขึ้นทันใด เพียงแค่ดวงตาผสาน ทำเอาร่างกายเธอผ่าวร้อนราวกับถูกเปลื้องผ้าต่อหน้าชายผู้นั้น
นักธุรกิจหนุ่มจำต้องละจากใบหน้าสวยๆ ของเลขาก่อน แล้วหันมาสนใจงาน เขายังมีเวลาอยู่เมืองไทยอีกมาก คงได้ทำความรู้จักกันแน่นอน ลักนาราหายใจไม่ทั่วท้อง ยิ่งเห็นสายตาเจ้านายคนใหม่ยิ่งหวาดหวั่นพิกล แต่เธอจำต้องทำงานนี้เพราะคุณวิทวัฒน์ให้เงินเดือนไม่น้อย
“เป็นอันตกลงตามนี้ครับ” ไคล์บอกเสียงนุ่ม วิทวัฒน์ยิ้มกว้างแล้วยื่นมือไปเพื่อให้อีกฝ่ายจับ
“ขอบคุณมากนะครับ” วิทวัฒน์ตอบกลับน้ำเสียงตื่นเต้นระคนดีใจ
เมื่อสองฝ่ายจับมือตกลงกันเป็นอันเรียบร้อยแล้ว วิทวัฒน์หันมาที่เลขาของตนเองแล้วผายมือแนะนำอีกฝ่าย
“นี่ลักนาราครับ เป็นมือดีของบริษัทเรา ผมจะยกให้เป็นผู้ช่วยคุณไคล์จนกว่าจะเดินทางกลับนะครับ”
ไคล์เหลือบมองสีหน้าเรียบนิ่ง แต่แววตาบ่งบอกความพึงพอใจต่อหญิงสาว
“ขอบคุณมากครับคุณวิทวัฒน์” ไคล์ตอบรับน้ำใจอีกฝ่ายทันที