ตอน 4
ลุงคมลุกจากไป ตองมองตามจนร่างเขาหาย ผ่านต้นไม้ในสวนรกครึ้มโอบล้อม
“รอประเดี๋ยวนะตอง บ้านไอ้คมมันมีสมุนไพรทุกชนิด มันเป็นหมอยาด้วยนะ ใช้ยาสมุนไพรรักษาชาวบ้าน ไม่คิดตังค์สักบาท ไอ้นี่มันใจดี นัยน์ว่าทำสวนนี้เพื่อชาวบ้าน ตามความตั้งใจของพ่อมัน ตาคงเป็นมะเร็งตายเมื่อห้าปีก่อน อีกปีแม่ก็มาตายตาม มันเลยอยู่คนเดียว”
“ลุงคมไม่มีลูกมีเมียหรือคะยาย”
“มันไม่เอาใครสิ มีแต่สาวๆ อยากเอามันทั้งนั้น สาวแก่ แม่หม้าย สาวรุ่น โอ๊ยยย เยอะแยะไปหมด อยากได้ไอ้คมเป็นผัว แต่มันไม่เอาใครสักคน”
ยายไม่อยากเล่าเลยว่า เมื่อก่อนมีข่าวลือหนาหู เต็มกับคมแอบรักชอบพอกัน ยายทองสุขนี่ล่ะ เป็นคนส่งเต็มไปเรียนต่อที่กรุงเทพ ไม่อยากให้คนครหานินทาตนมีลูกเขยอยู่ข้างบ้าน อยากให้ลูกสาวได้ผู้ชายดีๆ เป็นเจ้าคนนายคน มาเอาอะไรกับชาวนาชาวสวนด้วยกัน อยู่กันไปก็ต้องเป็นเมียเกษตรกร สู้ส่งไปอยู่ไกล ได้ผัวดีๆ รวยๆ ไม่ดีกว่าหรือ
ลุงคมเดินกลับมาในเวลาต่อมาหลังจากได้สมุนไพรสำหรับทาแผล เห็นยายทองสุขเหมือนกำลังรีบก้าวลงจากเรือน ลุงคมมองยายทองสุข พร้อมกับถือว่านอยู่ในมือ
“ยายจะไปไหน นี่ฉันเอาสมุนไพรมาให้”
“นางผันสิมาตามข้า เห็นว่ามีเรื่อง คนบุกรุกสวน ขโมยมะม่วง มะพร้าวไปหลายทะลาย”
“ยายเลยจะไปดูว่างั้น”
“เออ...”
“แล้วยานี่ล่ะ”
“วานเอ็งเอาไปให้อีหนูตองที”
“อ๋อ...ครับๆ” ลุงคมปั้นหน้าเฉย
“ฝากดูหลานข้าด้วยนะ ข้าจัดการหัวขโมยเสร็จจะรีบกลับมา กำนันรออยู่ข้ารีบไปล่ะ
ลุงคมก้าวขึ้นไปบนบ้าน เห็นตองนั่งก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ จึงก้าวไปช้าๆ นั่งลงข้างๆ หญิงสาวยังไม่ให้ความสนใจ
“ยายเอายามาแล้วหรือ งั้นก็ทาให้ตองสิ เดี๋ยวผิวตองไม่สวย ตองโทษยายนะ มาบ้านยายไม่กี่ชั่วโมงก็ได้แผล” ตองยังสนใจหน้าจอไม่หันมองคนก้าวขึ้นมาบนบ้าน ซ้ำยังนั่งข้างๆ “ทาเลยยาย” ตองหันหลังถลกเสื้อให้เห็นแผ่นหลัง
ทันใดที่ลุงคมเห็นเนื้อสาวรุ่นลูก ดวงตาพลันเบิกโต ผงะไปเล็กน้อยไม่ใช่ไม่เคยเห็น หากแต่คนตรงหน้ารูปร่าง หน้าตาเหมือนแฟนเก่า และนี่คือทายาทผู้หญิงที่เขาเคยรัก ความตื่นเต้นจึงมีมากกว่าการเห็นเนื้อสาวทั่วไป
“ทาสิยายตองจะได้รีบไปพัก นั่งรออีตาลุงคมนั่นตั้งนาน”
ยาสมุนไพรทาแผลที่ลุงคมบดเป็นผง ละลายกับน้ำเป็นผงสีเหลือง จิ้มลงบนถ้วยยื่นนิ้วเพื่อจะได้ทายาให้ตอง หากแต่ทำไมนิ้วที่เคยทำงานสวนงานไร่ ตรากตรำกลับสั่นไหว พอๆ กับหัวใจที่กำลังหน่วงยิ่งกว่าใครเอาลูกตุ้มมาถ่วง
“อูยยย ซี๊ด แสบนะยาย ยาอะไรแสบชะมัด” ทันทีที่ยาแตะลงบนแผลสีแดงเป็นทางยาว หญิงสาวสัมผัสได้ถึงความแสบจี๊ดบาดเนื้อ ตอนโดนลวดหนามบาด ทำไมไม่รู้สึกเจ็บ แค่โดนแต้มยามันกลับแสบกรีดลึก ร่างที่นั่งอยู่สะดุ้งโหยง ขยับหนีมือยาย “ไม่เอาแล้วยาย แสบมาก ตองไม่ให้ยายทาแล้วนะ” วางโทรศัพท์มือถือลง หันไปคว้ามือยาย “ยายมือใหญ่จัง” มือเล็กจับมือใหญ่ก้านงานใช้แรงงาน กำจอบ กำเสียบ
ฉับพลันตองต้องรีบเงยหน้ามองเจ้าของมือ
“ลุงคม ไม่ใช่ยายหรือ”
“มัวแต่เล่นมือถือสิท่า ยายไม่อยู่ยังไม่รู้ตัว”
“ว๊าย !” ตองตลบชายเสื้อลงทันใด เขาเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้วเนี่ย อีตาลุงหล่อ อายุอานามมากขนาดนี้ ยังคงความหล่อความเท่ แอบแฝงความเถื่อนไว้อีกต่างหาก ตองเผลอมองลุงคม จนตาค้าง
“ตกลงจะให้ลุงทายาให้ไหม”
“ไม่ๆๆ คือรอยายมาทาได้ค่ะ ไม่เป็นไร” เสียงลุงคมยังนุ่มทุ้มน่าฟังอีกด้วย
“ลุงอยากช่วยทา ไม่ได้หรือไง” ลุงคมขยับเข้าใกล้ตอง ยื่นหน้าใกล้ด้วย สายตามองปากและดวงหน้าตอง คล้ายกับกำลังค้นหาลายแทงสมบัติอะไรสักอย่าง คนตรงหน้าเขาคือเต็ม คนรักเก่า เขาท่องความรู้สึกผิดจังหวะ ส่วนตองทึ่งกับความหล่อและหนวดเคราลุงคมเป็นทุนอยู่แล้วจึงแข็งค้าง ขยับหนีไม่ได้ นิ่งจ้องมองคนที่กำลังยื่นหน้าเข้าใกล้อยู่อย่างนั้น
จนเมื่อปากลุงคมเหมือนจะสัมผัสปากตอง เสียงคนตะโกนอยู่ด้านล่าง จึงดึงสติชายกับสาวต่างวัย กระเด้งแยกห่างจากกัน
“ยายทองสุขอยู่ไหม ยายเอ๊ย ยาย”
“ยายไม่อยู่จ้ะ” ตองเด้งตัวออกห่างจากลุงคม เดินไปดูที่หน้าบันได มีหญิงสูงวัยคนหนึ่งมาถามถึงยาย
“ยายไปไหนหรือแม่หนู ว่าแต่...นั่นหนูเต็มหรือจ๊ะ” ยายคนนั้นถามนึกว่าลูกสาวยายทองสุข หน้าละม้ายคล้ายกัน คนแก่หูตาฝ้าฟางแล้วจึงดูผิดเป็นธรรมดา
“หนูตองค่ะ ลูกสาวแม่เต็ม”
“ลูกนางเต็ม โตเป็นสาวเท่าแม่แล้ว มาตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะหนู”
“ไม่กี่วันนี้เองค่ะยาย”
“นี่ยายชื่อจุกนะ เอากล้วยมาฝากยายทองสุข ยายฝากไว้ให้ด้วยนะ ผิวพรรณดีเหมือนแม่นะ มีผัวหรือยังล่ะ” คนแก่ก็ปากแบบนี้แหละ ยิ่งเป็นคนแก่สูงวัยบ้านนอกบ้านนา ไม่ค่อยจะพูดอ้อมค้อมสักเท่าไร
“อ่า...หนูยังเรียนอยู่เลยค่ะ”
“อุ้ย แถวนี่สิบสี่สิบห้ามันก็มีลูกสองแล้ว เออ...ดีๆ รักเรียน จะได้เป็นเจ้าคนนายคน ยายไปล่ะ” ยายจุกที่ว่าวางของฝากไว้ เอ่ยชมความสวย พูดนั่นนี่ก็จากไป หากว่าเรื่องลูกสาวเต็มมาเยี่ยมบ้าน ไม่ได้หยุดอยู่ที่ยายจุก ลามลุกไปทั่วหมู่บ้าน ในเวลารวดเร็ว เหมือนไฟลามทุ่ง
ลุงคมนั่งนิ่งไม่ยอมขยับ เกรงยายจุกเห็นว่าเขาอยู่บนเรือน ยายจุกคือปากลำโพง หอกระจายข่าวของหมู่บ้าน ทำหน้าที่ยิ่งกว่านักข่าวท้องถิ่น ถ้าเห็นเขาอยู่บนเรือน คงได้เอาไปคุยสนุกปาก ไอ้คมมันอยู่บนเรือนยายทองสุข แกคงไม่เล่าเท่านี้ เรื่องใส่ไข่แกถนัดนัก
ตองหันกลับมาเจอลุงคมรู้สึกขวยเขิน ขยับทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ถือกล้วยที่ยายจุกเอามาฝากค้าง ไม่น่าเชื่อว่าตองจะไหวหวั่นกับคนแก่คราวพ่อคราวแม่ อายุลุงคมน่าจะมากกว่าแม่เธอซะด้วยซ้ำ ลุงคมลุกขึ้นก้าวเดิน ตองหลบทางให้ หากแต่หลบมาขวาง พอจะขยับหลบอีกทาง ลุงคมขยับ กลายเป็นว่าหลบกันไปกันมา
“หยุด” ลุงคมจับหัวไหล่มนสาวน้อยที่ถือเชือกห้อยกล้วย “อยู่นิ่งๆ” ตัวเขาเบี่ยงตัวก้าวเดินลงบันไดไป ในใจลุงคมคิดอะไรมากมาย เมื่อกี้เขาไม่ได้จับถ่านร้อนๆ ใช่ไหม หากว่าทำไมรู้สึกเหมือนแตะถ่านร้อน
ตองยืนตัวแข็งทื่อแค่โดนฝ่ามือลุงคมจับหัวไหล่ ความตื่นเต้นส่งผลให้ตัวอ่อนทรุดเข่าลงนั่ง ถือกล้วยวางบนตัก
“ให้ตายเถอะ มาหวั่นไหวกับคนแก่ได้ยังไง” เชื่อว่าตนเองไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อน เครานั้นน่าลูบไล้เป็นบ้า ผิวสองสีที่ไม่เคยชอบ ชอบแต่ผู้ชายผิวขาวแบบไอดอล ดารา นักร้องเกาหลีอะไรแบบนั้น นี่คือหนุ่มใหญ่ร่างบึกบึน ผิวกร้านแดดกร้านลม เนื้อตัวแข็งขึงไร้ความอ่อนหวานแบบหนุ่มที่เธอชื่นชอบ ตองไม่เข้าใจตัวเอง
จนกระทั่งยายก้าวขึ้นมาบนบ้าน ตองยังคงนั่งนิ่งเพ้อถึงดวงหน้ารกไปด้วยเคราบนหน้าเถื่อนลุงคม
“ตอง...ไปเอากล้วยมาจากไหน” เสียงยายทองสุขเอ่ยถาม หากว่าหลานสาวยังนั่งนิ่งไม่ขยับ “ตอง นั่นเป็นอะไรไปน่ะ” ยายทองสุขถึงขนาดพูดภาษาอีสานกับหลาน ปกติก็พูดกลางไม่ค่อยชัดลิ้นแข็ง พยายามพูดกับหลานเท่านั้นเอง “ฮ่วย คือนั่งคือเจ๊กเมิดทุนแท้น้อ” ทำไมนั่งเหมือนเจ๊กขาดทุนล่ะ ยายก้มหน้ามองหลาน ยกฝ่ามือปัดไปตรงหน้า