ตอน 5
“วะ...ว่าไงยาย”
“เป็นอะไร นั่งหอบกล้วยอยู่นาน หมดแรงหรือ กล้วยมันหวีใหญ่สินะ” ยายหยอกหลาน
“นี่ค่ะยายกล้วยมีคนเอามาฝาก เอ่อ...ชื่อไรตองจำไม่ได้”
“เอ้า...แค่นี้ก็จำไม่ได้”
“ยายแก่ๆ ตัวผอม มีขี้แมลงวันมุมปากเม็ดใหญ่ๆ ค่ะ”
“อ้อ...สงสัยอีจุก” นางจุกถึงจะปากปลาร้า ช่างสอดไปหน่อย เรื่องความมีน้ำใจเป็นเลิศ มีอะไรก็เอามาฝากยายทองสุขอยู่ประจำ ผัก ผลไม้ กับข้าว นำมาส่งไม่ขาด
“ว่าแต่ทายาหรือยัง ไอ้คมมันเอายามาให้มั้ย” ยายสอบถามยังเป็นห่วงแผลที่แผ่นหลังหลาน อยู่เมืองกรุงลิ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ตอบ มาอยู่กับยายนับชั่วโมงได้ บาดเจ็บมีแผลซะได้
“นั่นค่ะ” ตองชี้ไปยังถ้วยยาสมุนไพรซึ่งแห้งกรัง “ยังไม่ได้ทา ตองทาไม่ถึง รอยายมาทาให้”
“มาๆ ยาไอ้คมมันดีนะ ใครๆ ก็มาขอมาซื้อจากสวนมันทั้งนั้น แถมมันยังใจดี แบ่งให้ไม่คิดเงินคิดทอง แนะนำบอกวิธีการใช้ มันเป็นคนมีน้ำใจ เสียดายไม่มีลูกมีเมีย”
“แล้วทำไมอายุป่านนี้เขาไม่เมียมีลูกล่ะคะยาย”
“ไม่รู้กับมันหรอก” ยายทองสุขเก็บงำบางสิ่งไว้ แกรู้ว่าเกิดจากแกคือสาเหตุหลักทำให้คมไม่ยอมปลงใจกับผู้หญิงคนไหนสักคน เพราะลืมลูกสาวคนสวยของยายไม่ได้
“คงถือคติที่ว่า อยู่เป็นโสดให้ผู้หญิงเสียดายเล่น” พูดจบตองก้าวเข้าห้องตัวเอง
“อะไรของวัยรุ่น” ยายไม่เข้าใจ ได้แต่บ่นตามหลัง
ในที่สุดเธอก็ส่งตัวแทนของเธอมาหาพี่นะเต็ม ยี่สิบเกือบสามสิบปี ที่เธอจากพี่ไปไม่ใช่ระยะเวลาสั้นๆ เธอมันคนไม่มีหัวใจ เคยนึกถึงจิตใจคนที่รักและภักดีต่อเธอบ้างไหม คราวนี้พี่จะทำให้เธอรู้ว่า การสูญเสียเป็นอย่างไร ลุงคมเดินจากบ้านยายทองสุขมา ด้วยความรู้สึกเก็บกดบางสิ่ง โชคเข้าข้างเขาซะที เฝ้าครุ่นคิดถึงใบหน้าคนหน้าเหมือนคนรักเก่า จนรู้สึกถึงความรักที่สูญหายไปในอดีต กำลังหวนกลับมา ในคราบของอีกคน
วันต่อมาไอ้ป้อมวิ่งรอดรั้วมาบ้านยายทองสุข ตะเบ็งเสียงเห่าอยู่ตรงบันได ป้อมเห่าอยู่นานจนคนที่อยู่บนบ้าน ต้องเดินมาชะโงกดู หมาที่ไหนมาเห่า บ้านยายไม่ได้เลี้ยงหมาแมว ความกลัวมันมากินไก่ กับเป็ดที่เลี้ยงไว้จึงไม่อยากเลี้ยง
“ไงป้อม มาเห่าอะไรแต่เช้า” ตองเดินลงบันไดไปหาเจ้าป้อม
ป้อมกระโดดหยองๆ เหมือนดีใจที่ได้เจอตอง วิ่งนำตองไปเบื้องหน้า “จะไปไหนรอด้วย” ตองไล่ตามป้อม “อะไรของแก มาเห่าเรียกแล้วก็วิ่งหนี” ตองวิ่งตามป้อมหมาน้อยตัวอวบอ้วนไปจนถึงบ้านที่อยู่กลางสระน้ำ
“พาฉันมาที่นี่ทำไม” ป้อมยังคงเห่า คำถามในใจตองยังคงผุดขึ้น ในเมื่อสื่อสารกับหมาตัวน้อยไม่เข้าใจ ก็ต้องก้าวเดินตามหาคำตอบเอง ป้อมวิ่งเห่าเข้าไปในบ้าน พอตองไปถึงก็เห็นว่าเจ้าของเคราดกนอนห่มผ้าอยู่บนเตียง
“ลุงคมหรือ” ป้อมกระโดดพร้อมกับเห่า ต้องการสื่อให้ตองช่วยดูคนที่นอนอยู่บนเตียงหน่อย ตองขยับไปชะโงกดูลุงคม หนวดเคราล้อมกรอบดวงหน้า จนมองไม่ออกว่าเขาเป็นอะไรกันแน่ พอยื่นมือไปแตะหน้าผากจึงรู้ว่า หน้าเขาร้อนผ่าว “อุ๊ย...!! ลุงคมของแกไม่สบาย”
“ลุงคะลุง” เรียกสติหนุ่มใหญ่วัยลุง เขาแค่พลิกตัว หากแต่ลืมตาไม่ขึ้น “เดี๋ยวตองเอาผ้ามาเช็ดให้นะคะ” ตองไม่รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหนจึงเดินสะเปะสะปะ ไปหาถังหรือกะละมังเล็กๆ กับผ้าเพื่อชุบน้ำใช้เช็ดตัวเช็ดหน้าให้กับลุงคม เมื่อวานยังเห็นแข็งแรงดีๆ อยู่ตอนนี้ทำไมป่วย อยู่คนเดียวแบบนี้ก็ลำบาก ดีนะเจ้าป้อมมันแสนรู้วิ่งไปตาม
สาวน้อยมองไอ้ป้อมที่เดินตามหลังต้อยๆ ราวกับเป็นน้องลุงคม “วางใจได้ฉันจะดูแลพ่อแกเอง” เจ้าป้อมเห่าทีหนึ่ง คล้ายขอบคุณ
พอไปถึงเตียงตองวางของที่ถือมา ลงบนโต๊ะตัวเตี้ยที่อยู่ข้างเตียง หย่อนก้นลงนั่งขอบเตียง
“จะเริ่มจากตรงไหนดี” ตองชุบผ้ากับน้ำในกะละมังบิดหมาดๆ เชื่อว่าต้องเช็ดหน้าก่อน เธอจึงลงมือเช็ด จากหน้าผากไล่มาตามแก้มสากล้อมด้วยหนวด แต่งทรงเหมาะกับใบหน้าคมสันผิวสีแดงดำลงตัว หญิงสาวเช็ดไปเพ่งมองดวงหน้าคุณลุงหล่อจัดคมเข้มไป
“อือ...หนาว หนาว” เสียงลุงคมบ่นหนาว คงเป็นเพราะเช็ดตัวแน่ๆ หญิงสาวเลิกเช็ด ดึงผ้าห่มคลุมร่างลุงคม “หนาว” ลุงคมยังบ่นหนาวอยู่อีก
“ตายล่ะทำไงไปหาหมอไหมลุงคม” คราวนี้พยาบาลจำเป็นทำอะไรไม่ถูก “ตองไปตามยายก่อนนะ” หญิงสาวลนลาน กลัวคนสูงวัยเป็นอะไรไป จังหวะที่กำลังลุกตั้งใจวิ่งไปตามยาย ฉับพลันข้อมือตองโดนฉุดเอาไว้ เธอหันมองตาเขม็ง เป็นลุงคมที่ฉุดไว้
“จะไปไหน วาด” ลุงคมเรียกใครไม่รู้ แต่ไม่ใช่ชื่อตอง
“ลุงคมว่าอะไรนะคะ”
“วาดจะไปไหน อย่าไป ผมหนาว”
“วาด ! หรือ” ตองก้มลงไปฟัง คราวนี้ได้ยินเต็มสองหู ลุงคมละเมอถึงคนชื่อวาด ใครกัน ! ผู้หญิงหรือผู้ชาย แม่ หรือ แฟน หรือใครกันแน่
ระหว่างที่ตองใช้ความคิด พลันโดนดึงลงไปนั่งบนเตียง ลำแขนคนไม่สบายตวัดโอบกอดร่างเล็กแน่นหนับ
“ลุงคมปล่อยตอง ตองนะไม่ใช่คุณวาด วาดอะไรนั่น อย่าเห็นตองเป็นตัวแทนคนอื่นสิ ปล่อยตอง” หญิงสาวดิ้นในอ้อมกอดลุงคม แล้วเมื่อยิ่งดิ้น ความรู้สึกบางอย่างก่อตัว ร่างกายลุงคมร้อนผ่าว หรือตัวเธอกันแน่ที่รู้สึกร้อนรุ่ม ลุงคมกอดรัดตองแน่นจนเธอไม่สามารถสลัดตัวเองหลุดจากวงแขนดุจคีมเหล็กแกร่ง
คนป่วยใช้ความว่องไว ตวัดพลิกร่างเล็กลงไปนอนบนที่นอน ส่วนตัวเขาป่ายขึ้นคร่อมด้านบน ไม่ยอมลืมตาหากแต่แอบลืมโดยคนที่โดนรุกไม่ทันได้สังเกต ตองเป็นกังวลหวาดหวั่นอยู่ในใจ
ใบหน้าร้อนของลุงคมก้มต่ำลงมา ปากตองตกอยู่ในการรุกรานของลุงเครางาม ลุงคมบดขยี้เรียวปากของเธอ ด้วยอาการเมามัน เหมือนไม่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไร หากแต่การจูบจากลุงทำให้ตองหนาวยะเยือก ร่างกายขนลุกชันทุกเส้นขน อาการต่อต้านอ่อนแรง จมไปกับการจูบจาบจ้วง เต็มไปด้วยการเอาแต่ได้ อยากจูบไม่ลืมหูลืมตา
ไม่เพียงแต่จูบมือลุงคมยังปลดเปลื้องเสื้อผ้าบนตัวตอง โยนทิ้งทีละชิ้นๆ จนกระทั่งตองไม่เหลืออะไรให้ปกปิดร่างกาย ล่อนจ้อนหน้าลุงคม คนไม่ลืมตาแต่สามารถถอดเสื้อผ้าได้ โคตรอัจฉริยะ
อืม...ลุงคมเปิดปากตองด้วยปลายลิ้นร้อนชื้น ช่างเต็มไปด้วยความหื่นกระหายแบบที่เขาไม่รู้ว่ารู้ตัวหรือเปล่า
“วาด...ผมต้องการคุณ วาด ตัวคุณหอมจังเลย ผมอยากจูบคุณ” ปากลุงคมผละออกเล็กน้อยปรากฏเสียงเล็ดลอด ครางครวญอะไรสักอย่าง ตองพยายามฟัง จึงพบว่าเขาคร่ำครวญหาคนชื่อวาดอีกแล้ว นั่นทำให้ตองมั่นใจว่า คนชื่อวาดคงเป็นคนรักของลุงคม
หากเป็นแบบนั้นตองไม่มีทางยอม เธอไม่ใช่ตัวแทนใคร ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้นที่ลุงคมต้องการ
“ปล่อยนะ ลุงคม นี่ตองเอง ไม่ใช่คุณวาดอะไรสักหน่อย” ยิ่งตองพูดลุงคมยิ่งจูบหนักหน่วง ไม่เว้นช่องให้หายใจ หรือแม้แต่ทำใจเตรียมตัวรับการรุกราน แบบเร่งด่วน
ตองเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าปากของเธอถูกเปิดด้วยปลายลิ้นร้อนลุงคม ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองเปิดปากให้ลุงคมสอดแทรกลิ้นเข้าไปในปากตั้งแต่เมื่อไร รับรู้เพียงความอุ่นแทรกวกวนความซ่านหฤหรรษ์แบบไม่เคยสัมผัสที่ไหนมาก่อน มันไม่เหมือนตักไอศกรีมเข้าปาก มันตื่นเต้นกว่านั้นหลายเท่า นี่สินะเขาเรียกการจูบ
นับเป็นจูบแรกในวัยสาวสิบเก้าย่างยี่สิบ ดูในซีรีส์ว่าฟินเร้าใจจนจิกหมอน พอเจอกับตัวเอง มันฟินยิ่งกว่าหลายสิบเท่า ลุงคมไม่ลืมหูลืมตา ระดมจูบตองอย่างป่าเถื่อน ราวกับต้องการดูดวิญญาณสาวน้อยจากร่าง ร่างกายตองอ่อนระทวย ในวงแขนแข็งแรงคนแกร่งกล้าอยู่ท้องไร่ท้องนา
“ลุงคมคะลุงคม” ตองเชื่อว่าลุงคมป่วย จึงต้องปลุกสติเขากลับคืนมา อีกอย่างเชื่อว่าลุงคมไม่ได้จูบเธอ หากแต่จูบคุณวาดอะไรนั่นต่างหาก ระหว่างลุงคมปล่อยปากร้อนผ่าวของเธอเป็นอิสระ ตองจึงได้โอกาสปลุกสติเขา