6.เลือกมาสิ
“นี่มันแย่นิดหน่อยตรงที่ไม่มีรูปของมารี ไม่อย่างนั้นข้าคงจะบอกได้แล้วว่านางเหมาะสมกับงานนี้ไหม แต่นางเขียนลงไปว่านางยังไม่มีคนรัก เพราะอย่างนั้น..ลองเรียกนางมาสิ ข้าไม่ชอบทำงานกับสตรีที่มีเจ้าของ มันทำงานด้วยไม่สะดวกเท่าไหร่นัก”
“.....”
โทเบียสทำหน้าสิ้นหวังก่อนที่จะถอนหายใจออกมา
“ครับ ข้าจะเรียกนางมาให้เร็วที่สุด แต่กำหนดการเริ่มงานอีกสองสัปดาห์นะครับเพราะระหว่างนี้เอรินยังคงต้องทำงานในส่วนที่นางทำค้างเอาไว้”
เอกอนยักไหล่
“ตามนั้น..”
เขาเป็นคนหนึ่งที่ไม่มีความเชื่อถือในเรื่องความรักเลยแม้แต่น้อย เอกอนตั้งใจเอาไว้แล้วว่าเขาจะไม่แต่งงานไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ไม่มีสตรีหน้าไหนที่สามารถทำให้เขารู้สึกอยากจะหยุดอยู่ที่พวกนางได้หรอก เขาสนุกกับการชื่นชมดอกไม้งามพวกนั้นไปเรื่อยๆ สนุกสนานกับการเด็ดพวกมันแล้วโยนทิ้งไปอย่างไม่ไยดี
ชีวิตเช่นนี้มีความสุขมากๆ แล้ว ไม่เห็นจะต้องไปรักใครให้ลำบากใจเลย
“ท่านพันตรีครับ มีจดหมายมาจากคฤหาสน์วิลเฮร์ม คุณหนูเข้าโรงเรียนแล้วนะครับ”
นี่คงเป็นเรื่องน่ายินดีมากที่สุดในเช้าวันนี้แล้ว เนดีนกำลังจะถูกส่งตัวไปที่อคาเด็มมี่ หลังจากกางแขนปกป้องเด็กคนนั้นมานานหลายปีในที่สุดนางก็สามารถหลุดพ้นจากท่านอาได้แล้วสินะ..
“ดีแล้ว ส่งคนไปที่อคาเด็มมี่ด้วย บอกว่าหากน้องสาวของข้าบาดเจ็บแม้แต่ปลายเล็บ ข้าจะไปเผาที่โรงเรียนนั่นให้วอดไปเลย..”
อูลีหัวเราะออกมาเบาๆ
“ครับนายท่าน”
เอกอนลุกขี้นจากเตียง เขาเปิดประตูบ้านพักออกไปก็พบเจอกับทหารที่กำลังฝึกอยู่ที่ลานด้านล่างอย่างขยันขันแข็ง เพราะว่าพวกเราคือประชาชนและนี่คือกองทัพที่มาจากประชาชนจริงๆ เราทุกคนพร้อมอย่างยิ่งที่จะสู้รบกับพวกชนชั้นสูงที่ชอบดูถูกประชาชนและแสวงหาผลประโยชน์จากเรา..
....................
“ดูเหมือนว่าทางนั้นจะติดกับง่ายดายมากกว่าที่คิดเอาไว้ มีการเรียกตัวเข้าไปที่กองทัพของวิลเฮร์มในอีกสองวัน มารีเจ้าจดจำเรื่องราวของตัวเองได้บ้างรึยัง”
เมื่อคืนนี้เธอไม่ได้นอนเลย เพราะว่าเธอจดจำเรื่องราวเกี่ยวกับมารีทั้งคืน เรื่องเมืองที่เกิด สถานที่ที่เคยไป ญาติพี่น้องที่ตายไปแล้ว อาหารที่ชอบ สีที่ชอบ แนวทางการสวมเสื้อผ้า หนังสือที่ชอบอ่านและอีกมากมาย
“ฉันคิดว่าข้าจดจำได้มากพอสมควรแล้วค่ะ อีกสองวันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
เอเดริคพยักหน้า
“แล้ว..เรื่องอย่างว่าล่ะ มีคำกล่าวว่ามารีคือสตรีที่ยังคงถือครองพรหมจรรย์..เจ้ากล่าวอ้างว่าเจ้ามีประสบการณ์เรื่องนั้นเป็นอย่างดี เช่นนั้นมันจะไม่เป็นปัญหาอย่างนั้นหรือ? "
เธอกำมือแน่น แล้วก้มหน้าลงเพื่อหลีกเลี่ยงสายตาที่กำลังกดดันของเขา
“เรื่องนั้นฉันมีวิธีของฉันค่ะ”
“ตอบแบบนั้นไม่ได้สิ หากเจ้าพลาดไม่ใช่แค่เจ้าที่เดือดร้อนแต่ข้าและกองทัพที่ยิ่งใหญ่ของไอฟอนเซ่ก็จะต้องเดือดร้อนไปด้วยนะ เจ้าคิดจะทำเช่นไร ไหนลองทำให้ข้าดูหน่อยสิ..”
เธอขมวดคิ้วเข้าหากัน
“คุณชาย ฉันไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องทำเช่นนั้น”
“ข้าคิดว่ามันจำเป็น ข้ากำลังสอนให้เจ้าเป็นสายลับที่ดีอยู่นะ หรือเจ้าคิดว่าข้าไม่เก่งมากพอที่จะประเมินเจ้า”
เธอขบเม้มริมฝีปากจนห้อเลือด
“ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้นนะคะ”
“เช่นนั้นก็ทำให้ข้าเห็นสิ ข้าจะได้วางใจว่าเจ้าคือสายลับที่ดี..มารีมานั่งตรงนี้สิ”
เขาตบลงที่หน้าขาของตัวเอง พร้อมกับดวงตาสีทับทิมที่หรี่ลงเล็กน้อยราวกับงูพิษที่กำลังจ้องจะงับเหยื่อ
เธอรู้ดีว่าไม่ควรจะเดินเข้าไป แต่แล้วเธอมีทางเลือกที่ไหนกัน เท้าทั้งสองข้างเดินเข้าไปหาเขาอย่างเชื่องช้าราวกับเธออยากจะประวิงเวลาให้ได้นานที่สุด แต่มือของเอเดริคก็คว้าเข้าที่ข้อมือของเธอ เขาดึงรั้งให้เธอนั่งลงบนตักของเขา
“แยกขาออกสิ..ข้าต้องทดสอบเรื่องการกระทำของเจ้านะ หุบขาเข้าหากันเช่นนั้นข้าจะทำมันได้อย่างไรกัน”
เธอส่ายหน้าไปมา
“ฉันคิดว่าการกระทำที่ไร้เดียงสานั้นฉันทำมันได้ค่ะ ไม่ต้องฝึกฝนกับท่าน ฉันก็ทำได้..ด้วยดี อีกทั้งฉันไม่มีความคิดที่จะนอนกับท่านพันตรี ฉันจะไม่เข้าหาเขาโดยใช้ร่างกาย..”
มือของเอเดริคจับเข้าที่ใบหน้าขอเธอ
“โถ..มารีผู้ไร้เดียงสา เจ้าไม่เข้าหาเขา แล้วจะรับประกันได้อย่างไรว่าเขาจะไม่เข้ามาหาเจ้า..”
เธอไม่รู้หรืออย่างไรว่าเสน่ห์ที่ตัวเองมีมันร้ายกาจมากแค่ไหน ไม่ว่าใครที่จ้องมองใบหน้านี้ต่างละสายตาไปไม่ได้ทั้งนั้น ความงดงามที่ผสมปนเปกันอย่างพอดิบพอดีกับความดื้อรั้นในแววตาของเธอ มีใครบ้างที่เห็นใบหน้านี้แล้วไม่อยากได้เธอบ้าง
ขนาดเขายังอดใจไม่ไหวเลย วันนั้นที่เธอหลับเขาอยากจะทำมันให้เสร็จสมดังใจแต่ทว่าการฝืนและดึงดันเข้าไปมีแต่จะทำให้ระหว่างเรานั้นมองหน้ากันไม่ติด บนเรือนร่างที่งดงามของเธอแค่ได้สัมผัสดูก็รู้ว่าเธอไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน และก่อนที่จะส่งเนื้อชิ้นงามไปให้เอกอน เขาจะต้องทดลองลิ้มรสเนื้อชิ้นนั้นก่อนสิ ไม่อย่างนั้นน่าเสียดายตายเลยว่าไหมล่ะ
มือของเขาสอดลึกเข้าไปใต้ชั้นกระโปรงของเธอ อาดาลีสะดุ้งเฮือกในทันที เธอพยายามผลักไสมือของเขาเพื่อที่จะดันมันออกไป แต่ทว่าเขาก็ไม่มีท่าทีว่าจะยอมถอยเลย
“มัวแต่ขัดขืนมีแต่จะทำให้เรื่องนี้จบช้าลงนะ ข้าต้องการทดสอบเพื่อที่จะได้ไว้วางใจ ว่าเจ้าจะเป็นสายลับที่ดีได้ หากเลือกได้..ข้าก็ไม่อยากจะทำเช่นนี้หรอก แต่ว่าข้าจำเป็นต้องทำจริงๆ ข้าเป็นห่วงเจ้านะอาดาลี..เพราะอย่างนั้นจนกว่าข้าจะแน่ใจว่าเจ้าจะแสดงออกเรื่องอย่างว่าได้อย่างดีเยี่ยมข้าจะต้องทดสอบเจ้าไปเรื่อยๆ ..หากเจ้ามั่นใจว่าตัวเองเก่งนักหนาเช่นนั้นก็ทำให้ดีในรอบเดียวสิ”
เธอกำมือแน่น เขาพูดจาเช่นนั้นออกมาได้หน้าตาเฉย ทั้งๆ ที่อาจจะเป็นเขาเองก็ได้ที่อยากทำเช่นนี้ เธอไม่อยากจะปล่อยผ่านหรือว่าปล่อยเลยตามเลยเพราะอย่างนั้นอาดาลีจึงมั่นใจว่าจะสู้เขาให้ถึงที่สุด
“หากว่าเจ้ายินยอมด้วยดี มันจะจบลงเพียงแค่นิ้วมือของข้าที่สอดลึกเข้าไปในนั้น แต่หากเจ้าอยากจะสู้กลับจริงๆ ละก็ ข้าไม่รับประกันว่าจะยับยั้งชั่งใจไหวนะ เพราะรสนิยมของข้าเป็นพวกชื่นชอบความรุนแรงน่ะ ข้าจะกดแทรกมันเข้าไปในสภาพที่มือและปากของเจ้าถูกมัดเอาไว้ ไม่ให้เจ้ามีโอกาสสู้กลับ เลือกมาสิอาดาลี เจ้าเฉลียวฉลาดมากกว่าใครอยู่แล้วนี่..อยากจะให้มันจบลงแบบไหนเจ้าเลือกมันได้นะ”