7.รอไม่นาน
นี่เขาเห็นเธอเป็นอะไรกัน เป็นสตรีตัวน้อยที่ไร้เดียงสาและคอยวิ่งไล่ตามแผ่นหลังของเขาต้อยๆ เหมือนเมื่อก่อนอย่างนั้นหรือ?
เธอมิได้ใสซื่อจนถึงขนาดไม่เข้าใจว่าเขาต้องการอะไร และไม่ได้โง่จนขั้นขนาดมองไม่ออกว่าเขาปรารถนาร่างกายนี้ของเธอมากแค่ไหน
ท่านแม่ตายแล้วนั่นคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ และในมุมมองของอาดาลี ท่านแม่ไม่มีวันจะฟื้นคืนขึ้นมาอีกแล้วอย่างแน่นอน เธออยากได้จดหมายที่เหลืออยู่มากก็จริงอยู่ แต่เธอมั่นใจในความสามารถของตัวเองมากกว่า ต่อให้ไม่มีจดหมายนั่นเธอก็สามารถตามหาเบาะแสการตายของท่านแม่ได้อยู่ดี แต่ที่เธอช่วยเขาเพราะเธอเห็นว่าสิ่งที่เขาต้องการคือให้เธอไปสืบเรื่องราวของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งอาจจะกำลังทนทุกทรมานกับการถูกคนในวิลเฮร์มดื่มเลือดของนางอยู่ก็เท่านั้น
“ท่านชายคะ..”
เธอเลื่อนไล้ฝ่ามือลงไปบนบ่ากว้างของเขา จากที่นั่งหันหลังในเขาในยามนี้ อาดาลีกำลังแปรเปลี่ยนมานั่งหันหน้าให้เขาแทน เธอไล้ฝ่ามือลงไปตามปกเสื้อของเขาอย่างช้าๆ ก่อนจะขยับร่างกายเข้าหาเขาด้วยความเย้ายวนในแบบที่ทำให้หัวใจของเอเดริคนั้นเต้นแรงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ เขาแลบลิ้นออกมาเลียที่ริมฝีปากด้วยการคาดหวังและรอคอย
อาดาลีขยับสะโพกของเธอขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้เธอสามารถแตะสัมผัสส่วนที่แข็งตึงออกมาจากเป้ากางเกงของเขาได้อย่างถนัด เธอขยับเอวอย่างช้าๆ เพื่อให้ส่วนนั้นเสียดสีกันเล็กน้อย
เสียงร้องครางดังขึ้นมาในลำคอของเอเดริค เขาจับเข้าที่สะโพกงอนงามของอาดาลีก่อนจะกดมันลงไปอย่างช้าๆ เพื่อให้มันแนบชิดลงไปยังส่วนนั้นของเขา ใจจริงเขาอยากจะถอดกางเกงออกแล้วเสียดสีมันโดยตรงมากกว่า แต่ทว่าเขาควรจะใจเย็นเพื่อรอคอยให้อีกฝ่ายทนไม่ไหวแล้วลงมือทำมากกว่า
“อ่า..ให้ตายสิ คงจะดีมากกว่านี้หากว่าเราสามารถสัมผัสกันโดยตรง โดยที่ไม่มีอะไรมาขวางกั้น..ไปที่เตียงดีไหมอาดาลี”
เธอหัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นแล้วดึงกระโปรงที่ถกขึ้นไปเล็กน้อยของตัวเองลงมา
“การที่ท่านชายมีความรู้สึกเช่นนี้ นั่นหมายความว่าท่านกำลังรู้สึกดีใช่ไหมคะ เช่นนั้นการทดสอบของข้าก็ถือผ่านแล้ว ท่านไม่จำเป็นที่จะต้องใช้นิ้วมือหรือว่าส่วนนั้นของท่านเพื่อมาทดสอบข้าอีกแล้ว เพราะอย่างนั้น..ราตรีสวัสดิ์นะคะท่านชาย”
เมื่อกล่าวจบอาดาลีก็เดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง ทิ้งให้เอเดริคนั่งอยู่บนโซฟาด้วยใบหน้าที่เห่อร้อน เขาแสยะยิ้มขึ้นมาที่มุมปากด้วยความพึงพอใจ แน่นอนว่าเขาพอใจมากๆ กับความดื้อรั้นนั้นของอาดาลี เขาชอบที่เธอเก่งกาจเรื่องหาทางเอาตัวรอด เพียงแต่ครั้งนี้เขาบอกไปแล้วนี่ว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยผ่านไปง่ายๆ ในบ้านหลังนี้ไม่มีห้องไหนที่เขาเปิดเข้าไปไม่ได้หรอกนะที่รัก
อาดาลีปิดประตูพร้อมลงกลอนในทันที เธอยกมือขึ้นมาจับเข้าที่หัวใจของตัวเอง มันกำลังเต้นแรงด้วยความบ้าคลั่งในแบบที่เธอไม่เคยเป็นมาก่อน อุณหภูมิในร่างกายร้อนขึ้นตามลำดับ เธอไม่เคยทำเรื่องเช่นนี้มาก่อนเลย แต่ถึงอย่างนั้นอาจจะเป็นเพราะความเก่งกาจของเธอ มันถึงทำให้เธอทำมันออกมาได้ดีตั้งแต่ครั้งแรก
เธอควรจะไปอาบน้ำก่อนนอน หลังจากนั้นพรุ่งนี้เธอคิดว่าตัวเองน่าจะออกไปเดินในตลาดเพื่อสืบเรื่องเกี่ยวกับกองทัพของวิลเฮร์มสักหน่อย
อาดาลีไม่ได้นอนมาหนึ่งคืนเต็มๆ เมื่อวานเธอเอาแต่อ่านเรื่องของมารีจนไม่ได้นอน เธอต้องการจดจำเรื่องของตัวตนใหม่ของตัวเองให้ได้ จึงพยายามจดจำมันจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลยแม่แต่นิดเดียว หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วเธอก็เดินไปที่ริมหน้าต่างเพื่อมองดูรถยนต์คันงามของท่านเอเดริค อาดาลีพบว่ารถของเขาไม่ได้จอดอยู่ที่ด้านหน้าบ้านของเธอแล้ว แสดงว่าเขากลับไปแล้วสินะ
เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อเขาไม่อยู่ที่นี่แล้วเธอจะได้นอนหลับอย่างไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง
“.......”
เอเดริคเปิดประตูลับเข้ามาในห้องนอนของอาดาลี นี่คือบ้านที่เขาสร้างขึ้นมาและเพราะตำแหน่งหน้าที่การงานของเขา เขาจึงจำเป็นที่จะต้องสร้างทางลับเอาไว้เพื่อหลบหนีฉุกเฉินในกรณีที่มีคนร้ายบุกเข้ามา
ดวงตาสีทับทิมของเขาทอดสายตามองไปยังร่างเล็กๆ ที่กำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียง เขาคิดเอาไว้แล้วว่าเธอจะต้องเหนื่อยล้ามาพอสมควรเพราะว่าเมื่อคืนนี้เธอไม่ได้นอน
เอเดริคถอดเข็มขัดของตัวเองออกพร้อมกับกับปลดกระดุมเสื้อของเขาอย่างรีบร้อน ในทุกย่างก้าวที่เดินเข้าไปหาเธอ
ขั้นแรกเขาต้องมั่นใจว่าเธอจะต้องไม่ตื่นขึ้นมา ลำพังแค่ความเหนื่อยล้าเพียงอย่างเดียวมันไม่พอหรอก เขาหยิบขวดยานอนหลับขึ้นมาแล้วหยดมันลงบนผ้าเช็ดหน้าก่อนจะนำมันไปปิดที่จมูกของอาดาลีพักหนึ่งเพื่อให้เธอสูดดมมันเข้าไป
หลังจากมั่นใจว่าเธอจะไม่ตื่นขึ้นมาในช่วงเวลาที่เขาเพลิดเพลินอยู่กับร่างกายของเธอแล้ว เขาก็เริ่มถอดชุดนอนของเธอออกมา
ยอดปลายถันสีหวานที่เขาเคยขบกัดมันมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อสองวันก่อน เรือนร่างที่แสนงดงามปานรูปสลักของอาดาลียังคงติดตรึงอยู่ในสายตาของเขาตลอดเวลาไม่เว้นแม้กระทั่งในยามที่เขานอน เขาไม่เคยอยากได้ใครมากเท่านี้มาก่อนเลย
“ท่านพี่ ข้าเรียกท่านว่าท่านพี่ได้ใช่ไหมคะ”
“แน่นอนสิ ไหนลองพูดตามข้าสิ ท่านพี่เอริค..ข้าคือพี่ของเจ้านะอาดาลี”
เด็กน้อยทำท่าครุ่นคิด
“หากว่าท่านเป็นพี่ เช่นนั้นเราก็แต่งงาน กันไม่ได้อย่างนั้นหรือคะ..?”
เอเดริคหัวเราะด้วยความเอ็นดู กับความไร้เดียงสาของเด็กน้อย
“อาดาลีอยากแต่งงานกับพี่อย่างนั้นหรือ”
อาดาลีพยักหน้าพร้อมกับส่งยิ้มที่ไร้เดียงสามาให้เขา
“เช่นนั้นเอาไว้อาดาลีโตขึ้นมากกว่านี้ พี่จะไปขอเจ้าแต่งงานเอง..เมื่อถึงเวลานั้นก็ช่วยตอบรับการขอแต่งงานของพี่ด้วยนะ”
ภาพในวัยเด็กฉายชัดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เขาดีใจที่เธอเติบโตมาด้วยความสง่างามและเฉลียวฉลาดมากขนาดนี้ เพราะว่านั่นมันทำให้อาดาลีเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นดัชเชสของเขา
“เจ้าพูดเองว่าอยากแต่งงานกับข้านี่ พูดคำไหนต้องเป็นคำนั้นนะอาดาลี”
มือของเขาสัมผัสลงไปบนเนินอกอวบอิ่ม เอเดริคกำมันแน่นจนมันปริออกตามร่องนิ้ว เขาก้มหน้าลงไปก่อนจะใช้ริมฝีปากดูดดึงยอดปลายถันสีแดงระเรื่อนั่นด้วยความเร่าร้อน..
รอไม่นานอาดาลี ข้ากำลังพยายามอย่างยิ่งในการขึ้นเป็นดยุค เมื่อใดก็ตามที่อำนาจของไอฟอนเซ่มาอยู่ในมือของข้าจนหมดสิ้น ข้าจะทำให้เจ้าเป็นดัชเชสไอฟอนเซ่เอง