บท
ตั้งค่า

3.ยังไม่เสร็จ

กลิ่นนี้มันคือกลิ่นอะไรกันนะ กลิ่นที่สดชื่นราวกับช่วงเวลาที่ดวงตะวันพึ่งจะโผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมาใหม่ๆ กลิ่นน้ำค้างที่ติดค้างอยู่บนใบหญ้า กลิ่นที่ทำให้รู้สึกไม่อยากลืมตาขึ้นมาเลย มันเหมือนกับกลิ่นที่ทำให้ฉันอยากจะนอนหลับอยู่อย่างนั้นตลอดไป เพื่อที่จะไม่ต้องตื่นมาเผชิญหน้ากับความจริงอันแสนเจ็บปวด..

อาดาลีค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา เธอจำได้ว่าเมื่อวานนี้เธอเหนื่อยล้าจากการเดินทางและใช้น้ำตาเป็นตัวขับกล่อมเพื่อให้ตัวเองนอนหลับไป เธอลุกพรวดพราดขึ้นมาจากที่นอนเมื่อมองเห็นเงาร่างของคนแปลกหน้าที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องนอนของเธอ

“ตกใจอะไรขนาดนั้นกัน..ทำเหมือนกับว่าข้าไม่เคยทำเช่นนี้มาก่อนอย่างนั้นแหละ..”

เขานั่งอยู่ที่ข้างเตียงของเธอ ซึ่งไม่มีอะไรบอกกล่าวได้เลยว่าคุณชายที่สุดแสนจะสมบูรณ์แบบอย่างท่านเอเดริคมานั่งในห้องนอนของฉันนานมากแค่ไหนแล้ว และการคิดว่ามีคนอื่นมานั่งมองฉันในขณะที่ฉันกำลังหลับอยู่นั้น มันทำให้ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก

“ท่าน..คะ..คุณชายเข้ามาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะ”

ในน้ำเสียงของเธอนั้นแฝงไปด้วยคำตำหนิ ดวงตาคู่นั้นมองเขาด้วยแววตาไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก

“ที่นี่คือบ้านพักของเจ้าก็จริง แต่ก่อนที่มันจะเป็นบ้านพักของเจ้า มันคือบ้านพักของข้า ข้าแค่มาเอาของที่ลืมไว้ก็เท่านั้นเอง แต่ก่อนจะไปข้าก็อยากจะบอกลาเจ้าก่อน”

เขามาที่นี่ตั้งแต่เมื่อวาน หากอาดาลีล่วงรู้ว่าเมื่อคืนนี้ เขาปีนเตียงแล้วล้มตัวลงไปนอนเคียงข้างเธอ เธอจะทำหน้าตาแบบไหนกันนะ หากเธอรู้ว่าหยาดน้ำตาที่รินไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยนั่นเขาทำหน้าที่เช็ดมันให้เธอทั้งคืน เขาคงจะได้เห็นใบหน้าที่ตื่นตกใจของเธออย่างแน่นอน

“อะ..อย่างนั้นเองสินะคะ”

ฉันลุกขึ้นจากเตียง เพราะการพูดคุยกับเขาบนเตียงนี้อาจจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก ทว่าเมื่อลุกขึ้นจากเตียงชุดเดรสที่สวมอยู่เมื่อคืนก็พลันหลุดร่วงออกไปจากร่างกาย กระดุมเสื้อถูกปลดออกจนไม่หลงเหลือเลยสักเม็ดเดียว ฉันก้มมองตัวเองในสภาพที่ไม่เชื่อในสายตาเท่าไหร่ เท่าที่จำได้ฉันว่าก่อนนอนฉันไม่ได้แตะต้องเสื้อผ้าของตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วทำไมฉันถึงได้อยู่ในสภาพเช่นนี้กันนะ..

ดวงหน้างามขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ เธอรีบจับเข้าที่เสื้อเชิ้ตของตัวเองก่อนจะเดินเข้าไปที่หลังม่านเพื่อติดกระดุมเสื้อให้เรียบร้อย แต่ทว่ากระดุมบางเม็ดกลับขาดออกจากกัน และสายของเสื้อซับในของเธอขาดออกเช่นกัน นั่นทำให้ฉันคิดว่านี่มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญซะแล้ว ชายผู้นั้น..ว่าที่ท่านดยุคแห่งไอฟอนเซ่ ต้องทำอะไรสักอย่างกับฉันแน่นอน

ทว่าถึงแม้ว่าจะโกรธเคืองและไม่พอใจเขา แต่ฉันก็ยังคงแสดงสีหน้าเรียบเฉยเมื่อฉันเดินออกมาจากหลังฉากกั้น

“นี่ก็สายแล้ว..คุณชายยังไม่กลับไปอีกอย่างนั้นหรือคะ หรือว่าท่านยังเก็บของไม่เสร็จ เช่นนั้นให้ฉันช่วยดีไหมคะ”

เอเดริคกลั้วหัวเราะในลำคอ

“ยังไม่เสร็จน่ะใช่..แต่ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยววันหลังข้าค่อยมาทำให้เสร็จก็ยังไม่สาย”

คำกล่าวที่ไม่ชัดเจนของเขายิ่งทำให้เธอคาดการณ์ถึงเจตนาที่ไม่ค่อยดีของเขาได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

“ฉัน..ไม่สะดวกค่ะ หากว่าท่านยังมีข้าวของอยู่ที่นี่อีกมาก เช่นนั้นให้ฉันออกไปอยู่ที่อื่นก็ได้ค่ะ ท่านก็อยู่ที่นี่ของท่านต่อไป..”

“อาดาลี..ข้าไม่ค่อยชอบคนที่อวดเก่งใส่เท่าไหร่นัก ข้ารู้ว่าเจ้าเก่งกาจจนสามารถจัดการพวกอันธพาลในอคาเด็มมี่ได้ แต่กับข้ามันไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอก อย่าลืมสิว่าจุดประสงค์ของเจ้าคืออะไร เจ้ามาอยู่ที่นี่เพื่อตามสืบสาเหตุการตายของแม่ ระหว่างเราไม่ใช่คนแปลกหน้าแต่ว่าข้าคือพี่ชายของเจ้าไม่ใช่หรือ การอยู่ด้วยกันระหว่างพี่ชายและน้องสาวนั้นไม่แปลกอะไรเลยนี่”

พี่ชาย? พี่ชายอะไรกัน เขาไม่ได้มองเธอว่าเป็นน้องสาวเลยแม้แต่นิดเดียว อาดาลีเริ่มแน่ใจแล้วว่าเธอถูกเขาหลอกให้มาที่นี่ เพราะอย่างนั้นเธอจะออกไปจากที่นี่แล้วตามสืบเรื่องของท่านแม่เอง

“ฉันไม่สะดวกใจค่ะ พอดีว่าฉันมีคนรักแล้ว ฉันไม่อยากให้คนรักเข้าใจผิดเรื่องของฉันกับท่าน เราอยู่บ้านหลังเดียวกันไม่ได้ ส่วนเรื่องของท่านแม่..ฉันจะตามสืบเรื่องนั้นด้วยตัวเองค่ะ ไม่ขอพึ่งพาท่านอีก”

เธอจำเป็นต้องโกหกเขาเรื่องของชายคนรัก เธอยังไม่มีใครแต่การกล่าวเช่นนี้อาดาลีหวังว่ามันจะทำให้เขาเลิกยุ่งกับเธอ

“อย่างนั้นเองสินะ เช่นนั้นเจ้าก็ออกไปตามหาเบาะแสเรื่องการตายของอากาธาเองเถอะ ข้าอุตส่าห์ตั้งใจว่าจะให้จดหมายของอากาธากับเจ้า แต่ตอนนี้มันคงจะไม่จำเป็นแล้วสินะ โชคดีก็แล้วกันอาดาลี”

เอเดริคกล่าวพร้อมกับชูจดหมายที่หน้าซองเขียนชื่อเธอเอาไว้ด้วยลายมือของท่านแม่

เธอกำมือแน่นพร้อมกับหลุบตาลงเพื่อมองพื้น ชายผู้นี้ราวกับว่าเขานำเธอหนึ่งก้าวอยู่เสมอ มันราวกับว่าเขารู้ว่าเขาจะต้องทำเช่นไรเธอถึงจะหยุดและฟังเขาได้

อาดาลีคุกเข่าลงที่พื้นเบื้องหน้าของเอเดริค

“ฉันจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจดหมายฉบับนี้คือจดหมายของท่านแม่จริงๆ”

เขาแสยะยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก

“ก็เปิดอ่านดูสิ ข้ามีจดหมายอีกสามฉบับที่รอคอยการส่งมอบมันให้เจ้า แต่มีข้อแม้นิดหน่อยตรงที่ในยามนี้ข้าต้องการสายลับสักคนที่ไว้ใจได้ เจ้าจะต้องแฝงตัวเข้าไปในตระกูลวิลเฮร์ม..เพื่อไปจับตามองพันตรีเอกอนให้ข้า..”

ลมหายใจของอาดาลีติดขัดเล็กน้อย

“ฉันไม่เคยทำงานสายลับมาก่อน เป็นฉันจะดีอย่างนั้นหรือคะ”

เขาจับเข้าที่ปลายคางของเธอ อาดาลีคือสตรีที่งดงามชนิดที่ว่ายากยิ่งนักที่จะหาใครเทียบเคียง พันตรีเอกอนขึ้นชื่อเรื่องชื่นชอบสตรีงดงาม หมอนั่นเป็นพวกหลงใหลไปกับหมู่มวลบุปผางาม..ไม่ว่าอย่างไรเอกอนจะต้องหลงใหลอาดาลีอย่างแน่นอน

“ข้าจะฝึกเจ้าเอง ไม่เชื่อถือในความสามารถของข้ารึไง?”

เธอไม่ควรก้าวเท้าเข้าไปในวังวนที่แสนอันตรายนี้เลย สองเท้าน้อยๆ ของเธอควรจะรีบวิ่งหนีไปให้ไกลจากคุณชายเอเดริค และพันตรีเอกอนที่ชื่อของเขาอยู่หน้าหนังสือพิมพ์ทุกวัน เขาขึ้นชื่อเรื่องบุรุษเจ้าสำราญที่นอนกับสตรีไม่ซ้ำหน้า แต่ไม่มีใครเลยที่เขาจะพากลับไปที่คฤหาสน์วิลเฮร์ม

เธอไม่ถนัดในเรื่องการยั่วยวนบุรุษเลย หากเป็นการผลักไสพวกเขาออกไปก็ว่าไปอย่าง

มือของอาดาลีกำจดหมายเอาไว้แน่น ลายมือของแม่เขียนชื่อเธอเอาไว้ที่หน้าซองจดหมาย และมันยังไม่ได้ถูกเปิดออกมาอ่านเลย

“เจ้าค่อยให้คำตอบข้าในวันพรุ่งนี้ก็ได้..ไม่สิคืนนี้ข้าจะมาที่นี่ใหม่ เพื่อมาเอา..”

เอเดริคแสยะยิ้ม

“มาเอา..คำตอบจากเจ้า”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel