เมามาย
“พี่ห้า หากไม่เป็นการรบกวนจวนอ๋องของท่าน ข้าขอร่วมดื่มเป็นการต้อนรับองค์ชายใหญ่ของเหอตงหยวนด้วยคน”
“ข้ามีหรือจะปฏิเสธการร่ำสุราร่วมกับองค์รัชทายาท555เชิญน้องสิบสองและองค์ชายใหญ่ ที่จวนเถิด” ชงไฉ่ยกมือคาราวะอาจารย์ สะบัดชายเสื้อออกเดินนำ ยังจวนอ๋องที่อยู่ห่างออกไป
ฮุ่ยโม๋ผายมือเชิญจิวซิน แววตาชื่นชมส่งมาด้วยความจริงใจ
จิ่นเกอองค์ชายใหญ่ผู้ปรารถนารักแท้ และมีศรัทธาในรักแท้แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีทึมทึบจูงมือหญิงสาวใบหน้าสวยหวานอ่อนวัยเดินลัดเลาะมาบนทางเดินตามไหล่เขามุ่งหน้าเข้าสู่ไห่ตงหยวน
“พักก่อนเถิดลู่ชิง” หญิงงามนามลู่ชิงนั่งลงบนขอนไม้ ดวงหน้ามีแววกังวล
“องค์ชายเหตุใดท่านต้องมา ที่ไห่ตงหยวนทั้งๆ ที่ต้องการจะหนี”
“อย่ากังวลไปเลยลู่ชิง ถึงข้าจะละทิ้งหน้าที่องค์ชายและรัชทายาทแต่มิอาจละทิ้งหน้าที่พี่ชายได้” ลู่ชิงมองด้วยสายตาขมขื่น
“ท่านมิผิดหากแต่จิวซิน...องค์หญิงนางอาสาเอง”
“ข้าเพียงไม่อาจให้จิวซินเผชิญทุกข์ยากเพียงลำพัง”
“ท่านไม่อาจแก้ไขอะไรได้แล้วในเมื่อนางตัดสินใจไปแล้ว”
“เพียงเพื่อช่วยเหลือนางอย่างลับๆ แม้จิ่นฉินสหายข้าจะร่วมเดินทางมากับนางแม้ข้าจะรู้ว่าจิ่นฉินต้องไม่ปล่อยให้จิวซินตกอยู่ในอันตรายเป็นแน่ แต่ข้าก็ไม่อาจวางใจเมื่อนางมาอยู่ในดินแดนของศัตรู ผู้ที่หวังจะยึดครองดินแดนของเรา เป็นข้าเองที่ผิด และท่านพ่อเองก็กำลังประชวรจิวซินแม้จะแข็งแกร่งดุจหินผาต่างจากหญิงทั่วไปแต่นางก็ยังเป็นหญิง” ลู่ชิง ไม่มีคำพูดใดๆ แม้จะรู้สึกไม่พอใจเพียงใดก็ตาม
จวนอ๋องห้าเพียงมองจากด้านนอกก็รู้ถึงความยิ่งใหญ่ ภายในกับโอ่อ่าสมฐานะ สาวใช้สองสามคนเดินมารับเสื้อคลุมของเหล่าผู้มาเยือน
“จวนท่านอ๋องแม้ไม่ใหญ่โตหากแต่โอ่อ่าสมฐานะ” จิวซินออกปากองค์ชายห้าโบกมือไล่สาวใช้ก่อนจะยิ้มพราย
“จวนอ๋อง ก็เป็นแค่เพียงจวนอ๋อง หากมีโอกาสองค์รัชทายาทชงไฉ่น้องสิบสองคงได้มีพาท่านเยี่ยมชมตำหนักของเขาที่นั่นแม้ชายาของเขาจะวุ่นวายกับการแย่งกันปรนนิบัติน้องสิบสอง แต่ก็เต็มไปด้วยหญิงงามและนางกำนัลแถวหน้าของวังหลวง ผิดกับจวนของข้าที่ไม่มีชายาแม้แต่คนเดียว”
จิวซินเลิกคิ้วสูงรู้สึกแปลกใจที่บุรุษรูปงามอย่างฮุ่ยโม๋จะยังไม่มีชายา ชงไฉ่เผลอมองใบหน้าของจิวซินเต็มตาเป็นครั้งแรกใบหน้าช่างงดงาม เหมือนหญิงสาวนี่กระมังที่ทำให้เขาไม่ถูกชะตาแม้แต่น้อย
“พี่ห้าก็ยกย่องข้าเกินไปตำหนักข้าหรือจะสู้จวน พี่สี่ฮุ่ยเจินได้ที่มีหญิงงามมากมาย ของข้าแม้จะพรั่งพร้อมแต่กับไม่มีความสงบสบายเหมือนจวนท่าน”
จิวซินรู้สึกเห็นใจชงไฉ่เพราะเคยเห็นมาเยอะแล้วเรื่องการแย่งชิงกันเป็นที่โปรดปรานเหมือนที่บรรดาสนมของท่านพ่อของนางเป็นอยู่
สาวใช้ยกสุรารสเลิศมาวางบนโต๊ะกลางห้องทั้งสามนั่งล้มวง
จิ่นฉิน มองจิวซินตาไม่กะพริบเป็นห่วงแต่ไม่อาจเอ่ยคำใด ฮุ่ยโม๋รินสุราลงบนถ้วยทั้งสามใบ ยกขึ้นเบื้องหน้า
“สุราจอกนี้ข้าดื่มให้ท่านองค์ชายใหญ่จิ่นเกอ หมดจอก น้องสิบสองเจ้าด้วย” ชงไฉ่ยกสุราขึ้นจ่อริมฝีปากก่อนจะกระดกรวดเดียว จิวซินเองไม่อาจปฏิเสธกระดกรวดเดียวเช่นกันสุรารสขมบาดลึกลงไปในลำคอจนต้องทำหน้าเหยเกไอติดๆ กันสองสามที จิ่นฉินถลามาถึงตัวยกถ้วยน้ำเปล่าให้จิวซินรับมาดื่มตามเข้าไป
“555 สุราของไห่ตงหยวนนับว่า เลิศรสและบาดลึก อีกไม่นานท่านก็จะชินไปเอง” ชงไฉ่อดหัวเราะตามอ๋องห้าไม่ได้
“มิได้มีแต่ความรุ่งเรืองแต่ไห่ตงหยวนยังมีสุราที่เป็นหนึ่ง” จิวซินเอ่ยปากชมกลบเกลื่อนอาการของตน
“เช่นนั้นจะช้าอยู่ไย มาร่วมดื่มสุราเหล่านี้ให้สุขสมเถิดสหาย” อ๋องห้ารินสุราเติมให้จิวซินจนล้นถ้วยออกมา จิวซินมองตาปริบๆ แต่ก็ต้องจำใจยกขึ้นมาจรดริมฝีปาก
“นายท่าน” จิ่นฉินทักท้วง จิวซินยกมือห้าม
“ข้าไม่เป็นไร” จิ่นฉินถอยห่างออกมาชงไฉ่มองตามจิ่นฉินที่ดูแลจิวซินราวกับภรรยาดูแลสามี
“นึกว่าองค์ชายใหญ่ผู้ที่เชี่ยวชาญทุกด้านจะเป็นอีกผู้ที่ดื่มเหล้าเก่งหากแต่ไม่เห็นกับตาใครจะเชื่อแม้ด้านวรยุทธหรือเรื่องหญิงงามก็ไม่อาจมีใครเทียบแต่กับพ่ายให้กับสุราอย่างไม่น่าเชื่อ”
จิวซินเผลอยิ้มหวานชงไฉ่และ องค์ชายห้ามองหน้ากันทันควัน ด้วยใบหน้ายามนั้นไม่ต่างจากหญิงสาววัยเยาว์แรกแย้ม จิ่นซินจับตามองอยู่ก่อนแล้วเข้าไปพยุงจิวซิน