ข้าไม่เมา
“นายท่าน ท่านเมามายคงเป็นเพราะไม่คุ้นชินกับสุราของที่นี่เรากลับตำหนักบูรพากันเถิด” หันไปก้มหัวคารวะองค์ชายทั้งสอง
“นายของเจ้า เห็นทีจะแพ้พ่ายต่อสุราของไห่ตงหยวนเสียแล้วเพียงสองจอกกับเมามาย555” องค์ชายห้าเอ่ยปากชงไฉ่ กลับไม่เชื่อว่าจิวซินจะเมาจริง
“ข้ายังมิได้คารวะท่านเลยองค์ชายใหญ่” รินสุราในไหใส่ไปในถ้วยให้จิวซินยืนมือไปรับสุรามาถือไว้ทั้งๆ ที่ซบร่างอยู่กับอกของจิ่นฉิน ตัวอ่อนปวกเปียก
“ข้าไม่เป็นไรจิ่นฉินเจ้าถอยไป” ยกสุราขึ้นดื่มจนหมดขยับตัวถอยห่างจิ่นซินแต่กลับเซถลาไปเบื้องหน้าชงไฉ่คว้าเอวบางไว้ทันควันแต่ร่างอ้อนแอ้นกับยืนไมไหวล้มไปบนตัวของชงไฉ่เต็มแรงทั้งคู่ล้มลงบนพื้นพรมหนา ปากบางประกบปากอุ่นของชงไฉ่อย่างไม่สามารถหนีได้กลิ่นกายหอมละมุนผสมกลิ่นสุรารัญจวนใจชงไฉ่เผลอสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด องค์ชายห้าหัวเราะสียงดังลั่น จิวซินลุกพรวดพลาดขึ้นนั่งตัวตรงด้วยความตกใจ
“ข้าเมามากแล้วเพราะฤทธิ์สุราของไห่ตงหยวน เห็นทีต้องกลับตำหนักบูรพาเสียที” พูดด้วยเสียงค่อนข้างดัง
“จิ่นฉินพยุงข้าที”
จิ่นฉินไม่รอรอช้ารีบเข้าไปพยุง จิวซินแต่ชงไฉ่กับเข้ามาประคองอีกฝั่งไว้
“นายเจ้าท่าจะแย่ ข้าช่วยดีไหม” จิวซินพยายามลืมตาแต่ไม่เป็นผล
“ให้นายเจ้าพักที่จวนของข้าจนกว่าจะสร่างเมาดีไหม” องค์ชายห้าออกความเห็นตามที่คิดได้จิ่นฉิน ลังเล
“เชื่อข้าเถิด ข้ามีชาแก้เมาสักพักข้าจะให้เด็กนำมาให้นายเจ้าดื่ม”
“นายของข้าไม่ชอบนอนค้างที่อื่น”
“เพราะอะไรเมามายเพียงนี้ ไยไม่สร่างเมาถึงค่อยกลับตำหนักบูรพา”
“คงเป็นเพราะมีสาวงามคอยท่าอยู่สาวใช้ที่ติดตามมานั้นความสัมพันธ์ไม่ธรรมดาอีกทั้งนางยังงดงามราวฝนแรกของวสันต์ฤดู มีหรือองค์ชายใหญ่จะอยากทิ้งนางไว้ลำพัง”
คราวนี้เองที่จิวซินสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาได้ยินพอดี
“องค์รัชทายาท ช่างเป็นคนที่ใส่ใจคนรอบข้างนัก แม้สาวใช้ข้างกายข้าท่านยังไม่ละเว้น”
เมามายแค่ไหนจิวซินก็ยังเหน็บแนมทั้งๆ ที่เสียงอ้อแอ้ด้วยความเมาเมื่อพูดเสร็จก็คอพับไปตามเดิม
“555แม้กระทั่งตอนเมา องค์ชายใหญ่ยังมิวายหวงสาวใช้ข้างกายข้าชักอยากเห็นหน้านางเต็มทีว่าจะงดงามดังที่น้องสิบสองกล่าวถึงหรือไม่”
ชงไฉ่ทำหน้าไม่ถูก
“เอาตามนี้ พยุงนายของเจ้าเข้าไปในจวนข้าก่อน เดี๋ยวสร่างเมาค่อยพากลับตำหนักหากไปตอนนี้เกรงว่าหากมีผู้พบเห็นจะไม่เป็นการดีต่อองค์ชายใหญ่” จิ่นฉินจนใจหิ้วปีกจิวซินเข้าไปในจวน ชงไฉ่ใช้มือสอดจากด้านหลังโอบเอวบางของจิวซินไว้ กำลังครุ่นคิดว่าเอวของจิวซินช่างคอดกิ่วไม่สมชายชาตรี
บุรุษทั้งคู่พาจิวซินในอาภรณ์บุรุษยังแท่นนอน ที่ถูกจัดแต่งอย่างสวยงามสะอาดสะอ้านส่งจิวซินยังแท่นนอน
“หากจะต้องให้ผู้อื่นลำบากยามเจ้าเมามายเช่นนี้ ข้าว่าเจ้าไม่ควรดื่ม” ชงไฉ่เอ่ยปากเบาๆ พอได้ยินแค่เขาและจิวซิน ทว่าจิวซินกับไม่รู้สึกตัวหรือได้ยิน ใบหน้าผุดผาดด้วยเลือดฝาดจากฤทธิ์สุรายิ่งน่ามองชงไฉ่นึกอิจฉาใบหน้างดงามนั้นอย่างนี้นี่เององค์หญิงสิบสี่ถึงกับยอมทะเลาะกับเขาเพราะบุรุษรูปงามไร้ที่ติคนนี้นี่เองเผลอมองเสียเพลินไม่ทันสังเกตว่าจิ่นฉินก็ไม่ละสายตาจากเขาเช่นกัน ด้วยสายตาระวังภัย
“ชา สร่างเมามาแล้ว สูตรนี้เป็นสูตรเด็ดของท่านแม่ข้าทีเดียว เพียงไม่นานองค์ชายใหญ่จะสร่างเมา” จิ่นฉินรับชามาถือไว้ ค่อยๆตักชาป้อนใส่ริมฝีปากแดงระเรื่อหากจิวซินกับปัดป้อง
“ไม่น่าเชื่อแม้กระทั่งเมาไม่รู้สึกตัวยังมีพิษสงได้” ชงไฉ่อดไม่ได้ องค์ชายห้านั่งบนหัวนอนก่อนจะประคองจิวซินให้ลุกขึ้นนั่งแขนอีกข้างโอบเอวบางไว้แนบลำตัว เอื้อมมือไปตักชาจากมือจิ่นฉินบรรจงป้อนช้าๆ ชงไฉ่มองท่าทีของพี่ชายด้วยความคิดประหลาด ร่างบางหน้าสวยในอาภรณ์บุรุษ และความอ่อนโยนที่องค์ชายห้าปฏิบัติกับคนเมาในอ้อมแขนเหมือนกับการแสดงต่อคนรักก็ไม่ปาน
อาการหงุดหงิดบังเกิดขึ้นในจิตใจ ดื่มชาไปเพียงสองสามช้อนจิวซินสำลักชาส่งเสียงไอดิ้นรนโน้มตัวไปข้างหน้าองค์ชายห้าตกใจไม่น้อยคว้าหน้าอกของจิวซินเต็มมือความนุ่มละมุนมือสัมผัสแปลกประหลาดชายไร้คู่กับรู้สึกร้อนวูบวาบความรู้สึกบางอย่างแล่นเข้าสู่หัวใจบุรุษไร้คู่ปล่อยมือทันควัน จิ่นฉินจับสังเกตมองเห็นความผิดปกติจากอาการสะดุ้งขององค์ชายห้า องค์ชายห้าใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย แต่ไม่ได้ปริปากเอ่ยคำใดลุกขึ้นยืนปล่อยให้จิวซินลงไปนอนอยู่บนแท่นตามเดิม
“สักพักนายของเจ้าจะสร่าง ระหว่างนี้ข้าให้สาวใช้นำผ้ามาเช็ดหน้าให้เขาข้าขอตัว” หันหน้าหนีด้วยอาการผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด ชงไฉ่สงสัยมองตามอ๋องห้าแต่ก็ยังไม่รู้สาเหตุ อดไม่ได้ที่จะลุกตามไป
“พี่ห้าท่านเป็นอะไรไป”