หงส์ซ่อนน้ำตา

114.0K · จบแล้ว
จันทร์ส่องแสง
102
บท
820
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เมื่อจิวซินนางเอกหน้าหวานของเราต้องยอมนำพาตัวเองมาเป็นราชบุตรเขยของไห่ตงหยวน แทนพีชายที่ไม่อาจหักใจจากคนรัก และแอบหนีหายไปทิ้งภาระทั้งหมดให้กับจิวซิน ไหนจะองค์รัชทายาทที่ไม่ชอบขี้หน้าเธออีก

นิยายจีนโบราณฮ่องเต้ฮองเฮารักหวานๆสัญญาทางรักรักแรกพบแก้แค้นจีนโบราณนิยายกำลังภายในนิยายย้อนยุค

แนะนำตัว

ท่วงท่าสง่างามดุจนางหงส์ร่ายรำบนฟากฟ้า แต่ทว่ากลับเต็มเปี่ยมไปด้วยอานุภาพแกร่งกล้าไปต่างจากพญามังกร จิวซิน (โชคชะตาและความรัก) เงื้อฝ่ามือปะทะฝ่ามือของชงไฉ่ (สีสันของความฉลาด) เต็มแรง อีกฝ่ายหาได้สะทกสะท้านไม่กลับพลิกตัวกอดรัด ไว้ในอ้อมแขนจิวซิน ดิ้นรนพลิกตัวหลบหลีกการต่อสู้ด้วยมือเปล่าที่ผลัดกันรับผลัดกันรุกยุติลง หากแต่จิวซินกลับชักกระบี่คมกริบ ออกจากฝักรวดเร็วปานสายฟ้า ตวัดเพียงหนึ่งก็จ่อที่คอหอยของชงไฉ่อย่างไร้ปราณี ใบหน้าสวยในอาภรณ์ของบุรุษ ไม่อาจเพลี่ยงพล้ำแก่ผู้ใด จิ่นฉิน (พิณอันแน่วแน่) องครักษ์หนุ่มยกมือขึ้นกอดอก เมื่อเห็นจิวซินนายหญิงในอาภรณ์ชาย เหนือกว่าในการต่อสู้กับองค์ชาย 12องค์รัชทายาทของ ไห่ตงหยวน

“ใจคอเจ้ามิไยจะ เสียบคมกระบี่ลงบนลำคอข้าจริงหรือ”

“ท่านก็รู้แม้ข้าจะอยากส่งมันเข้าสู่เนื้อหนังของท่านเพียงใดก็ไม่อาจถึงจะอยากเพียงใดก็เถอะ เนื่องด้วยท่านเป็นถึงผู้สืบทอดราชบัลลังก์” ชงไฉ่ยิ้มอย่างมีชัย

“เจ้ามีใจปฏิพัทธ์ ต่อไห่ตงหยวนเช่นนั้นเลยหรือเจ้าเฉลยน้อย”

เสียงปรบมือดังลั่นมาแต่ไกลพร้อมเสียงหัวเราะลั่น จิวซินดึงกระบี่กลับประสานมือถวายความเคารพฮ่องเต้

“เจ้าสิบสอง เจ้านี่ช่างอ่อนหัดนัก คงต้องหมั่นฝึกปรือฝีมือจะได้ทัดเทียมองค์ชายใหญ่จิ่นเกอจากเหอตงหยวน”

ชงไฉ่ชักระบี่รวดเร็วปานสายฟ้าเมื่อลำคอเป็นอิสระตวัดเกี่ยว ชายผ้าสีดำที่ปิดบังใบหน้าของจิวซินขาดเป็นสองส่วน ปลายกระบี่บางเบาแต่คมดั่งมีดโกนเฉียดแก้มเนียนเผยให้เห็นหยดเลือดสีแดง ดวงตาคมเบิกโพลงเมื่อพบกับใบหน้าสวยหวานราวกับอิสตรี แต่ทว่าสายตาคมเยี่ยงบุรุษ จิ่นฉินกำกระบี่แน่นแต่ไม่กล้ากระทำการใด

กระบี่ในมือของชงไฉ่ชะงักทันที

“เจ้าสิบสองคงจะเสียหน้ามิใช่น้อยที่เพลี่ยงพล้ำ แต่สมควรที่จะให้เกียรติองค์ชายใหญ่บ้างแม้เขาจะต้องมาเป็นน้องเขยเจ้าก็ตาม”

องค์ชายสิบสองลดกระบี่ลงข้างลำตัวใบหน้ามีแววฉงน ประสานมือตรงหน้า

“ลูกชงไฉ่ถวายพระพรเสด็จพ่อ มิมีเสียหน้า แต่ประการใดการต่อสู้ย่อมมีเพลี่ยงพล้ำมิใช่ฝีมือหากแต่เป็นกระบวนท่าที่เลือกใช้ เพราะประเมินองค์ชายใหญ่ต่ำไป เพียงแต่ลูกใช้กระบวนท่าที่ด้อยกว่าเขาไปหน่อยยังมีโอกาสอีกมากในเมื่ออย่างไรเสียเขาต้องมาอาศัยตงไห่หยวนของเราอีกนาน”

เสียงหัวเราะดังก้องด้วยความชอบใจคำพูดของลูกชายที่หมายมั่นให้สืบทอดบัลลังก์

“องค์ชายใหญ่อย่าได้ถือสา การเดินทางราบรื่นดีใช่หรือไม่”

หันมาทางจิวซินที่สารวนอยู่กับการเช็ดรอยเลือดบนแก้มเนียน

“มิมีเรื่องขัดข้องอันใดฝ่าบาท “

“ดี อย่างนั้นเจ้าไปพักเสียเถิดเด็กๆ เชิญองค์ชายใหญ่ยังตำหนัก บูรพาที่จัดเตรียมไว้”

ไม่รอช้าจิวซินออกเดินจากไปทันที หางตามิวายชายไปสบเข้ากับแววเยาะหยันขององค์ชายสิบสอง จิวซินกำมือจิกเข้าไปในอุ้งมือจนรู้สึกเจ็บ

“เห็นไหมเล่า อย่างนี้นี่เองพี่ใหญ่ถึงยอมขัดบัญชาไม่ยอมมาเป็นราชบุตรเขยของไห่ตงหยวน ใช่ไหม จิ่นฉิน”

ประโยคสุดท้ายหันไปพูดกับองครักษ์หนุ่ม จิ่นฉินยังคงเงียบงัน

“ใช่หรือไม่จิ่นฉิน” น้ำเสียงกระเง้ากระงอดจิ่นฉินยิ้ม

“เป็นเช่นนั้นนายท่าน”

ตอบอย่างจะเอาใจเสียมากกว่าจิวซินจับน้ำเสียงได้

“เจ้าไม่เข้าข้างข้า ข้าให้หมิงหลิน ตอบข้าดีกว่า”

หันไปทางสาวใช้ที่เดินอยู่เบื้องหลัง

“ค่ะคุณหนูคุณหนูว่าอย่างไรหมิงหลินก็มิอาจคิดเป็นอื่น”

จิ่งซินยิ้มอย่างมีชัย

“เจ้านี่ช่างดีจริงๆหมิงหลินไม่เหมือนจิ่นฉินที่เมินเฉยต่อข้า” น้ำเสียงตัดพ้อจิ่นฉินยังยิ้ม

“องค์หญิงพบพวกเขาเพียงครู่ก็ตัดสินพวกเขาเสียแล้ว มิโหดร้ายไปหน่อยหรือ”

“ฮึข้าไม่สน อีกอย่างบอกแล้วอย่างไรล่ะว่าห้ามเรียกข้าว่าองค์หญิง”

หมิงหลินหัวเราะคิกคักจิ่นฉินทำหน้าเหลอหลา

“เข้าใจแล้ว...องค์ชาย”

น้ำเสียงค่อนข้างขัดหูด้วยความกระดากปาก จิวชินยิ้มอย่างสมใจ