องค์หญิง14
“เสด็จพ่อ ทรงวางใจ ในว่าที่ราชบุตรเขยถึงเพียงนั้น ทำให้ข้าซึ่งเป็นลูกแท้แท้คลางแคลงใจ ราชบุตรเขยแต่ให้พำนักที่ตำหนักบุรพาที่แม้แต่ข้ายังไม่เคยได้เข้าไปที่นั่นเสด็จพ่อมักจะอ้างว่ามันยังไม่ได้ทำการบูรณะ”
ชงไฉ่ปรับทุกข์กับ ขันทีคนสนิท
“ปกติแล้วราชบุตรเขยจะต้องห้ามไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับราชบัลลังก์”
“แต่เสด็จพ่อมององค์ชายใหญ่ผู้นี้เช่นไรข้าไม่อาจคาดเดา”
“องค์รัชทายาทอย่าทรงเป็นกังวล ข้าน้อยชิงซารับอาสากำจัดเสี้ยนหนามให้เอง”
ชงไฉ่นึกทบทวนสิ่งที่ต้องการในใจว่าต้องการอย่างนั้นจริงๆ หรือไม่อย่างไรเสียเสี้ยนหนามก็มิอาจกลายเป็นฟูกนอน
“ดี ต้องรบกวนเจ้าแล้วไว้มาคอยรายงานความคืบหน้าให้ข้าได้รับรู้”
ขันทีคู่ใจยิ้มด้วยแววตาเจ้าเล่ห์เรื่องแผนการขอให้ไว้ใจเขาเถิดรับรองว่าไม่ว่าใครฉลาดเพียงใดก็คาดไม่ถึง
ภายในตำหนักใหญ่บูรพาที่โอ่โถงนั้น จิวซินเปลื้องผ้าเนื้อตัวซ้ำเขียว หลายจุดด้วยผลจากการต่อสู้ หมิงหลินบรรจงนวดยาอย่างเบามือ
“องค์หญิงทรงซ้ำไปทั้งตัวเจ็บมากไหม เพคะ”
อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถาม
“ไม่ข้าชินแล้ว มันนานมากแล้วตั้งแต่จำความได้ ความเจ็บปวดมันหายไปเสียหมดตั้งแต่ท่านแม่ของข้าตายไป ข้าต้องอยู่อย่างเข้มแข็งใช่ไหม หมิงหลิน”
หมิงหลินแสนจะสงสารนายหญิง
“ยาดี ของไห่ตงหยวน ไม่ช้าไม่นานองค์หญิงก็จะหายเจ็บปวด” จิวซินยิ้มทั้งทีในใจเจ็บซ้ำเหลือเกินแต่เมื่อนึกถึงฐานะของตัวเองขึ้นมาก็หยุดความคิดไว้เพียงเท่านั้น
“พอแล้ว”
ตวัดเสื้อคลุมกายเยี่ยงบุรุษ ด้วยการฝึกปรือให้ท่วงท่าไม่ต่างจากบุรุษ ผมยาวสลวยที่ถูกปล่อยให้ หล่นมาปิดบังใบหน้านั้นกลับส่งให้ใบหน้าดูสวยหวานไม่มีความเป็นชายซึ่งต่างจากอาภรณ์ที่สวมใส่และท่วงท่าเยี่ยงบุรุษนั้น
จิ่นฉิน เดินเข้ามาก้มหน้าลงใกล้ใกล้
“องค์ชาย องค์หญิง14เจียวซือพระคู่หมั้น ขอเข้าเฝ้าพระองค์” หมิงหลิน จัดแจงกับ ผมยาวสลวยไม่ให้ดูขัดตารวบจนตึงแน่นให้ดูราวกับบุรุษ
“เชิญนางเข้ามาได้” องค์หญิงสิบสี่เจียวซือ เยื้องย่างเหมือนกับถูกฝึกมาอย่างดี หากแต่แววตากับมีแววซุกซนขี้เล่น
“ถวายพระพรองค์ชายใหญ่”
แรกก้มหน้านิ่ง แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นสบตาแววตาเหมือนจะยิ้มได้กับไหวระริก ด้วยใบหน้าหวานตามแบบของจิวซิน ทำให้นางประทับใจถึงสิบในสิบส่วนเลยทีเดียว เพียงครู่ก็เปลี่ยนเป็นเอียงอายเมื่อนึกขึ้นได้ว่าสักวันต้องได้ร่วมหอกับองค์ชายใหญ่ผู้หล่อเหลาคนนี้ จิวซินเพียงแต่ยิ้มน้อยๆ วางท่าให้สง่างามกว่าเดิม ทำเอาองค์หญิงสิบสี่ยิ่งเพ้อฝันตามแบบของหญิงสาว
“มีเหตุอันใดเจ้าถึงมาเยือนตำหนักบูรพา ในเมื่อไม่ช้าไม่นานข้ากับเจ้าก็จะ...” คราวนี้เจียวซือยิ่งเขินอายยิ่งกว่าเดิม
“คือ... เสด็จพ่อให้ข้ามาถามองค์ชายใหญ่ ว่ามีสิ่งใดต้องการเปนพิเศษและมีสิ่งใดไม่เรียบร้อย” ก้มหน้าเขินอายแสร้งพูดไปเสียอีกทาง
“คือ... เสด็จพ่อให้ข้ามาถามองค์ชายใหญ่ ว่ามีสิ่งใดต้องการเป็นพิเศษและมีสิ่งใดไม่เรียบร้อย” ก้มหน้าเขินอายแสร้งพูดไปเสียอีกทาง
จิวซินโบกมือไล่ จิ่นฉินและหมิงหลินออกไปข้างนอก ก้าวเดินมาใกล้องค์หญิงสิบสี่ ยกมือบางขึ้นเชยคางมนขึ้นสบตามืออีกข้างไพล่หลังอย่างองอาจ
“เรียบร้อยทุกอย่างหากแต่ตำหนักบูรพาแห่งนี้มิมีหญิงงามเช่นเจ้ามาเคียงคู่” เจียวซือเอียงอายจนมือไม้ไม่รู้จะเก็บไว้ที่ไหน
“องค์ชายใหญ่” จิวซิน รวบร่างเล็กมากอดแนบอก
“ข้ารู้หากแต่ บุรุษเช่นข้าจะอดใจได้อย่างไรหากหญิงงามเยี่ยงเจ้า อยู่เบื้องหน้าอย่างนี้”
“เจ้าก็รู้ตามธรรมเนียมของไห่ตงหยวน หากยังมิได้เสกสมรส ก็ยังมิอาจแตะต้อง ล่วงเกินหรือเหอตงหยวนมิได้เคร่งครัด” องค์ชายสิบสองมาจากไหนจิวซินไม่ทันสังเกต
จิวซินเชิดหน้าทระนง
“มิใช่ เรามิเคร่งครัดหากแต่องค์หญิงสิบสี่นั้น อย่างไรเสียก็คงไม่พ้นเป็นชายาข้า ฉะนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องภายในครอบครัวหรือเรื่องของคู่รัก ท่านแม้จะเป็นพี่ชายหากแต่ตามหลักแล้วก็คือคนนอก” ชงไฉ่มองจิวซินอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ