สุรา
“เจียวซือ กลับตำหนักเจ้าได้แล้ว”
องค์หญิง14 ทำท่าทางฮึดฮัดแบบขัดใจคว้าแขนน้องสาวเดินลิ่ว แต่ยังไม่ทันจะพ้นห้องร่างสูงปะทะเข้ากับร่างบางของหมิงหลินจนเซมือใหญ่คว้าเอวบางของหมิงหลินตาสบตา ใบหน้าหวานใสของหมิงหลินเป็นที่ถูกใจยิ่งนัก ชงไฉ่เผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“หญิงชาย หากมิได้ไหว้ฟ้าดินด้วยกันแล้วก็มิอาจถูกเนื้อต้องตัวเช่นเดียวกัน เหอตงหยวนเราเคร่งครัดยิ่งนัก”
จิวซินได้โอกาส องค์ชายสิบสองปล่อยมือจากเอวบางของหมิงหลิน จิวซินหัวเราะเสียงดังเยี่ยงบุรุษ
“เสด็จพ่อให้ตามเจ้า องค์ชายใหญ่ ไปคารวะอาจารย์แม้เจ้าจะมาอยู่ในฐานะ ราชบุตรเขยแต่เจ้าก็ต้องฝึกปรือวิชาต่างๆ ทั้งบุ๋นทั้งบู้เพื่อช่วยงานราชการของไห่ตงหยวน”
น้ำเสียงสะบัดเล็กน้อยด้วยความที่ถูกตามใจมาตลอด แต่กับมาเสียเหลี่ยมให้กับจิวซินใน ฐานะองค์ชายใหญ่
ชงไฉ่ก้าวยาวๆ จากไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัว จิวซินปิดปากหัวเราะคิกคัก
“ข้าจะตามไปในไม่ช้า” จิวซินตะโกนไล่หลัง
หมิงหลินมองตามร่างสูงอย่างมุ่งมาด จิวซินกระชับเสื้อคลุมให้เข้าที่ ก้าวขาข้าม ประตูออกไปเปลี่ยนท่าทีเป็นองอาจ จิ่นฉินตามไปติดๆ
ลานธนู ที่พลุกพล่านไปด้วย เหล่าบุรุษที่มาทำการฝึกฝนวิชา การต่อสู้หรือที่เรียกว่าวิทยายุทธ์ จิวซินเดินด้วยท่าทีองอาจ
อาวุโสท่านหนึ่งนั่งอยู่อีกฟากของเป้าธนูมองดูเหล่าลูกศิษย์กำลังประลองความแม่น จิวซินขยับตัวเข้าไปใกล้ทรุดตัวลงคุกเข่า ยกมือขึ้นประสานกัน
“ซือฟุ ข้าน้อยองค์ชายใหญ่จิ่นเกอ คารวะท่าน” มือเหี่ยวยกขึ้นลูบคางที่เต็มไปด้วยเครายาวสีขาวใบหน้าพึงพอใจ
“องค์ชายใหญ่ช่างนอบน้อม สมดังเป็นชาวเหอตงหยวน ข้ายังมิได้รับปากว่าจะรับท่านเป็นศิษย์”
จิวซินยิ้มเพียงบางเบา ปล่อยให้รอยยิ้มจางหายไปเหมือนใบหลิวที่หลุดร่วงลงสู่พื้น
“ทำเช่นไรเล่าท่านถึงจะรับข้าเป็นศิษย์ของท่าน” อาวุโสยืนขึ้น ยกมือส่งสัญญาณ เด็กหนุ่มท่าทางเซ่อซ่าวิ่งเข้ามาพร้อมธนูในมือ
“องค์ชายใหญ่ ฝีมือยิงธนูท่านเป็นที่ร่ำลือไปถึงสามแคว้นเพียงท่านเอาชนะ องค์ชายห้าศิษย์ของข้าได้นับว่าข้ามิอาจมีข้อกังขา”
จิ่นฉินสะอึก จิวซินยกมือกันไว้ องคืชายห้าฮู่ยโม๋ก้างเท้ายาวๆเข้ามาตรงหน้าเมื่อถูกเอ่ยนาม
“ดี เช่นนั้นข้าไม่อาจปฏิเสธได้ ขอองค์ชายห้าโปรดชี้แนะ” ยกมือขึ้นประสานกันตรงหน้าองค์ชายห้า ผู้อ่อนหวานใบหน้าเหลาดังภาพวาดยิ้มอ่อนโยน
“มิกล้ามิกล้า ข้าองค์ชายห้าฮุ่ยโม๋ ขอท่านชี้แนะเช่นกัน”
ชงไฉ่มอง จิวซินด้วยแววตาปรามาส ยิ้มเยาะที่ริมฝีปากจะมีผู้ใดในไห่ตงหยวนที่สามารถเอาชนะองค์ชายห้าฮุ่ยโม๋ พี่ชายต่างมารดาของเขาได้
องค์ชายห้าง้างคันธนูจนโค้งงอ หันคันธนูยังเป้าปล่อยลูกธนูออกไปยังเป้าที่ห่างออกไปเกือบยี่สิบวาแม่นเหมือนจับวางธนูปักอยู่กลางเป้ามิมีพลาด อาวุโสพยักหน้าน้อยๆพร้อมกับรอยยิ้ม องค์ชายห้าส่งคันธนูคืนผายมือให้จิวซินบ้าง
“องค์ชายใหญ่เชิญท่านชี้แนะ”
จิวซินง้างคันธนูจนโค้งงอเข้าหาตัวอย่างเชี่ยวชาญด้วยแรงทั้งหมด หันเข้าหา เป้าอีกอันที่อยู่ใกล้กับเป้าธนูที่มีคันศรขององค์ชายห้าปักคาอยู่ก่อนจะเปลี่ยนใจเพียงเสี่ยวนาทีหันกลับมายังเป้าอันเดียวกับขององค์ชายห้าปล่อยลูกดอกพุ่งออกจากคันธนูรวดเร็วปานสายฟ้าเสียบเข้ากับคันธนูด้วยความแรงและเร็วจน คันธนูแยกออกเป็นสองส่วนอย่างชัดเจน คันธนูของจิวซินปักคาซ้อนทับคันธนูขององค์ชายห้าอยู่อย่างนั้น ชงไฉ่อดทึ่งในฝีมือของผู้ที่เขาปรามาสไว้ไม่ได้จิ่นฉินยิ้มบาง อาวุโสลูบเคราไปมา
“องค์ชายใหญ่ท่าน ฝีมือล้ำลึกเพียงนี้ เหอตงหยวนคงไม่แคล้วยิ่งใหญ่
เป็นแน่แท้ อย่างนี้ข้ามิอาจปฏิเสธที่จะรับท่านเป็นศิษย์” จิวซินยกมือขึ้นประสานกันตรงหน้าก้มหัวเล็กน้อย
“ซือฟุเพียงท่านรับข้าเป็นศิษย์ก็ถือว่าเป็นพระคุณ”
“ข้า ฮุ่ยโม๋ชื่นชมท่านนัก มิไยที่ต้องได้ดื่มคารวะท่านสักจอก หวังว่าท่านจะไม่ปฏิเสธข้า” จิวซินยิ้ม ยกมือขึ้นประสานตรงหน้า
“มิอาจปฏิเสธ ในเมื่อข้าจิ่นเกอ หวังเพียงมิตรแท้ต่างแดน”