ตอนที่ 2 อย่าเกร็ง อ้าขาออก หมอจะตรวจ 2
หมอตุลย์สะบัดไล่ความคิดวาบหวามออกจากหัว พยายามจดจ่อกับ..กับ.. ตรงหน้า โอ้ย..!!! เขาจะทำงานได้ไหมเนี่ย
"นิ้วเรียวยาวภายใต้ถุงมือยางเริ่มสัมผัสโดนเนื้อหนังมังสาของคนไข้ตามส่วนนั้น ในส่วนที่ มันคืองานของเขา ใช่ งาน เมื่อคิดได้ดังนั้น หมอตุลย์เลยเริ่มตั้งสติอีกรอบกับงานของเขา
ร่างบางสะดุ้งเฮือกเมื่อโดนน้ำเย็นๆ แอลกอฮอร์หรืออะไร ช่างมันเหอะ ร่างบางคร้านจะหาคำตอบ คล้ายราดไปตรงของนั้นของเธอ หมอตุลย์เช็ดออกด้วยสำลีชุ่มแอลกอฮอร์ ความเย็นของสำลีเปียกนั้น ทำร่างบางสะดุ้งเบาๆ
"เจ็บหรือ" เสียงหมอตุลย์ถามแผ่วเบา เมื่อเห็นรอยแดงชัดเจนดูก็รู้ว่าเมื่อคืน เธอคงจะผ่านอะไรมาอย่างหนักหน่วง
"มะ..ไม่ค่ะ ตกใจเฉยๆ"
เมื่อหมอหยิบครีมปากเป็ด จดจ่อ ขลุกขลักอยู่ตรงนั้นของเธอ เธอเกร็งขืน จนหมอต้องเอ่ยปาก
"อย่าเกร็ง... อ้าขาออกหน่อย..หมอจะตรวจ" หวังว่าคนไข้จะไม่ทันสังเกต หมอเปลี่ยนสรรพนามตนเองเป็น หมอ เพื่อให้คนไข้ผ่อนคลาย รวมถึงพยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ
"ค่ะ" คนไข้พยายามผ่อนคลาย ถ้าเสียงของหมอแหบพร่า และกระเส่ากว่านี้ คนไข้ก็คงจะจำได้แล้วนะ
กว่าการตรวจจะผ่านพ้นไป ทั้งคนไข้ และหมอต่างมีอาการแทบจะไม่ต่างกัน ห้องที่เย็นเฉียบแต่กลับมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นที่ไรผมบางๆ
"ผมนัดอาทิตย์หน้า มาฟังผล แล้วเดี๋ยวคุณไปรอที่ห้องรับยา" คนไข้พยักหน้ารับ ยาอะไรหว่า ต้องกินยาด้วยหรือ พลันเสียงหมอตุลย์ก็ทำลายความคิดลง
"อาการทางร่างกายไม่น่าเป็นห่วง เดี๋ยวก็จะหายเอง แต่คุณเจ็บมากไหม" เสียงหมอมีแววอาทรห่วงใย
คนไข้หน้าสวยฉงน "ไม่ค่ะ" เธอยังสงวนท่าที
เมื่อลอบมองพยาบาลของเขาไม่อยู่ในห้องตรวจด้วย เนื่องจากคงกำลังเก็บอุปกรณ์เมื่อสักครู่อยู่ หมอตุลย์ใช้นิ้วเกี่ยวแมสก์ออกจากใบหูทั้งสองข้าง
"คุณ" เสียงที่ลอดออกมาจากปากบางแผ่วเบา คนไข้มีอาการหน้าซีด คล้ายคนจะเป็นลม
"เดี๋ยวไปรอรับยา แล้วรอผมที่ห้องรับยา อย่าหนี" หมอสูติฯ เริ่มเป็นหมอดู เพราะหมอเดาว่าคนไข้ต้องหนีแน่
ฮึ!!!. เธอตาค้างไปชั่วขณะ เขาต้องเคลียร์กับเธอให้ได้ เพียงใจ กล้าหนีเขาทั้งที่เขาเสี่ยงตัวเองไปช่วยเธอไว้แท้ๆ แถมยังมาตรวจโรค เธอเห็นเขาเป็นเชื้อโรคหรือไงกัน
ห้องรับยา...
"คุณเพียงใจ เชิญรับยาที่ช่อง2 ค่ะ" เสียงหวานประกาศให้เพียงใจไปรับยา เธอยังคงสงสัย ว่าไอ้หมอนั่นให้ยาอะไรเธอ ไม่เห็นบอกอะไรเลย ยาป้องกันโรคติดต่อหรือ ขาเรียวในชุดเดรสทรงพอดีตัวสั้นเหนือเข่าเพียงเล็กน้อย ที่มีเสื้อคลุมแขนยาวผ้าฝ้ายสีน้ำตาลสวมทับ เดินไปที่ช่อง 2 เพื่อรับยา ข้อสงสัยเรื่องยาเมื่อสักครู่ ได้รับการตอบคำถามของตัวเอง
ยาคุมฉุกเฉินชนิด 2 เม็ด พร้อมพยาบาลเสียงหวานอธิบายยืดยาว หน้าเธอชา ไปถึงใบหู เกินกว่าที่หูของเธอจะสามารถรับรู้ได้เลยว่าเสียงหวานๆ เจื้อยแจ้ว สาธยายวิธีกินอย่างไรบ้าง ‘ไอ้หมอบ้า’ คงเป็นเพราะที่เธอไปตอบเขามั้งว่าไม่ได้คุมกำเนิดก็ตอนนั้นเธอไม่รู้นี่ว่าหมอนั่น จะคือคนที่เธอไปกระชากเขามาจูบ แถมขอให้เขา ‘อยู่กับฉันนะคะ’ เขาเลยสนองให้เธอ ด้วยการ อยู่ด้วยทั้งคืน จะว่าไปจะโทษเขาก็ไม่ได้นัก ในเมื่อเธอเป็นคนไปยั่วเขาก่อน เพราะไอ้นที ไอ้บ้านั่นทีเดียว เธอพอจะปะติดปะต่อ เรื่องได้อยู่บ้างแล้ว เพราะตอนที่เธอถูกจับขึ้นไปบนรถตู้นั้น อดีตแฟนหนุ่มของเธอแทบไม่ได้แสดงอาการกลัวหรือตกใจเลย แต่กลับมีเพียงแววตาสำนึกผิด นายนั่นต้องรู้เห็นเป็นใจแน่ แต่จะด้วยเรื่องอะไรเธอจะต้องถามหาความจริงให้ได้ แต่ว่าตั้งแต่เมื่อเช้าจนถึงตอนนี้ที่เธอเพียรพยายามโทรศัพท์ติดต่อหานที ก็จะเจอแต่เสียงผู้หญิง ‘ไม่สามารถติดต่อเลขหมายปลายทางได้ในขณะนี้’
แต่ตอนนี้เธอคงต้องเก็บความอับอายไว้ก่อนผู้ชายคนนั้น เดินตรงมายังเธอ แต่เขาไม่ได้สวมเสื้อกาวน์แล้ว หน้าตาภายนอกแมสก์ยามต้องแสงสว่าง บ่งบอกชัดว่าเขาหล่อมาก เห็นเมื่อคืนมืดๆ ก็ว่าหล่อแล้วนะ แต่ตอนนี้บาดตาชะมัด ไหนจะมัดกล้ามแน่นนั่นอีก กล้ามท้องเป็นลอนสวย ที่เธอเผลอยกมือขึ้นลูบคลำ บางครั้งยังกดปลายเล็บจิกลงบนมัดกล้ามแน่นนั่นเพื่อบรรเทาความเสียวซ่านนั่นอีก ...
เมื่อเหตุการณ์เมื่อคืนหวนมาในความคิด หน้าเธอก็แดงระเรื่อขึ้นมา คนมาใหม่มาถึงก็ยกมือขึ้นอังศีรษะคนไข้
"มีไข้รึเปล่า" เห็นหน้าเพียงใจแดงๆ ด้วยความเป็นหมอเลยรีบตรวจอาการ
คนไข้หน้าแดง รีบเสตัวหลีกมือของหมอตุลย์
"เปล่าค่ะ" พูดเสร็จเธอก็เอาถุงยายัดใส่มือเขาคืน
"ฉันกินแล้ว"
"อ้าว เมื่อกี้บอกไม่ได้คุมกำเนิด" หมอหรี่ตามองผ่านแว่นใส พลางดึงมือคนตัวเล็กให้ตามเขาไป เพราะเหมือนจะเริ่มมีกลุ่มพยาบาลส่งสายตาสงสัยมองมาที่ตัวเขาแล้ว เพราะภาพลักษณ์ที่โรงพยาบาลของเขานั้นเรียกได้ว่าบ้างาน แถมยังไม่เคยควงสาวมาที่ทำงานเลยสักครั้ง แต่นอกเวลางาน เขาก็มีจับสาวๆ ตรวจภายในอยู่เป็นเนืองๆ