4
ร่างสูงเพรียวก้าวเดินไปรอบๆ เรือนหลังเก่าซึ่งเป็นที่อยู่อาศัย
ของเขา พลางคิดถึงเรื่องหญิงสาวจอมวายร้ายที่ต้องการรูปวาดคณิกาชายจากหอลู่ไป๋เซ่อ
“แผ่นดินนี้มีหญิงแพศยาจิตวิปริตถึงเพียงนั้น” เขารำพึงรำพันในใจ ก่อนหัวเราะออกมา
หากอีกฝ่ายต้องการภาพวาดดังกล่าว ย่อมหมายความว่าชายงามล่มเมืองอย่างเขาคงเป็นที่หมายตาของนาง
ฉีหยางซิ่วทิ้งเรื่องหญิงผู้นั้นไว้เบื้องหลัง เขาก้าวไปข้างหน้าพร้อมใคร่ครวญถึงความหลังที่ผ่านมา
นับแต่ก้าวเข้ามาในตระกูลฉี เขารู้สึกอดสูยิ่ง หมู่ตึกเทพเซียนอักษร
นั้น ฉีเจียนหลิวได้ครอบครองไว้ ก่อนส่งตัวเขาให้มาอยู่ที่นี่จนกลายเป็นคุณชายไม่เอาไหน ไร้ซึ่งบุญวาสนา หลายครั้งยังถูกคนของอีกฝ่ายหยามเกียรติ
สุดท้ายฉีหยางซิ่วทนไม่ไหวจึงก้าวออกไปสู่โลกภายนอก ปลอมแปลงตนเองเป็นคนไร้ชื่อ และเริ่มทำการค้าด้วยการใช้ศิลปะประจำตระกูลหากิน ด้วยการวาดภาพเริงรมย์ปลุกกำหนัดผู้คน
ในอึดใจต่อมา ฉีหยางซิ่วต้องแปลกใจที่มีบ่าวรับใช้หญิงก้าวเข้ามายังเรือนเล้าหมู
“เจ้าเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร”
เขาถามอย่างสงสัย แม้เรือนซอมซ่อจะอยู่ด้านหลังสุดของตระกูลฉี แต่ก็ไม่เปิดให้คนภายนอกเข้าออกอย่างย่ามใจ
“เงินและอำนาจอย่างไรล่ะเจ้าคะ บ่าวถึงมายืนอยู่ตรงหน้าท่าน...คุณชายเรือนเล้าหมู”
หญิงรับใช้วัยกลางคนรู้สึกรังเกียจชายผู้นี้มิน้อย การกระทำของเขาเป็นที่น่าขายหน้า กระนั้น คำสั่งจากผู้เป็นนายก็มิกล้าขัด
“สภาพเยี่ยงเจ้าร่ำรวยได้ถึงปานนั้น”
ฉีหยางซิ่วมองประเมินอีกฝ่าย ปกติตระกูลฉีมีคนรับใช้ดูแลเกือบทุกจุด เว้นแต่เรือนของเขาซึ่งถูกปล่อยปละละเลย ส่วนพวกสมุนของฉีเจียนหลิวไม่ค่อยย่างกรายมาที่นี่ เว้นแต่นายของมันสั่งการ เหตุนี้จึงทำให้หญิงรับใช้ชั้นต่ำเข้ามาพูดจาโอหังกับเขาถึงที่นี่
“อย่าเพิ่งบันดาลโทสะสิคุณชาย นายของบ่าวเพียงแต่เห็นว่า ด้วย
เกียรติของท่าน อย่างไรเสียก็ไม่ควรมาทนอยู่ในเรือนหลังนี้ จึงต้องการเจรจาการค้าด้วย”
“ฮึ นายเจ้าเป็นใครกัน ถึงได้นึกเห็นใจผู้อื่น”
“นายของบ่าวเป็นคนที่คุณชายสมควรเจรจาด้วยที่สุดในใต้หล้านี้”
ฉีหยางซิ่วเลิกคิ้วหนาขึ้นข้างหนึ่ง มองสาวใช้อย่างดูแคลน นางรู้สึกเสียหน้าอยู่มากแต่ยังยืนหยัดทำหน้าที่ตนต่อ
“คุณหนูเพ่ยเพ่ยให้บ่าวมาเชิญท่านไปที่ ห้างซือเชี่ยน มีงานสำคัญให้ทำ” นางเอ่ยถึงห้างการค้าอันดับต้นๆ ของเมืองจิ่นสือ
“จำเป็นด้วยหรือที่ข้าต้องออกจากเรือนอันโอ่โถง เพื่อไปรับใช้คุณหนูของเจ้า”
หญิงรับใช้เบ้ปากอย่างขัดเคืองใจ ด้วยรู้ถึงความยิ่งทะนงในตัวของคุณชาย
“หากท่านยังอยากมีหัวอยู่บนบ่า จงรีบตามข้าไปพบคุณหนูเพ่ยเพ่ย” หญิงรับใช้หมดความอดทนจึงกล่าววาจาโง่เง่าข่มขู่
“ฮ่าๆ ๆ ท่าทางคุณหนูของเจ้า คงนิยมชมชอบชายงาม แต่กลัวถูกครหาจึงอยากให้ข้าวาดรูปหนุ่มๆ ไว้ให้เชยชมในห้องนอน ใช่หรือไม่”
ฉีหยางซิ่วประเมินว่าคนที่อยากได้รูปชายงามจากหอคณิกาชายคงเป็นหญิงอ้วนดำอัปลักษณ์ กลิ่นตัวเหม็นเปรี้ยว หาผู้ชายมาสู่ขอมิได้
“ต่ำช้า! ท่านกล่าววาจาเช่นนี้ สักวันจะต้องมิตายดี” นางรับใช้ตวาดใส่
คราวนี้ฉีหยางซิ่วเดือดดาล เขาจ้องอีกฝ่ายเขม็ง เตรียมไล่ไปให้พ้นๆ
หน้า ทว่ามีเสียงหวานไพเราะขัดขึ้นเสียก่อน
“โปรดระงับโทสะด้วยคุณชาย บ่าวรับใช้ของข้าปัญญาทึบ เมื่อกลับไป ข้าจะโบยมันสักร้อยทีเพื่อให้หลาบจำ”
เจ้าของน้ำเสียงคือสาวงามนางหนึ่ง นางมีเครื่องหน้าจิ้มลิ้ม เรือนร่างอวบอิ่ม แต่เอวคอดเล็ก และกลิ่นตัวก็หอมเหมือนมีมวลบุปผาโอบคลุมร่าง หาใช่สตรีอัปลักษณ์อย่างที่เขาคาดคิด
“ที่ต้องรบกวนท่าน เป็นเพราะ...อยากทำการค้าด้วย หากท่านเห็นดี ข้าจะเป็นผู้ออกทุนพร้อมจัดหาสาวงาม และชายหนุ่มมาเป็นแบบ รวมถึงลูกค้า ส่วนกำไร เรามาแบ่งกันอย่างยุติธรรม”
“ข้อเสนอของคุณหนูน่าสนใจ แต่ข้าเกรงว่าจะรับไว้มิได้”
ฉีหยางซิ่วประเมินอีกฝ่าย นางคงมีอายุมากกว่าเขาราวๆ 5 ปีเห็นจะได้ กระนั้นก็ดูโตเป็นผู้ใหญ่มาก และยังเป็นลูกสาวของตระกูลซือ หากขัดใจคงจะนำภัยใหญ่หลวงมาสู่ตน
“แล้วเหตุใด คุณหนูถึงสนใจภาพวาดพวกนี้ มิกลัวมันทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงหรอกหรือ”
“ทำการค้าย่อมต้องกล้าเสี่ยง ยิ่งเสี่ยงมากเท่าไร ผลลัพธ์ยิ่งหอมหวาน”
นางว่าแล้วก็ก้าวเข้ามาใกล้เขา มองอีกฝ่ายด้วยสายตาหยาดเยิ้ม ก่อนกล่าวว่า
“ในเมื่อคุณชายคือทายาทตัวจริงของตระกูลฉี แล้วจะไม่ให้ข้าสนใจอยากทำการค้า ได้อย่างไร”
คำกล่าวทิ้งท้ายของนางทำให้ทั้งฉีหยางซิ่ว และคนที่กำลังนอนฝันอยู่อีกภพหนึ่งตั้งคำถามในใจ
หลังจากเหตุการณ์ในยามบ่ายวันนั้นที่บ้านโบราณใกล้ทะเลบัวแดง วีรินทร์ได้พบเรื่องประหลาดตามมาไม่หยุดหย่อน ซึ่งทั้งหมดหล่อนสรุปความได้ว่าเป็นเพราะรูปวาดเปลือยของสาวงามบนผืนผ้าไหม!!
“แก้มอุ่นเห็นจริงๆ นะเฮียปอง ยัยอ้วนในรูปนั่น มันเคลื่อนไหวได้ บางวันส่งเสียงหัวเราะ บางวันร้องห่มร้องไห้ มะ มันต้องเป็นผีที่ออกมาจากภาพวาดผืนนั้นแน่นอน”
คนไม่เชื่อเรื่องวิญญาณร้ายกำลังกลืนน้ำลายตัวเอง และเล่าถึงเรื่องเขย่าขวัญเป็นฉากๆ ให้พี่ชายฟัง
วิรินทร์ทำธุรกิจซื้อขายบ้านและที่ดินเก่ามาหลายปี ประสบกับเรื่องลึกลับมามาก แต่หนนี้ไม่ธรรมดา หญิงสาวในภาพวาดออกมาตามเขย่าขวัญหล่อนไม่หยุด ทั้งที่ตอนแรกนึกว่าเป็นวิญญาณเฮี้ยนที่ล่องลอยอยู่ในบ้าน แต่ตอนนี้หล่อนมั่นใจแล้วว่า นางโผล่ออกมาจากรูปวาดบนผืนผ้าไหม ซึ่งอยู่ในหีบไม้โบราณที่ถูกซ่อนไว้ที่ผนังบ้าน!
“ยัยอ้วนที่กำลังอาละวาดเนี่ย แกหมายถึงสาวจีนโบราณในรูปวาด หรือว่าเป็นตัวแกกันแน่ หา...”
ปองคุณผู้เป็นพี่ชายแขวะสาวอวบไปหนึ่งหน เขาเห็นรูปวาดหญิงงามนั้นเพียงครั้งเดียว ตอนแรกนึกว่าน้องสาวอุตริให้ใครวาดรูปเจ้าหล่อนเปลือยกาย เลียนแบบโรสในหนังเรื่องไทนานิค
“อร๊าย คนในรูปสิยะ อย่างแก้มอุ่นนี่อวบพองาม แต่ยายช้างน้ำในรูปนั่น ตูดก็งอน นมก็ใหญ่ แถมท่าทางคลั่งจัด อย่างกับสามีไม่ยอมชวนขึ้นเตียง บอกตามตรง สภาพนาง ผู้ชายที่ไหนเห็นแล้วจะมีอารมณ์”
สาวอวบจำได้ดี ผู้หญิงปากแดงเถือก ซึ่งมีทรงผมสุดประหลาดล้ำคิดจะเลี้ยงต้อยเด็กหนุ่มผิวขาวละเอียดผู้งดงาม และยังเจรจาการค้ากับเขาอีกด้วย ท่าทางอย่างนั้นมองเผินๆ เหมือนตนยามหว่านเสน่ห์ใส่ผู้ชายมิผิดเพี้ยน
“ใครจะมีอารมณ์อย่างนั้นหรือ ถามได้ก็คนที่วาดสิเว้ย ดูสิ สายตาผู้หญิงหยาดเยิ้มขนาดนั้น และท่าทางนางก็ชวนสยิว โดยเฉพาะหน้าอกหน้าใจ โดดเด้งสะดุดตา!”
พี่ชายหล่อนว่าแล้วก็มองเข้าไปรูปภาพ แต่แรก เขาอยากนำออกไปแร่ขายในตลาดมืดแต่วีรินทร์ไม่ยอม และยืนยันว่าจะเก็บเอาไว้จวบจนเกิดเรื่อง
“และถ้ามันเป็นรูปชวนหลอนขนาดนี้ แกจะเก็บเอาไว้ทำไม”
สาวอวบถอนลมหายใจแรงๆ ออกมาหนึ่งเฮือก ก่อนจะมองไปยังภาพวาด แล้วอ้อมแอ้มตอบว่า…
“ก็นอกจากยายอวบในรูป ยังมีของดีโผล่มาให้แก้มอุ่นฝันหวานถึงเจ้าบ่าวในอนาคตด้วย”
ปกติหญิงสาวไม่นิยมชมชอบหนุ่มน้อย แต่เขาคนนั้นช่างมีเสน่ห์ดึงดูดเหลือเกิน
วีรินทร์คิดไปถึงใบหน้างดงามของบุรุษผมยาว ผิวขาวจัด ริมฝีปาก
สีแดงสด เรือนกายเขาน่าสัมผัส น้ำเสียงก็ทุ้มเข้ม และมีรอยยิ้มแสนเกียจคร้าน ซึ่งกระชากหัวใจหล่อนได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเห็น
ปองคุณมองหน้าน้องสาวด้วยความฉงน ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะลั่น
“ฮ่าๆ ๆ แกนี่มันอยู่กับของโบราณเกินไปแล้วใช่ไหม และยังคิดเป็นตุเป็นตะไปเรื่อย เชื่อเฮียนะนังหนู ทั้งชาตินี้ และชาติก่อน...ไม่มีผู้ชายที่ไหนเขาจะชอบผู้หญิงปลิ้นปล้อน กะล่อน และอ้วนตัวเป็นตุ่มอย่างแกแน่”
วีรินทร์โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง หล่อนเชื่อว่าตนเองไม่ได้บ้า หลายวันที่ผ่านมา หล่อน...พบเด็กหนุ่มคนนั้น กับภาพวาดสุดล่อแหลมของเขา แม้จะเป็นในฝันแต่ก็เหมือนจริงเหลือเกิน
“อีเฮียปองไม่รู้อะไร อย่าทำมาเป็นพูดดี แก้มอุ่นเสน่ห์แรงจะตาย และมีดีพอที่จะทำให้ผู้ชายตายคาอก!”
ปองคุณหัวเราะออกมาพรืดใหญ่ เขาดูแลน้องสาวคนนี้มาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย รู้จักหล่อนดีกว่าใคร จึงอดไม่ได้ที่จะฉุดคนที่กำลังหลงตัวเองให้ยอมรับความจริง
“เฮียว่าแล้ว ทำไมแกถึงหายหน้าหายตาไปหลายวันตั้งแต่เก็บรูปลามกนั่นมา...”
“หมายความว่าไง” สาวอวบถามเสียงเข้ม สีหน้าสีตาเอาเรื่องน่าดู
“หึๆ ก็เพราะวันๆ เอาแต่ฝันเปียก จนไม่มีแรงโผล่หน้ามาให้ใครเห็นน่ะสิ”
เมื่อสิ้นคำพูดนั้น วีรินทร์ก็กรี๊ดลั่น ก่อนส่งกำปั้นอวบๆ ซัดใส่แผ่นหลังพี่ชายจนเขาร้องโอดโอย