ตอนที่4.เพื่อนรัก
[สถานีขนส่งจังหวัดเชียงราย]
ร่างสูงใหญ่ภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาว กับกางเกงยีนส์สีซีด ยืนมองซ้ายทีขวาที เมื่อไม่รู้จะไปทางไหนต่อหลายปีแล้วที่เขาไม่ได้กลับมาที่นี่ ทุกอย่างดูแปลกตาไปหมด สิ่งปลูกสร้างที่เคยเป็นตึกแถว ตอนนี้กลายเป็นอาคารพาณิชย์หลายคูหา บ้านเรือนสวยงามทันสมัยทุกอย่างเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ถนนหนทางอัดแน่นไปด้วยรถยนต์ ข้างทางมีร้านค้าเรียงรายเต็มสองฝากข้าง ตาคมเข้มมองหาอะไรบางอย่าง แล้วก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นเป้าหมาย ห้องแถวของอาแปะที่เคยเป็นร้านขายของชำเล็กๆ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นร้านขนาดใหญ่ เชียงรายเปลี่ยนไปมากจริงๆ เขาจำได้ว่าเมื่อ17ปีก่อน ยังไม่เจริญขนาดนี้ ใครจะรู้ว่าวันหนึ่งจังหวัดที่อยู่สุดแผนที่ทางภาคเหนือ จะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศ
"เฮ้ย!เพชร สิงห์ มึงว่าไอ้หน้าขาวนั่นหน้าคุ้นๆไหมวะ"
'ภูชิต'เรียกเพื่อนให้ดูใครบางคน ที่กำลังเดินมาทางพวกเขา 'เพชร' กับ 'สิงห์' ที่กำลังยกกระสอบปุ๋ยขึ้นรถมองหน้ากัน สองหนุ่มยกมือขึ้นปาดเหงื่อ เมื่อได้ยินเสียงเพื่อนรัก วันนี้พวกเขามาซื้อปุ๋ยที่ร้านในตัวจังหวัด แต่พนักงานในร้านดันพร้อมใจกันหยุดงานวันนี้พอดี เถ้าแก่จึงให้เขาขนกันเอง โดยลดราคาค่าปุ๋ยให้กระสอบล่ะ 2 บาท เมื่อคำนวณดูแล้วเห็นว่าคุ้มกับค่าเหนื่อย พวกเขาจึงตกลงขนกันเอง แทนการจ้างแรงงานต่างด้าว ที่คิดค่า
ยกกระสอบล่ะ 3 บาท เท่ากับว่าเขาต้องจ่ายเพิ่มจากส่วนลดให้คนงานอีก 1 บาท แต่ดูเถอะตั้งแต่กระสอบแรกจนถึงกระสอบสุดท้าย ภูชิตไม่ช่วยยกสักกระสอบ เอาแต่นั่งแซวสาวๆที่เดินผ่านไปมา เพชรกับสิงห์ขนออกมาจากโกดัง และต้องมายกขึ้นท้ายรถอีก จะเอาเปรียบเกินไปแล้ว
"เร็วๆสิวะ"คนเอาเปรียบยังเรียกเพื่อนไม่หยุด เมื่อคนแปลกหน้ากำลังจะเดินผ่านไป เพชรกับสิงห์จำต้องหันไปมองตามที่เพื่อนบอก เพื่อตัดปัญหา ไม่งั้นก็กวนใจไม่เลิก
"เรียกให้ดูผู้ชายเนี่ยนะ"สิงห์พูดขึ้น ตาคู่คมมองผู้ชายคนนั้นผ่านๆ ก่อนจะหันมาสนใจกับงานตรงหน้าต่อ หน้าฝนแบบนี้ถ้าฝนตกระหว่างทาง ปุ๋ยคงละลายไปกับน้ำ เพราะคนงานที่ไร่ลืมเอาผ้าใบคลุมท้ายใส่รถมาให้เขา ผิดกับเพชรที่จ้องจนตาแทบถลน เมื่อรู้สึกคุ้นหน้าคนที่เดินผ่านไป หน้าแบบนี้เขาเคยเห็นมาก่อน ใบหน้าหล่อเหลาหันไปมองหน้าภูชิต ก่อนที่ทั้งสองจะตะโกนออกมาด้วยความดีใจ
"ไอ้น่าน!(ไอ้น่าน!)"สองหนุ่มพยักหน้าให้กัน เมื่อแน่ใจว่าคนๆนั้น คือน่านนที
"ไอ้น่านแน่ๆ"เพชรยืนยัน
"ไอ้น่าน!!!"เมื่อแน่ใจว่าคนๆนั้นคือเพื่อน ภูชิตก็ไม่รอช้า ตะโกนออกมาสุดเสียง เพราะกลัวเขาคนนั้นจะเดินเลยไปไกล
เสียงเรียกที่ดังมาจากด้านหลัง ทำให้เท้าที่กำลังก้าวเดินหยุดชะงัก ร่างสูงหันหลังกลับ ตาคู่คมกวาดมองไปทั่ว ก่อนจะไปหยุดที่ผู้ชายสามคน ที่ยืนเรียงกัน ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
"น่าน! น่านใช่ไหม! นี่พวกกูเอง เพชร สิงห์ ภู จำได้ไหม"เพชรเอ่ยออกมาด้วยความดีใจ น่านนทีไปจากเชียงรายตั้งแต่เรียนจบม.6 อดตื่นเต้นไม่ได้ที่เพื่อนรักกลับมา
"เพชร!"ชื่อของเพื่อนรักวัยเด็กหลุดออกมาจากปาก ตาคู่คมไล่มองหน้าทุกคน เวลาผ่านมานานก็จริง แต่มิตรภาพไม่เคยลบเลื่อนออกไปจากใจ เพื่อนๆรูปร่างหน้าตาเปลี่ยนไป แต่เขาก็จำได้ ร่างสูงเดินมาหาเพื่อนทั้งสาม ไม่มีคำทักทายใดๆ เมื่อทั้งสี่ต่างก็สวมกอดกันด้วยความคิดถึง
"ไปไงมาไงวะ ดีใจที่มึงกลับมา"สิงห์พูดขึ้น มือแกร่งตบลงไปบนบ่าเพื่อนหนักๆ ด้วยความคิดถึง
น้ำตาลูกผู้ชายไหลลงมาอีกครั้ง เมื่อได้รับความอบอุ่นจากอกเพื่อน น่านนทีผู้ชายที่เข้มแข็ง กลับปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาง่ายๆ ทุกคนที่อยู่ตรงนี้คือเพื่อนของเขา เพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่เรียน ป.1 ไม่จำเป็นต้องปิดบัง เมื่อความอบอุ่นอาบจนเต็มหัวใจ สำนึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำเอาไว้ แค่คนๆหนึ่งไม่รัก เขาตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเอง จนลืมไปว่ายังมีใครอีกหลายคนที่รักเขา จะเป็นเรื่องบังเอิญหรืออะไรก็ตามแต่ ทันทีที่เขาเหยียบแผ่นดินบ้านเกิด ก็ได้เจอกับเพื่อนรักทั้งสามคน ในความโชคร้าย ในความผิดหวัง ก็ยังมีสิ่งดีๆอยู่ในนั้น เมื่อเพื่อนๆทุกคนต้อนรับและดีใจที่เขากลับมา
"หายไปนานเลยมึง ไม่ตอบจดหมายมาสักฉบับ"เพชรตัดพ้อ
"กูโทรไปที่หอพักของมึง เขาว่ามึงย้ายออกไปแล้ว ก็เลยติดต่อมึงไม่ได้ น่าจะโทรกลับมาหาพวกกูบ้าง"สิงห์เอ่ยสมทบ เมื่อน้อยใจเพื่อน
"ไหนดูหน้าสิ หนุ่มนักเรียนนอกจะหล่อสู้ชาวไร่ อย่างกูได้ไหม"ภูชิตกระเซ้า เพราะรู้มาว่าน่านนทีได้ทุนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ
น่านนทีไม่ตอบคำถาม เพราะไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อน ดีใจและตื้นตันจนบอกไม่ถูก
"อ้าวร้องไห้เฉยเลย ตกลงเจอพวกกูมึงดีใจหรือเสียใจวะเนี่ย"สิงห์ถามเมื่อเห็นเพื่อนเอาแต่ร้องไห้
"เพชร สิงห์ ภู ช่วยกูด้วยนะ"
"ใครทำอะไรมึง! มึงบอกกูสิ กูจะไปเอาเลือดหัวมันออก!"สิงห์โพล่งขึ้นด้วยความเดือดดาล เมื่อเห็นน้ำตาของเพื่อน เลือดนักสู้ที่อยู่ในตัว บวกกับความใจร้อน ก็ทำให้ฮึกเหิมอยากเอาเลือดหัวคนที่ทำเพื่อนรักออกสักปี๊บ
"เงียบไปเลยไอ้สิงห์ ไอ้นักเลงกระจอก"ภูชิตขัดคอเมื่อเพื่อนรักพูดไม่เข้าหู ตอนนี้พวกเขาไม่ใช่เด็กๆแล้ว ที่จะวิ่งไปตีรันฟันแทงกับใคร โตแล้วต้องแก้ปัญหาแบบคนโต
"กูว่าไปหาที่นั่งดีกว่า จะได้คุยกันยาว ไปน่านไปคุยกันที่ร้านกาแฟดีกว่า"เพชรบอก พร้อมกับโอบบ่าน่านนทีเดินนำหน้าไป โดยมีสิงห์เดินตามไปอีกคน ภูชิตหันรีหันขวาง เพราะไม่รู้ว่างานตรงนี้เสร็จหรือยัง
"พวกมึงขนปุ๋ยเสร็จแล้วเหรอ!"ตะโกนตามหลังเมื่อเพื่อนเดินห่างออกไป
"กูกับไอ้เพชรยกส่วนของกูแล้ว เหลือแต่ของมึงนั่นแหละ ยกเอาเอง เสร็จแล้วขยับรถให้พวกกูด้วยนะ เอาไปจอดไว้ที่หลังโกดังเถ้าแก่ก่อน เดี๋ยวค่อยมาเอาตอนกลับ"สิงห์หันมาตอบ เมื่อเห็นภูชิตทำหน้าเลิ่กลั่กก็อยากขำ งานนะเขากับเพชรทำเสร็จหมดแล้ว เหลือแต่จ่ายเงินและขยับรถออกจากหน้าร้าน เมื่อภูชิตไม่ยกก็ต้องให้เป็นคนจ่ายเงิน เพราะอยากกินแรงเขา ค่าปุ๋ยทั้งหมดให้ภูชิตจ่าย ส่วนเงินที่เถ้าแก่คืนให้เป็นค่ายกปุ๋ย เขาก็ยกให้ภูชิตไป เห็นไหมว่าพวกเขาไม่ได้เอาเปรียบเพื่อนเลยสักนิด เขากับเพชรลงแรง ส่วนใครที่ไม่ลงแรงก็ต้องลงทุน
"ไอ้สิงห์! ไอ้เพชร! เอาตังค์ค่าปุ๋ยมาเดี๋ยวนี้!"ภูชิตตะโกนตามหลัง เมื่อรู้ว่าถูกเพื่อนรุมกินโต๊ะ ปุ๋ยสามคันรถราคาหลักหมื่น เขาจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายให้พวกมัน
