สายธารน่านนที

67.0K · จบแล้ว
มณีภัทรสร สไบนาง นามปากกา
45
บท
932
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ตากลมโตเบิกกว้าง เมื่อเห็นชื่อสถานที่ที่เขาพารถเข้ามาจอด 'ที่ว่าการอำเภอ' อย่างนั้นหรือ เขาพาเธอมาที่นี่ทำไม "ลงมาสิ"เอ่ยเรียกเมื่อหญิงสาวยังเอาแต่นั่งอยู่กับที่ "มาทำไมคะ" "มาฝากท้องมั้ง"น่านนทีตอบกลับอย่างกวนๆ "คุณน่าน!"สายธารสวนกลับ เมื่อเขาจงใจกวนประสาทเธอ "ลงมาเถอะน่า ชักช้าเสียเวลา" "บอกก่อนสิคะว่ามาทำไม" "ผัวเมียมาอำเภอถ้าไม่มาจดก็ต้องมาหย่า แค่นี้คิดไม่ได้หรือไง" "จดทะเบียน...สมรสเหรอคะ"คำว่าสมรสหลุดออกมาจากปากเบาหวิว เมื่อตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน "อืม...จะลงมาได้หรือยัง" "ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ ฉันไม่ได้..."คำพูดต่อมาถูกกลืนลงคอ เมื่อน่านนทีขัดขึ้น "เรื่องนั้นฉันจะคิดเอง ตอนนี้เธอลงมาดีๆดีกว่า หรือว่าจะต้องให้ฉันอุ้ม" "คนไม่ได้รักกัน ไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ค่ะ" "ฉันทำเพราะเห็นว่าสมควรทำ" "ถ้าคุณทำเพราะต้องการแสดงความรับผิดชอบ ก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันเข้าใจว่าเรื่องของเราเกิดขึ้นมาจากอะไร อย่าให้ฉันต้องเป็นภาระคุณไปมากกว่านี้เลยนะคะ" "เธอนี่ดื้อกว่าที่ฉันคิดไว้นะ" "ฉันไม่ได้ดื้อค่ะ แค่แสดงความคิด" "สายธาร...อย่าให้ฉันหมดความอดทนกับเธอ" "ฉันแค่อยากให้คุณคิดก็แค่นั้นเอง" "ฉันคิดดีแล้ว ลงมา ถ้าเธอยังช้าฉันจะแบกเธอเข้าไป" "คุณน่าน!" เมื่อไม่อาจค้านเขาได้ เธอก็ยอมลงจากรถดีๆ น่านนทีคงคิดมาแล้วถึงได้ทำแบบนี้ สำหรับเธอยังคาดไม่ถึงกับเรื่องที่เกิดขึ้น จนกระทั่งจรดปลายปากกาเซ็นชื่อของตัวเองลงไปในกระดาษ ที่เจ้าหน้าที่นำมาให้ หัวกระดาษระบุไว้ว่า มันคือใบทะเบียนสมรส เธอถึงได้มั่นใจว่านี่คือเรื่องจริง ตอนนี้เธอจดทะเบียนสมรสกับเขา และเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของเขาแล้ว

นิยายรักโรแมนติกรักหวานๆแต่งงานก่อนรักพ่อเลี้ยง18+คนในใจ

ตอนที่1.เราเลิกกันเถอะ

@ร้านอาหารริมทะเลจังหวัดเพชรบุรี

"เราเลิกกันเถอะ"คำพูดที่ออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มของคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม ส่งผลให้ใบหน้าที่กำลังเปื้อนยิ้มซีดลงอย่างเห็นได้ชัด ช้อนที่กำลังตักอาหารเข้าปากสั่นขึ้น แต่เจ้าของมือใหญ่ยังควบคุมมันเอาไว้ได้

พริมามองภาพตรงหน้าด้วยหัวใจที่ปวดร้าว ดวงตากลมโตหลบตา ที่กำลังมองมาที่เธอด้วยสายตาตัดพ้อ เธอเห็นเขากลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะวางช้อนในมือ เธอไม่อยากทำลายบรรยากาศที่กำลังมีความสุขกับเขา แต่เธอมีเวลาไม่มาก เพราะหลังจากนี้เธอก็จะไปให้ไกลที่สุด คำสั่งที่ได้รับมาอย่างเร่งด่วนจากคนเป็นพ่อ พริมาเองก็สุดจะทน เพราะเท่ากับว่าเธอต้องทำร้ายหัวใจตัวเองด้วย

ตาคู่คมมองหน้าหญิงคนรัก สมองที่ด้านชาจากอาการช็อคเริ่มประมวลผล หัวแกร่งกระตุก เมื่อผลที่ได้ก็คือคำบอกเลิกจากหญิงคนรัก

"เกิดอะไรขึ้นครับ"น่านนทีพยายามควบคุมน้ำเสียง เมื่อถามคำถามนี้ออกไป เขากับพริมาคบกันมาตั้งแต่เรียนมหาลัยปี1 และมีแผนจะแต่งงานกัน อยู่ๆเธอมาบอกเลิก เป็นใครก็ตั้งรับไม่ทัน

"พรีมกำลังจะแต่งงานค่ะ เหตุผลแค่นี้คงพอ"พริมาตอบแฟนหนุ่ม ที่กำลังจะกลายเป็นอดีตคนรักในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า แค่เธอลุกขึ้นแล้วเดินจากไป น่านนทีก็จะกลายเป็นอื่น

"ง่ายๆอย่างนี่เลยเหรอครับ พรีมมีเหตุผลอื่นที่บอกผมไม่ได้ใช่ไหม"น่านนทียังคิดเข้าข้างตัวเอง เพราะเหตุผลที่เธอเอามาใช้บอกเลิกมันฟังไม่ขึ้น ตลอดเวลาที่คบกันมา เขารู้ว่าเธอไม่เคยมีคนอื่น เรื่องแต่งงานน่าจะเป็นข้ออ้าง พริมาน่าจะมีปัญหาที่บอกกับเขาไม่ได้มากกว่า

"เรื่องระหว่างเรา ขอให้มันจบแค่นี้นะคะ พรีมขอโทษที่หลอกคุณมาตลอด พรีมมีคู่หมั้นอยู่แล้ว ขอโทษนะคะน่าน"พูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน เธอต้องไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยสักนิด ที่จะต้องบอกเลิกกับคนที่ตัวเองรักมากที่สุด เธอก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง มีหัวใจและเจ็บเป็น

"เพราะคุณพ่อใช่ไหมครับ ท่านสั่งให้พรีมเลิกกับผมใช่ไหม"น่านนทีตัดสินใจถาม เรื่องนี้ผู้ใหญ่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง เขารู้ดีว่าทางครอบครัวของเธอไม่ชอบเขา เพราะฐานะที่ต่างกัน

"เปล่าค่ะ เรื่องนี้พรีมตัดสินใจเอง ลาก่อนนะคะ"พริมาตัดสินใจหันหลัง สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อประคองสติตัวเอง เธอรักเขามากที่สุด แต่เธอก็ทำร้ายเขาไม่ได้ ถ้าขืนเธอยังคบกับเขาต่อไป อนาคตของเขาก็ต้องพังลง เพราะพ่อของเธอคงไม่ปล่อยเขาไว้ น่านนทีกำลังมีอนาคตที่ดี แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ครอบครัวของเธอต้องการ คนที่กำลังสร้างอนาคต เทียบไม่ได้กับคนที่มีความพร้อมอยู่ในมือ คนที่สามารถต่อยอดและทำให้ธุรกิจของครอบครัวเธอให้มั่นคงและก้าวหน้า ความรักมันกินไม่ได้ ความเหมาะสมต่างหากที่จะทำให้คนในครอบครัวมีความสุข

ตาคู่คมมองตามร่างบางที่เดินห่างออกไป ไม่มีคำคัดค้านใดๆ เมื่อเขาก็รู้ว่า สาเหตุที่ต้องเลิกกันมันคืออะไร เขาเองก็ไม่อยากดึงฟ้าให้ลงต่ำ หงส์อย่างเธอก็เหมาะแล้วที่จะอยู่ในฝูงหงส์ กาอย่างเขาก็คงได้แต่ทำใจ

"ผมรักคุณนะครับ"นี่คือคำพูดสุดท้าย ที่ออกมาจากใจของเขา เขารักพริมามากและมันจะเป็นแบบนี้ตลอดไป

ร่างสูงเดินหอบหัวใจที่บอบช้ำ ออกมาจากร้านอาหาร สิ้นสุดกันแล้วสินะความรักที่มีต่อกัน เขารู้ว่าพริมาเองก็เจ็บไม่ต่างจากเขา เลิกกันตอนนี้ก็ดีแล้ว ถ้าขืนยังยื้อกันต่อไป ก็จะมีแต่เจ็บปวด เพราะความรักของเขากับเธอมันไม่มีทางออก ความรักก็แบบนี้เมื่อสมหวังก็ต้องมีผิดหวัง

ลมทะเลพัดมากระทบผิวหน้า ตาคู่คมมองไปยังผืนน้ำที่กว้างจนสุดลูกตา สองขาก้าวเดิน เมื่อรู้สึกเหมือนมีใครสักคนรอเขาอยู่ในนั้น ท้องทะเลยามค่ำคืนสวยงามและมีมนต์เสน่ห์ ร่างสูงหลับตาลงเมื่อทิ้งตัวลงใต้ผิวน้ำ ก็แค่นี้แค่หลับตา แล้วทุกอย่างมันจะผ่านไป อกหักเรื่องเล็ก คงเป็นคำพูดของคนที่ต้องการให้กำลังใจกันและกัน คำว่าอกหักสำหรับน่านนทีแล้ว มันหนักจนเขาไม่อยากจะนึกถึงวันพรุ่งนี้ ชีวิตที่ไม่มีพริมา มันก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่ตายทั้งเป็น เพราะเธอเป็นทุกอย่างของเขา

"คุณธาร! จะไปไหนคะ"นารีร้องถาม เมื่อเห็นนายสาวเดินไปที่ชายหาด

"ไปเดินเล่นค่ะ"สายธารตะโกนตอบ เมื่อพี่เลี้ยงร้องถาม นานๆเธอจะได้มาทะเลสักครั้ง นี่แค่สองทุ่มจะให้เข้านอนก็คงนอนไม่หลับ

"ขออนุญาตคุณปู่หรือยังคะ"นารีถาม พร้อมกับวิ่งตามมาด้วยความห่วงใย

"เบาๆสิคะพี่นิ่ม เดี๋ยวคุณปู่ก็ทราบพอดีว่าธารหนีออกมา"หญิงสาวหันมาดุพี่เลี้ยง

"ไม่ได้ขอคุณปู่จริงๆด้วย"นารีทำท่าทางรู้ทัน

"ไปเดินเล่นแค่นี้เอง อย่าโวยวายสิคะ"

"แต่..."นารีทำท่าทางลังเล ในขณะที่สายธารเดินห่างออกไป

"คุณธารรอพี่ด้วยค่ะ!"

"ตามมาค่ะ!"สายธารตะโกนตอบ ก่อนจะวิ่งหนี เมื่อเห็นนารีวิ่งตามมา ก็แค่นี้ทำมาเป็นห้าม ที่แท้ก็อยากมาด้วย

สองสาวจูงมือกันเดินเล่นไปตามชายหาด อากาศยามค่ำคืนเงียบสงบและเย็นสบาย ถึงแม้จะมาจากต่างถิ่น แต่สายธารกลับไม่รู้สึกกลัว ผิดกับนารีที่กลัวจนเดินเหลียวหน้าเหลียวหลัง แต่เพราะความห่วงใยที่มีต่อนายสาว ถึงแม้จะกลัวจนใจร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม แต่ก็ต้องทำใจแข็งเดินตามมา

"อะไรอยู่ในน้ำคะพี่นิ่ม!"สายธารถาม เมื่อเห็นเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลอยอยู่เหนือน้ำ แล้วจมหายเมื่อถูกคลื่นซัด ตากลมโตเพ่งมองเพื่อให้แน่ใจ

"ไหนคะ ไม่เห็นมีเลย พี่ว่าเรากลับกันเถอะคะ เดินมาไกลแล้วนะคะ"

"แต่ธารเห็นค่ะ นั่นไงคะ! น่าจะเป็นคน"สายธารยืนยัน พร้อมกับชี้มือให้นารีดู เมื่อแน่ใจว่าสิ่งที่ลอยอยู่ในน้ำคือคน แต่จะมีชีวิตหรือไม่ เธอก็ไม่แน่ใจ

"คนที่ไหนจะมาเล่นน้ำตอนนี้ พี่ว่าเรากลับเถอะค่ะ"นารียังยืนยันคำเดิม รู้สึกกลัวเมื่อเห็นบางอย่างลอยในน้ำ ผิดกับสายธารที่รีบวิ่งลงไป เมื่อแน่ใจว่าสิ่งนั้นคือคน ร่างบางว่ายไปยังจุดที่ร่างนั้นลอยอยู่ ก่อนจะลากเข้าฝั่ง โดยมีนารีลงไปช่วยอีกแรง

"เอาไงดีคะพี่นิ่ม"สายธารถาม เมื่อลากร่างนั้นขึ้นมาบนหาดทราย ตากลมโตมองไปยังคนที่นอนนิ่ง ก่อนจะก้มลงไปฟังเสียงหัวใจของเขา

"ผู้ชายค่ะคุณธาร! ตายไหมคะ!"นารีร้องขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรน ความกลัวเริ่มเกาะกุมหัวใจ

"ยังค่ะ ตามตัวไม่มีแผล น่าจะแค่จมน้ำ"สายธารเงยหน้าขึ้นมาบอก พร้อมกับทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ตามขั้นตอนที่เคยเรียนมา ปากบางตัดสินใจประกบลงไปบนปากหนา เพื่อแบ่งปันออกซิเจนให้เขา นารียกมือปิดปาก ตกตะลึงกับการกระทำของนายสาว ก่อนจะช่วยบีบนวดแขนขาเขาอีกแรง อยากให้เขารู้สึกตัวเร็วๆ เพราะอยากไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด

"แค่กๆ"ไม่นานคนที่นอนนิ่งก็รู้สึกตัว ร่างสูงขยับไปมา ได้ยินเสียงเรียกให้ตื่น เสียงคนคุยกัน แต่ตาก็หนักจนลืมขึ้นไม่ไหว

"ไปเถอะค่ะคุณธาร"นารียังเร่ง เพราะไม่อยากให้นายสาวอยู่ตรงนี้นานๆ มันมืดและน่ากลัวเกินไป ยิ่งมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ นารียิ่งใจเสียในหัวคิดไปต่างๆนานา

"แล้วเขาล่ะคะ"สายธารยังลังเล รู้สึกห่วงใยคนที่นอนนิ่งอยู่บนพื้น

"ทิ้งไว้ตรงนี้แหละค่ะ เขารู้สึกตัวแล้ว เรากลับกันนะคะ ถ้าคุณปู่ตื่นมาแล้วหาคุณธารไม่เจอ ครั้งหน้าเราไม่ได้ออกจากบ้านแน่ๆ นะคะคุณธารเชื่อพี่นะคะ"นารีพยายามเกลี้ยกล่อม เมื่อเห็นเขาคนนั้นรู้สึกตัวแล้ว

สายธารมองคนที่นอนอยู่บนหาดทราย รู้สึกตัวแล้วก็น่าจะปลอดภัย มองใบหน้าที่ซีดเซียว เกิดอะไรขึ้น ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้ลอยอยู่ในน้ำ ตากลมโตมองหน้าเขาอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นตามแรงดึงของพี่เลี้ยงสาว เขาเป็นผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่ง ทำไมนะถึงได้มาจมน้ำ หญิงสาวเก็บความสงสัยไว้ในใจ รอให้ถึงบ้านพักค่อยโทรแจ้งมูลนิธิ 'สาธุขอให้พระคุ้มครองให้เขาปลอดภัยด้วยเทอญ' หญิงสาวภาวนาในใจ เมื่ออยู่ๆก็รู้สึกห่วงใยเขาขึ้นมา