ตอนที่2.ห่วงใย
ขวดน้ำเกลือสีใสที่ห้อยอยู่บนเสา คือสิ่งแรกที่น่านนทีมองเห็น หลังจากพยายามบังคับเปลือกตาที่หนักอึ่งให้เปิดขึ้น ดวงตาคมเข้มมองรอบๆห้องอย่างเลื่อนลอย กลิ่นยาและแอลกอฮอล์ลอยมาเตะจมูก แขนใหญ่ข้างที่อยู่ฝั่งเดียวกับเสาน้ำเกลือ ถูกยกขึ้นดู เข็มที่ปักอยู่บนหลังมือ ก็เป็นอีกอย่างที่ช่วยยืนยันว่า เขาอยู่ที่โรงพยาบาลจริงๆ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน เขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
เมื่อคืนหลังจากแยกกับคนรัก ชายหนุ่มก็เดินทอดอารมณ์ไปจนถึงชายหาด พยายามขบคิดถึงสาเหตุที่ทำให้พริมาบอกเลิกกับเขา ถ้าไม่ใช่คำสั่งของคนในครอบครัวอย่างที่คิด เธอแอบคบซ้อนจริงหรือ จะเป็นไปได้อย่างไร เพราะตลอดเวลาที่คบกัน เขามั่นใจว่าเธอมีเขาแค่คนเดียว ชั่ววูบของความคิด ชายหนุ่มก็เข้าใจถึงคำว่าอารมณ์ชั่ววูบ คำว่าฆ่าตัวตายไม่เคยอยู่ในหัว แต่เมื่อชีวิตเดินทางมาถึงจุดดิ่ง ความตายก็เป็นอีกทางเลือก ที่จะทำให้หลุดพ้นจากความเจ็บปวด ภาพสุดท้ายที่น่านนทีจำได้ก็คือ ท้องทะเลเงียบสงบที่แสนสวยงาม
"เป็นยังไงบ้างคะ"เสียงที่ดังมาจากข้างเตียง ดึงสายตาของคนที่กำลังเหม่อลอย ให้มาหยุดที่ใบหน้ารูปไข่เนียนใส ดวงตาคมเข้มมองสบกับดวงตาหงส์ ภายใต้กรอบแว่นตาบางใส ที่มีความห่วงใยอัดแน่นอยู่ในนั้น ชายหนุ่มพยายามฝืนยิ้ม เพื่อให้เธอสบายใจ
"เกิดอะไรขึ้นคะ"คำถามแรกยังไม่มีคำตอบ คำถามที่สองก็ส่งตามมาติดๆ
"ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับ"น่านนทีเลือกที่จะถามกลับ แทนการตอบคำถาม
"คุณยังไม่ตอบหมอเลยนะคะ"คุณหมอสาวทวงคำตอบ
"ผม..."น่านนทีหาเสียงตัวเองไม่เจอ เมื่อไม่รู้ว่าจะตอบคำถามเธออย่างไร
"โอเคค่ะ ไม่ต้องตอบก็ได้ มูลนิธิส่งตัวคุณมาที่นี่ค่ะ"เมื่อรู้ว่าสร้างความลำบากใจให้กับเขา นิรมลก็เลือกที่จะพูดในสิ่งที่ควรพูด เพราะตอนนี้เธอกำลังปฏิบัติหน้าที่ และเขาก็คือคนไข้ คงไม่เหมาะถ้าจะคุยเรื่องอื่นที่นอกเหนือจากอาการป่วย ต่อหน้าพยาบาลและนักศึกษาฝึกงาน ที่ตามมาจดรายละเอียดการรักษา หญิงสาวเลือกที่จะเก็บความห่วงใยเอาไว้ในใจ
"หมอครับ...ผม"
"ไม่เป็นไรค่ะ หมอเข้าใจ ตอนนี้ทุกอย่างปกติค่ะ แต่หมออยากให้คุณนอนโรงพยาบาลสักคืน เพื่อดูอาการอย่างอื่น ถือว่ามาเปลี่ยนบรรยากาศนะคะ ที่โรงพยาบาลอาหารอร่อยค่ะ"คำพูดทีเล่นทีจริงที่คุณหมอสาวส่งมา เรียกรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลาได้อีกนิด
"ขอบคุณนะครับ"น่านนทีขอบคุณ เมื่อหมอตรวจอาการของเขาเสร็จเรียบร้อย
"ช่วงบ่ายนิจะแวะมาดูอาการอีกครั้งนะคะ"ก่อนย้ายไปตรวจคนไข้ห้องอื่น นิรมลก็ทิ้งท้ายด้วยคำพูดที่เป็นกันเอง เพราะสนิทกับคนป่วยระดับหนึ่ง น่านนทีพยักหน้ารับ ล้มตัวลงนอน ตาคู่คมมองตามแผ่นหลังบางไปจนลับตา ชายหนุ่มรู้ว่านิรมลรู้สึกยังไงกับเขา แต่เขาก็ให้เธอได้แค่ความเป็นเพื่อนเท่านั้น
..............................................................................................
"คุณธารรอพี่ด้วยค่ะ!"เสียงที่ตะโกนมาจากด้านหลัง ทำให้เท้าที่กำลังวิ่งไปตามชายหาดชะลอลง ร่างบางยังคงวิ่งไปเรื่อยๆ เมื่อนึกถึงหน้าใครคนนั้นขึ้นมา อยู่ๆก็รู้สึกกังวล ทั้งๆที่รู้ว่ารถมูลนิธิพาเขาไป โรงพยาบาล ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
"จะมาทำไมคะ"นารีถามเมื่อวิ่งมาทันนายสาว
"ไม่รู้สิคะ แค่อยากมาดู"สายธารตอบพี่เลี้ยงไปตามความรู้สึก
"พี่นิ่มว่าเขาเป็นยังไงบ้างคะ"
"ไม่ทราบสิคะ ขอให้ปลอดภัยก็แล้วกัน พี่ว่าคุณธารเลิกกังวลเถอะค่ะ เขาเป็นใครก็ไม่รู้"นารีเตือนนายสาว เมื่อเห็นสิ่งที่หญิงสาวกำลังเป็น เมื่อคืนสายธารก็นอนไม่หลับเพราะห่วงเขา ตอนเช้าก็ออกมาดูแล้ว ตอนสายยังจะมาอีกหรือ
"ธารก็ไม่ทราบเหมือนกัน ว่าทำไมต้องห่วงเขา คงเป็นเพราะว่าเราช่วยเขาไว้มั้งคะ ขอให้พระคุ้มครองให้เขาปลอดภัยด้วยเทอญ"มือบางพนมขึ้น พร้อมกับตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้พระคุ้มครองเขา ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่เธอก็ห่วงใย ตากลมโตมองไปยังท้องทะเลที่กว้างไกล วันนี้เธอต้องเดินทางกลับลำปาง โอกาสที่จะได้เจอกันคงไม่มีอีกแล้ว เพราะเธอไม่รู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน แล้วทำไมถึงได้คิดสั้นฆ่าตัวตาย
