4
จ้าวหว่านอี้ใช้ความคิดอย่างเร่งด่วน เพื่อประมวลผลว่านางย้อนเวลามาอยู่ในช่วงใดของนิยายเรื่องเดิมที่เคยเขียน แน่ละ ยามนี้คู่วาสนาด้ายแดงบันดาลรัก กลายเป็นนิยายที่นางไม่รู้จักเสียแล้ว ราวกับมีมือดีปั้นแต่งขึ้นมาใหม่ แล้วพอย้อนนึกถึงคำพูดมือมีดที่ทำร้าย นางก็เสียวสันหลังวาบๆ
“จำใส่สมองไว้ซะ องค์ชายสาม จะตายไม่ได้ แก... จะเขียนเรื่องบัดซบยังไงก็เชิญ แต่มู่ชิงเฉินอี้ ต้องเป็นอมตะ ไม่ถูกผู้หญิงสาระเลวสวมเขา แล้วเขาต้องเป็นตัวร้าย ที่คนทั้งโลกจดจำตลอดไป ส่วนแก ไปลงนรกเสียเถอะ จากนั้น ฉันจะเขียนนิยายเรื่องนี้แทนเอง ฮิๆ ๆ”
เพียงแค่ย้อนคิดถึง ร่างกายก็เหมือนจะอ่อนเปลี้ยไร้แรง
ขณะเดียวกันนางก็พยายามทบทวนหลายสิ่งอย่างเร็วรีบ และจำได้ว่าก่อนที่จ้าวจิ่งตง ผู้เป็นบิดา จะต้องโทษสถานหนักเพราะลบหลู่เบื้องสูง ครอบครัวสกุลจ้าวใช้เงินมากมาย เพื่อส่งจ้าวหว่านอี้ไปเป็นอนุภรรยาของมู่ชิงเฉินเฮ่อ อีกนัยก็คืออยากพึงบารมีสกุลเดิมของเขา เนื่องจากฝ่ายจ้าวจิ่งตง เป็นเพื่อนรักแม่ทัพหยาง พี่ชายพระสนมม่าย (ม่ายจูเหมย) มารดาของมู่ชิงเฉินเฮ่อ ดังนั้นสกุลจ้าวจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกสาวคนเดียวปลอดภัยจนกว่าพี่ชายหญิงสาวที่เป็นราชครูจะกลับมาจากต่างแคว้น
แต่นางกลับมีใจให้ชุยหลิวเป่าอยู่แล้ว จึงคิดให้คนผู้นั้นพาหลบหนี ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวก่อนบิดาจะตามตัวพบ นางก็ตกเป็นของชุยหลิวเป่า ซ้ำร้ายยังท้องอ่อนๆ โดยไม่รู้ตัว และนั่นคือข้อมูลเดิมในนิยายที่เขียนไว้ อีกอย่างในเมื่อตัวละครจ้าวหว่านอี้ มีบทไม่มากนัก ทั้งยังไม่ได้ส่งผลร้ายแรงต่อ เรื่องนางจึงไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดของอีกฝ่ายสักเท่าไหร่ เพราะบทบาทตัวละครนี้ เพียงแต่ท้องกับผู้อื่น และมีลูกแฝดให้มู่ชิงเฉินเฮ่อเลี้ยง
ภายหลังพอเขาทราบความจริง ก็ฆ่างล้างตระกูลจ้าว รวมถึงบิดาของสองแฝด ส่วนเด็กน้อยนั้น... แม้จะรักมาก มู่ชิงเฉินเฮ่อ ก็หาได้ละเว้น ทว่าสวรรค์ยังมอบโอกาสให้พวกเขาได้เติบโต ด้วยมีสตรีผู้หนึ่งยื่นมือเข้าช่วยเหลือ
เมื่อจ้าวหว่านอี้รู้สึกเหมือนจะเป็นไข้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน พอมองไปยังสาวใช้ ก็ถามว่า
“ข้าหลบหนีสำเร็จหรือไม่ และผู้ใดเป็นคนช่วยข้า ให้กลับมาที่นี่”
ซินเยว่ถอนหายใจออกมาแรงๆ นางรู้ว่า คุณหนูไม่ปกตินัก ด้วยไม่ใช่แค่สลบไปนาน หากช่วงที่พลัดตกน้ำ นางหยุดหายใจไปเกือบช่วงหนึ่งก้านธูปดับ เช่นนี้สมองนางย่อมมีปัญหา พอฟื้นคืนมาไม่กลายเป็นสตรีปัญญาทึบสวรรค์ก็นับว่าเมตตา
“คุณชายหลิวเป่า จู่ๆ ก็ไม่ได้มาตามนัดเจ้าคะ ถึงจะเป็นอย่างนั้น ก็มีเรื่องโชคร้ายอยู่เจ้าค่ะ คุณหนูถูกโจรป่าฉุดตัวไป แล้วส่งขายตลาดมืด มีพ่อค้าทาสมาซื้อ แล้วออกนอกเมือง หายเกือบสามวัน กระทั่งได้องค์ชายสามช่วยเหลือ
แต่... คุณหนูถูกยาสั่งจากพวกพ่อค้าทาส เลยแผลงฤทธิ์หนัก จนเจ็บตัว สุดท้ายวิ่งหนีผลัดตกน้ำ”
จ้าวหว่านอี้ได้ยินอย่างนั้น ก็ยกมือปิดหน้า โอ้... นางเข้ามาในนิยายรักที่ตนเองเป็นผู้เขียนหรือไม่ เหตุใดหลายสิ่งถึงได้พลิกผลันไปเช่นนี้ หนีไปหาคนรักแต่อีกฝ่ายกลับไม่มาพบ จากนั้นก็ถูกโจรฉุด และยังถูกส่งไปยังตลาดค้าทาส
เพียงแค่คิดนางก็หวั่นใจหนัก แล้วยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องรู้ให้ได้อีก
ตัวละครนี้มีใจให้กับชุยหลิวเป่า นั่นอาจหมายความว่า มีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาก็เป็นได้
“ข้าพบกับคุณชายหลิวเป่าบ่อยครั้งหรือไม่”
“นัดแนะกันเสมอเจ้าค่ะ บางทีก็อารามร้าง เรือนรับรองทางฝั่งตะวันออกของสกุลชุย ที่ลับหูลับตาผู้อื่น”
หญิงสาวได้ยินแล้ว ใบหน้าร้อนฉ่า และรีบแกะเสื้อตัวนอกของตนเองออก นางต้องพิสูจน์บางอย่าง หาไม่แล้ว หากช้าเกินไป คงเตรียมแผนรับมือสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ยาก
“อุ๊ย คุณหนูจะทำอะไรเจ้าคะ ถอดเสื้อออกทำไม”
ซินเยว่พยายามจะห้าม แต่หญิงสาวนั้นไม่สนใจ นางถอดเสื้อตัวนอกออกได้ก็มองที่แขนของตน ใช่... แต้มชาด*... มะ มันยังอยู่หรือไม่”
จ้าวหว่านอี้ตื่นตระหนก หัวใจแทบหยุดเต้น พลางพลิกใต้ท้องแขนตนดูทั้งสองข้างเพื่อหาไฝพรหมจรรย์ และพลิกไปมาอย่างไร ก็ไม่หลงเหลือรอยแดงอันใดให้ประจักษ์ต่อสายตานาง