บทย่อ
เมื่อเธอทะลุมิติเข้าสู่โลกนิยายที่ตนเองเขียน เรื่องคู่วาสนาด้ายแดงบันดาลรัก และกลายเป็นภรรยาแสนชังของสามีเก่า ฝ่ายเขารับบทตัวร้าย ที่โรคจิต แสนเผด็จการ ชอบเคี้ยวกระดูกคนงามอย่างไม่หยุดหย่อน โอ๊ย บัดซบจริงๆ กรรมติดจรวดโดยแท้ เพราะก่อนหน้านี้ เธอตั้งใจเขียนให้ตัวละครอีกฝ่ายไม่สมหวังเรื่องความรัก ซ้ำร้ายยังถูกภรรยาสวมเขาครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายจึงต้องเลี้ยงลูกของชายชู้
1
เมื่อเธอทะลุมิติเข้าสู่โลกนิยายที่ตนเองเขียน เรื่องคู่วาสนาด้ายแดงบันดาลรัก และกลายเป็นภรรยาแสนชังของสามีเก่า ฝ่ายเขารับบทตัวร้าย ที่โรคจิต แสนเผด็จการ ชอบเคี้ยวกระดูกคนงามอย่างไม่หยุดหย่อน
โอ๊ย บัดซบจริงๆ กรรมติดจรวดโดยแท้ เพราะก่อนหน้านี้ เธอตั้งใจเขียนให้ตัวละครอีกฝ่ายไม่สมหวังเรื่องความรัก ซ้ำร้ายยังถูกภรรยาสวมเขาครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายจึงต้องเลี้ยงลูกของชายชู้
เอาละ ในเมื่อความลับไม่มีในโลก ซึ่งก่อนความจริงจะเปิดเผย จนเป็นเหตุให้เธอและสกุลเดิมจบชีวิตลงอย่างอนาถ ด้วยน้ำมือตัวร้าย
เธอจึงต้องงัดสารพัดวิธี เพื่อทำให้ตนเป็นยอดภรรยาของเขา ในนิยายเรื่องเดิมแต่พลิกบทบาทใหม่ โดยที่คู่พระเอกกับนางเอกจำต้องพลัดพราก แต่ความรักของตัวร้ายนั้นสุดแสนจะหวานเจี๊ยบ!
************
เสียงหายใจของอีกฝ่ายดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ กระนั้นกับทำให้หญิงสาวร้อนรุ่ม ทั้งเกิดความประหม่าเป็นอย่างมาก กระทั่งกายอุ่นจัดเคลื่อนทาบทับร่างนุ่มนิ่ม ความรู้สึกที่ได้รับคือวาบหวามใจ ระคนตื่นเต้น ความซาบซ่านเกิดขึ้นอย่างไม่อาจหักห้ามได้
แต่ช้าก่อน ชายหญิงใกล้ชิดกันได้ถึงเพียงนี้หรือ นั่นคือคำถามแสนเชย และล้าหลังไม่เข้ากับยุคสมัยที่เธออยู่ในตอนนี้จริงๆ หญิงสาวหัวเราะน้อยๆ แน่ล่ะ สำหรับเธอกับเขา ต้องเรียกว่าคนในอดีตของกันและกัน ถึงแม้อีกฝ่ายจงใจลืมเรื่องราวทุกอย่างเอาไว้แต่หนหลังก็ตาม
กายแกร่งขยับช้าๆ เบียดเสียดเนื้อนุ่มนิ่มเธอ
ฮึ มีส่วนใดบ้างที่เขาไม่เคยสัมผัสเรือนร่างนี้
ทว่าในวันที่รักจืดจาง ฝ่ายเขาทำเย็นชาใส่ แม้แต่หางตายังไม่มองเธอ ซ้ำร้ายยังผลักไสไปให้ไกลๆ โดยไร้คำลา
ใช่สิ เธอก็แค่ยายแว่นหนา จืดชืด แถมยังชอบเพ้อฝัน ส่วนเขาคือหล่อ อนาคตไกล...
ทว่ามันพิลึกอยู่สักหน่อย ยามนี้ เขากลับไม่หยุดทำเรื่องเหลวไหลกับเธอ
มือใหญ่ๆ วางแปะลงบนผิวอ่อนนุ่ม ร่างกายหญิงสาวสั่นสะท้าน นิ้วมืออีกฝ่ายเริ่มคุกคามเธอ แม้จะมีเสื้อผ้าขวางกั้นไว้ แต่เขาทำในสิ่งที่เรียกว่า เอาแต่ใจตน และนั่นคงเป็นเพราะอยากกลั่นแกล้ง จงใจให้เธออับอาย
เนินหน้าอกสวยถูกนิ้วปลายนิ้วสากๆ เขี่ย กระทั่งถึงยอดที่ตั้งชันเขาก็สะกิดพอให้เธอสะท้านทั้งร่าง
ซึ่งสาเหตุที่เกิดเรื่องนี้ เธอพอจะเดาได้ เสี่ยวอี้กำลังพยายามลบเขาให้หายไปจากชีวิต ทั้งในโลกแห่งความจริง และโลกนิยาย
ปลายนิ้วเขาส่งสัมผัสที่ไม่ผ่อนปรน ทำให้เธออดกลัวไม่ได้ ทั้งหมด คงเพราะเธอทำตัวเอง ด้วยเผลอดื่มตั้งเช้าตรู่ อย่างว่าช่วงนี้เครียดจัด คิดหลายสิ่งไม่ตก จึงซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ติดตู้เย็นไว้หลายประเภท พอได้ดื่มก็เคลิ้มดีแท้ กระทั่งสติค่อยๆ หายไป เธอพบว่า ใครคนนั้นตามเข้ามาก่อกวนในห้วงความฝัน
แม้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น ทว่านับวันมันรุนแรง ดูคล้ายความจริง จนชวนหลอน
เธอกำลังฝันถึงสามีเก่าเฮงซวย ยามนี้อีกฝ่ายอยู่ในร่างตัวร้ายที่เธอเป็นผู้เขียนเขาขึ้นมา ที่ร้ายยิ่งกว่า เขากำลังบังอาจวุ่นวายกับเธอ โดยอาศัยร่างตัวละครที่ชื่อ มู่ชิงเฉินเฮ่อ หรือ องค์ชายสามแห่งแคว้นเหลียงซาน
“ยั่วยวนข้ารึ น้ำหน้าอย่างเจ้า ก็เป็นได้แค่สตรีอุ่นเตียงไร้เกียรติ”
เสี่ยวอี้สั่นสะท้าน คราวนี้เธอโกรธจัด อดีตสามีเธอที่มาเข้าฝันยามนี้ อีกฝ่ายกำลังสวมบทบาท มู่ชิงเฉินเฮ่อ องค์ชายสามแคว้นเหลียงซาน บุรุษที่คนทั้งใต้หล้าอยากสับเป็นพันเป็นหมื่นชิ้น คือตัวละครที่เธอใช้บุคลิกและท่าทางของแฟนเก่าสร้างขึ้นมา ส่วนเธอคือตัวประกอบที่มีนามว่า จ้าวหว่านอี้ มีอยู่เพื่อทำให้อีกฝ่ายกลายเป็นหมาบ้า และต้องอับอายกับพฤติกรรมที่นางกระทำอย่างไม่เกรงกลัวต่อบาป
และจ้าวหว่านอี้ เป็นสตรีซึ่งกล้าสวมเขาให้สามี ทั้งยังชักศึกเข้าบ้านบ่อยครั้ง ซ้ำร้ายยังเป็นสายให้ศัตรูของมู่ชิงเฉินเฮ่อ
“โอ้ เป็นท่านต่างหากที่ไร้ยางอาย บุรุษแซ่มู่คนนี้สมควรสวมเสื้อผ้าสตรี”
“ฮ่าๆ ๆ ข้าไม่ถนัดทำอย่างที่เจ้าบอก แต่ถ้าให้ทำลายมัน ก็คงไม่ยาก”
เขาบอกจับจึงพลิกร่างกายเสี่ยวอี้ แล้วฉีกเสื้อผ้าของเธอออกจนเกือบเปลือยเปล่าในยามนี้
และเป็นยามนั้นที่เธอตัวสั่น อับอาย ทั้งรู้สึกอดสูยิ่ง
“ใครว่าเจ้างาม พวกนั้นคงไม่เคยเห็น สตรีที่สำนักโคมเขียว หรือนางกำนัลในวังหลวงสินะ”
เขาหยาบคาย และคงทำได้มากกว่านี้ แต่สำหรับเธอแล้ว ไม่อยากอดทนฟังคำใดๆ จากบางเป็นกระจับและสีสดดั่งเลือดอีก
นางโผเข้าไปหาอีกฝ่าย และทำสิ่งที่บ้ามาก ๆ เพราะกัดเข้าที่ปากล่างเขา พอได้ยินเสียงร้องโอ๊ย จึงกระชากแรงๆ
กระทั่งสาแก่ใจ นางก็เลิกกัดอีกฝ่าย
มู่ชิงเฉินเฮ่อมองนาง ดวงตาเขาคล้ายมีลูกไฟปะทุขึ้น
“สตรีชั้นต่ำเช่นเจ้า ก็ทำสิ่งต่ำๆ สมกับเป็นลูกสาวขุนนางต้องโทษ ฮึ ระหว่างที่บิดาเจ้าต้องเดินทางไปใช้แรงงานทางเหนือ ข้าอยากรู้นักว่าหากมีโจรภูเขาดักซุ่มอยู่ เขายังจะมีลมหายใจเหลือรอดไปถึงจุดหมายปลายทางหรือไม่”
เขาว่าแล้วก็แสยยิ้มน่ากลัว ด้วยมีเลือดสดๆ ย้อมทั้งฟันและริมฝีปาก
เสี่ยวอี้ที่ยามนี้อยู่ในบทบาทของภรรยาอีกฝ่าย โกรธจัดจนแทบคลั่ง นางเลยหมุนตัวแล้วคว้าเอามีดสั้นมาได้เล่มหนึ่ง อาศัยความว่องไวแทงมันเข้าใส่หน้าอกข้างซ้ายของเขา
แน่นอนอีกฝ่ายคงไม่ขั้นเสียชีวิต หัวใจเขานั้นอยู่ข้างขวา กระนั้นเขาก็กระอักเลือดกองโต
สะใจยิ่ง นางอยากแทงร่างกายสูงใหญ่ของเขาให้พรุนไปทั้งตัวเลย
“เจ้าบังอาจมากหว่านอี้... และนี่คงเป็นการตัดความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับเจ้า นับแต่นี้ พบกันครั้งใด ข้าจะเห็นเจ้าเป็นศัตรู” เขาดึงมีดสั้นออกจากหน้าอกของตน และเลือดนั้นพุ่งออกเป็นสาย ชายหนุ่มสกัดจุดห้ามเลือดไว้ แล้วแข็งใจพูดต่อ
“ฟ้าดินเป็นพยาน ถ้าหากเลือกได้ ข้าคงไม่ให้สองแฝดมาเกิดในท้องสตรีเช่นเจ้าแน่นอน สายเลือดข้าต้องแปดเปื้อน เพราะสตรีที่มีนามว่า จ้าวหว่านอี้”
ยามนั้นเสี่ยวอี้นึกขำเป็นอย่างมาก จนวันนี้มู่ชิงเฉินเฮ่อก็ยังไม่รู้ว่า เด็กแฝดที่เขาเลี้ยงดู และรักยิ่งหาใช้เลือดเนื้อเชื้อไขของตน ตามบทที่เธอเขียนไว้ จ้าวหว่านอี้คบชู้ ดังนั้นบุตรที่คลอดอย่างไรก็ไม่สายเลือดของมู่ชิงเฉินเฮ่อ
และพอเธอคิดจะเปิดปากบอกเรื่องนี้ แจ้งให้เขารู้ ว่าแก้วตาดวงใจที่อุ้มชู และรักใครยิ่ง ไม่ใช่ลูกของเขา จู่ๆ เสี่ยวอี้ก็สะดุ้งตื่นขึ้นเสียก่อน!