2
บ่ายวันใหม่
เสี่ยวอี้ขับรถส่วนตัวออกมาเปลี่ยนบรรยากาศนอกห้องทำงาน เธอเลือกร้านอาหารแบบคาเฟ่แมวกับน้องหมา เพื่อเขียนตอนใหม่ของนิยายออนไลน์ชื่อดังที่ทำให้เธอกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง คู่วาสนาด้ายแดงบันดาลรัก
อันที่จริงเธอไม่ใช่คนที่ชอบเขียนนิยายรักหวานๆ สักเท่าไหร่ ชอบแนวบู๊ และดร่ามาหนักหน่วงมากกว่า ที่นิยายเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ สร้างเม็ดเงินให้เธออย่างมหาศาล ก็เป็นเพราะมีตัวร้าย ที่น่าชิงชัง ทั้งยังสร้างปัญหาไม่หยุดหย่อน ซึ่งตอนนี้อีกฝ่ายกำลังตกที่นั่งลำบาก เรียกว่าคงไม่แคล้วสิ้นลมหายใจ และร่างถูกเผาเหลือแต่เถ้ากระดูก
“เจี่ยอี้ บอกฉันมาเถอะ องค์ชายสาม ตายจริงๆ ใช่ไหม ไม่ใช่สับขาหรอกฟื้นกลับมานะ สองแฝดนั่นอีก เขาจะรู้ว่าเด็กๆ ไม่ใช่ลูกของตัวเองเมื่อไหร่”
เสียงพนักงานร้าน ที่คุ้นเคยกัน ทั้งเป็นแฟนตัวยงนิยายของเธอดังมาจากด้านหลังและยิ้มประจบ เพราะอยากรู้เรื่องราวที่เธอลงค้างไว้ หากกล่าวไปแล้วก็ร่วมครึ่งปี ที่เธอยังไม่ลงเนื้อหาเพิ่ม ด้วยเหตุนี้จึงสร้างความอยากรู้มหาศาลให้แก่คนคนที่ติดตามอย่างหนาแน่น
และปมที่ทิ้งไว้คือ มู่ชิงเฉินเฮ่อ ถูกลอบสังหารแล้วพลัดตกเขา ยามนี้เป็นตายหรือไม่ ยังไม่มีใครรู้
เสี่ยวอี้ยิ้มให้อีกฝ่าย เธอพับหน้าจอแท็ปเล็ตลง ก่อนหมุนตัวตั้งใจหลบไปหามุมสงบกว่านี้ ทว่าเป็นยามนั้นที่ มีผู้ชายอีกสองคนมองมาที่เธอ พร้อมทำท่าอยากถามถึงนิยายที่เธอเขียน
“คุณอี้ครับ เราอยากสัมภาษณ์ผลงานที่กำลังเป็นกระแสในตอนนี้ อีกทั้งได้รับการซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างเป็นซีรีย์ฟอร์มยักษ์ แต่ตอนนี้ผมเข้าใจว่า ยังหาคนรับบทมู่ชิงเฉินเฮ่อ ไม่ได้ คุณอี้พอจะมีดารานักแสดงในดวงใจหรือเปล่า”
และตัวละครที่เขากล่าวถึงก็คือตัวร้าย ที่รับบทเด่นในเรื่องนั้นเอง พูดให้ง่ายก็คือ หาคนมารับบทสามีเก่าของเธอ ถูกถามแบบนี้เลยไม่รู้จะตอบอย่างไร
และเธอคงพลาดมาก ด้วยใส่รายละเอียดของมู่ชิงเฉินเฮ่อเยอะเกินไปหน่อย ทั้งเขียนให้เขามีเสน่ห์ ชวนให้น่าหมั่นไส้ ที่ทำไปนั้น ตอนแรกแค่อยากระบายความคับข้องใจต่อผู้ชายที่ทำให้เธอเจ็บจนแทบเสียผู้เสียคน แต่กลับลืมไปว่าสามีเก่าของเธอ ไม่ใช่คนธรรมดา!
“อ่อ แฟนเก่าฉันยังไงล่ะค่ะ”
เชี่ย...
เสี่ยวอี้หลุดพูดออกไปแล้ว ก็รีบปิดปากเงียบ ก่อนจะเฉไฉเอ่ยชื่อนักแสดงสุดหล่ออีกคน ทว่าฝ่ายนั้นดูอย่างไรก็ไม่เหมาะสมกับบท มู่ชิงเฉินเฮ่อ
นักข่าวและช่างภาพ ต่างส่ายหน้าพร้อมกัน และหนึ่งในสองเอ่ยว่า “ไม่ได้นะครับ พวกผมคิดว่า คนที่เหมาะสมรับบทนี้ ต้องเป็น ดีแลน เท่านั้น และยังเห็นเขาพูดถึงนิยายของคุณอี้อยู่เลย”
เสี่ยวอี้หูผึ่งขึ้นมาทันที เธอตัดขาดผู้ชายคนนั้นไปนานแล้ว ทว่าตัวละครมู่ชิงเฉินเฮ่อ ก็ถอดแบบมาจากเขาทุกอย่าง หน้าตา นิสัยด้านลบๆ ดังนั้นหากใครเป็นแฟนคลับสามีเก่าของเธอ ก็พอจับพิรุธเรื่องนี้ได้
“พูดเป็นเล่นไปค่ะ ดีแลน คนนั้นหน้ายาว ตาเล็ก ปากบาง จมูกหักอีก นิสัยเขาอาจใกล้เคียงตัวละครมู่ชิงเฉินเฮ่อ แต่เทียบชั้นกันไม่ติดหรอก อีกอย่างอย่าพูดชื่อเขาอีกนะคะ เดี๋ยวคนเข้าใจผิดว่าฉันอยากให้เขาเกี่ยวข้องกับนิยายเรื่องนี้”
เธอปากมากไม่หยุด ยิ่งพูดก็เหมือนยิ่งหาเรื่องแก้ตัว ฟังแล้วเหมือนเผยหลายสิ่งให้คนจับผิด
“อ่อ และมีอีกคำถาม มีข่าวซุบซิบว่า ก่อนเข้าวงการ ดีแลนกับคุณอี้ เคยรู้จักกัน เรื่องนี้พอจะเปิดเผยได้ไหมครับ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น เสี่ยวอี้จึงแยกเขี้ยวถลึงตาให้ผู้ชายทั้งสองคน จากนั้นเธอปิดปากสนิท ก่อนเดินหนีไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด ปล่อยให้นักข่าวทั้งสองคนปะติดปะต่อเรื่องราวต่อจากนั้นเอง
หญิงสาวลูบหน้าอกตนเองป้อยๆ คราวนี้ คิดว่าไม่ควรพบใครในช่วงนี้ นอกจากจะถูกถามเรื่องจุดจบตัวร้ายในเรื่อง ยังกลัวว่าชีวิตรักของเธอที่ถูกฝังเอาไว้เมื่อหลายปีก่อนอาจถูกขุดคุ้ย นักเขียนสาวกับนักแสดงหนุ่มขวัญใจมหาชน ที่ภาพลักษณ์ภายนอก หล่อเหลา แสนดี เปรียบเสมือนเทพบุตรแห่งชาติ ตอนนี้มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ จนไปทั่วโลก แต่สำหรับเธอ ดีแลน คือผู้ชายเย็นชา ไร้ใจ แอบมีความร้ายลึก และนั่นจึงทำให้เธอสร้างเขาเป็นตัวละครอย่าง มู่ชิงเฉินเฮ่อ ขึ้นมา หวังระบายหลายสิ่งในวันวาน
แต่กรรมมันติดจรวดโดยแท้ ยามนี้เธอคิดว่าอีกฝ่าย คงเริ่มระคะระคายว่า ตนถูกเธอใส่สีตีไข่ ให้เป็นชายชั่วในโลกนิยาย
เสี่ยวอี้เดินไปถึงรถยนตร์ส่วนตัวของตน และกดกุญแจรีโหมด เพื่อปลดล็อก หากเป็นช่วงเวลาเดียวกัน ที่จู่ๆ มีผู้ร้ายวิ่งมา เป็นหญิงสาวที่มีมีดแหลมในมือ ท่าทางคล้ายคนสติหลุด
“หลบไป คุณหลบไป... มะ มีด ระวัง ว้าย... มีด!”