บทที่ 7
บทที่ 7
บ้านของเรา
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเวลาที่เดินเร็วหรือว่าเธอกันแน่ที่มัวแต่ชะล่าใจ มารู้ตัวอีกทีก็ถึงวันอาทิตย์ที่วางแผนว่าจะพาผู้กองรูปหล่อเข้าบ้าน ในฐานะ 'ผัวน้อย' เอ๊ย! 'สามีอีกคน' ตามที่ตกลงกับเขาไว้ซะแล้ว
แน่นอนว่าอันตาต้องตื่นแต่เช้ามาแต่งเนื้อแต่งตัวให้สวยเริ่ดเชิ่ดราวกับมีงานเดินแบบตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น
ก็แหม... จะเปิดตัวสามีคนที่สองทั้งที ก็ต้องสวยหน่อยไหม
หญิงสาวไปถึงหน้าบ้านของเขาช้ากว่าเวลานัดนิดหน่อย ทว่าอีกฝ่ายก็ไม่ปริปากบ่น แถมยังขนกระเป๋าขึ้นรถเธออย่างรวดเร็ว จนคนมารับอดแซวไม่ได้
"หนีตามผู้หญิงแบบนี้... ที่บ้านไม่ว่าหรอคะ"
ร่างสูงที่พึ่งคาดเข็มขัดนิรภัยเสร็จสรรพชำเลืองมองคนถามเล็กน้อย ก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปาก แล้วตอบกลับได้อย่างร้ายกาจไม่ต่างกัน
"ถ้าโดนที่บ้านว่า ผมคงต้องบอกไปว่าโดนยาเสน่ห์"
อันตาย่นจมูกใส่เขาด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะบอกในสิ่งที่เธอคิด
"คุณมันร้าย"
"แต่ก็น้อยกว่าคุณนะ"
"หืม...ม อย่างน้อยตอนหนีที่เที่ยว ฉันก็ไม่เคยโกหกป๊าว่าโดนยาเสน่ห์อะ"
คนตัวโตหัวเราะรวนให้กับคำพูดเหน็บแหนมของหญิงสาว แล้วพยักพเยิดส่งสัญญาณให้เธอออกรถ ก่อนที่อาของเขาจะออกมาเห็นเข้าซะก่อน
นางแบบสาวแปลกใจเล็กน้อยที่รู้ว่าเขายังไม่ยอมบอกนิตยาว่าตนกลับมาแล้ว
แต่พอได้เห็นบาดแผลที่อีกฝ่ายลงทุนเปิดให้ดูทั้งที่เธอได้ร้องขอแม้แต่นิดเดียว ก็เข้าใจขึ้นมาที ถึงแม้ว่าตอนนั้นจะโฟกัสที่ซิกแพคของเขามากกว่าแผลก็เถอะ
เดี๋ยว...ว!
ร่างบางสะบัดหัวแรงๆ เพื่อไล่ภาพซิกแพคแน่นๆ ของคนข้างตัวออกไปจากหัว แต่การกระทำนั้นก็ไม่อาจรอดพ้นจากสายตาเขาไปได้
"ขับไวไหมคุณ ผมขับแทนได้นะ" จินเจษฎ์เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ทว่าอีกฝ่ายกลับส่ายหน้ารัวๆ แล้วส่งเสียงยืนยัน
"ไหวค่ะ ฉันไม่ได้เป็นอะไร... แค่ง่วง"
คนตัวเล็กโกหกหน้าตาย เพราะไม่อยากให้เขาซักไซ้ถึงอาการผิดปกติของตนเองไปมากกว่านี้ ขืนความแตกว่าเธอแอบคิดไม่ดีกับซิกแพคของเขาล่ะก็... อับอายค่ะ
บอกเลย!
"ง่วง ?"
"ค่ะ พอดีตื่นเช้าไปหน่อย" อันตาบอกกลั้วหัวเราะ เพื่อกลบเกลื่อนใบหน้าที่เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อของตัวเอง
จะสงสัยทำไมนักหนานะ ยิ่งได้ยินเสียงเขา... ภาพซิกแพคแน่นๆ นั่นก็ลอยเข้ามาในหัว จนเลือดกำเดาเธอจะพุ่งอยู่ร่อมร่อแล้วเนี่ย
"ตื่นเช้า... แต่มาสาย" เขาแกล้งย้ำ
"แต่งสวยอยู่ไง จะพาผัวน้อยเข้าบ้านทั้งที ต้องเริ่ดบ้างอะไรบ้าง" นางแบบสาวบอกกลั้วหัวเราะ ก่อนจะต้องเงียบเสียงลงคล้ายรู้สึกสะดุดเมื่อถูกชมโต้งๆ
"ปกติก็สวยอยู่แล้วนะ"
"ก็อยากสวยอีก สวยไปเรื่อยๆ ถึงตายก็ยังสวยงี้"
อันตาว่าพลางจีบปากจีบคอประกอบไปด้วย จนเขาต้องเอื้อมมือมาหยิกแก้มเธอด้วยความมันเขี้ยว
"เดี๋ยวเหอะคุณ เดี๋ยวนี้แอดวานซ์นะคะ ถ้าแก้มช้ำขึ้นมาคิดค่าปรับนะ บอกไว้ก่อน"
"เท่าไหร่ว่ามา" ทหารหนุ่มบอกอย่างใจป้ำ เธอจึงได้โอกาสล้อเขาคืน
"หูยย สายเปย์นี่หว่า...า"
"ผมมีอยู่ยี่สิบ" คนยียวนแกล้งขัดแบบติดตลก เป็นเหตุให้เขาถูกคู่สนทนาส่งค้อนประหลับประเหลือกมาให้แต่เช้าตามคาด
"งั้นเก็บไว้เถอะค่ะ พูดซะไม่กล้าปรับเลย"
จินเจษฎ์ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ เมื่อเห็นใบหน้าบอกบุญไม่รับ ประกอบกับเสียงบ่นประชดประชันของคนน่ารัก ที่ทำให้เขาอยากหยิกแก้มเธออีกสักที
แต่ไม่เอาดีกว่า... เดี๋ยวโดนปรับ!
ใช้เวลาไม่นานรถคันเล็กกะทัดรัดเหมือนเจ้าของก็เคลื่อนตัวเข้ามาภายในอาณาเขตของบ้านสีขาวขนาดกลางที่มีพื้นที่รอบๆ เขียวชะอุ่มน่ามองไปจนถึงโรงรถ
"เล่นให้เนียนนะคะ ถ้าไม่เนียนฉันฟ้องอานิตเรื่องแผลคุณแน่" อันตาแกล้งขู่ พร้อมกับปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัวไปด้วยอย่างเร่งรีบ
"เดี๋ยวก็รู้ครับ ว่าเนียนไม่เนียน"
"อย่าดีแต่พูดก็แล้วกัน"
"หืม... งั้นเราไปพิสูจน์กันเถอะ" ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความมั่นใจเต็มขั้น ก่อนจะยกมือขึ้นเปิดประตูลงไปก่อนเธอซะอีก
"คุณเตรียมเสื้อผ้ามาพร้อมแล้วหรอ ต้องอยู่แบบไม่มีกำหนดกลับนะคะ" อันตาถาม แล้วบุ้ยปากไปทางหลังรถ ซึ่งเป็นที่เก็บกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของเขา
"พร้อมครับ ให้อยู่ตลอดไปก็ยังได้"
"บ้าเร๊อะ!" คนเขินแกล้งว่ากลบเกลื่อน แล้วเสหน้าไปทางอื่นแก้เก้อ
"พูดจริง"
"ฉันให้คุณมาช่วยเร่งให้ฉันออกไปจากที่นี่นะคะ ไม่ได้จะชวนมาอยู่ด้วยกันตลอดไปสักหน่อย"
"แล้วจะชวนเมื่อไหร่ล่ะ" จินเจษฎ์ถามหน้านิ่ง ทว่าคำพูดของเขากลับแฝงไปด้วยพลังบางอย่าง ที่ทำให้คนฟังใจเต้นโครมครามยิ่งกว่ากลองศึก
"ก็... เข้าบ้านกันเถอะ"
นางแบบสาวตัดบทอย่างรวดเร็ว แล้วเดินลิ่วๆ นำเขาไปยืนอยู่หน้าบ้านอย่างเตรียมความพร้อม ก่อนจะขยับเข้ามาคล้องแขนแกร่งของร่างสูงเอาไว้แนบแน่น
"พร้อมไหม" เขาถาม
"ฉันพร้อมตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว"
"งั้นเราเข้าไปกันเถอะ"
อันตาตอบรับคำชวนของเขาด้วยการเดินซบศีรษะทุยสวยกับบ่ากว้าง แล้วย่างก้าวไปตามขั้นบันไดพร้อมกับชายหนุ่มด้วยท่าทางผ่อนคลายสุดๆ
"อัน..."
เสียงทุ้มของผู้เป็นเจ้าของบ้านเอ่ยเรียกภรรยาในนามด้วยความงุนงง เมื่อเห็นว่าข้างตัวของหญิงสาวมีใครอีกคนยืนอยู่
"มอนิ่งค่ะ พี่เอก" ร่างบางเอ่ยทักทายตามปกติ
"นั่นใคร ?"
"สามี... อีกคนของอันค่ะ" คนตัวเล็กเอ่ยด้วยรอยยิ้มหวานหยด ก่อนจะขยับศีรษะออกจากไหล่เขา แล้วแนะนำให้ทั้งคู่รู้จักกันอย่างเป็นทางการ
"นี่ผู้กองจินค่ะพี่เอก ส่วนนี่พี่เอกค่ะผู้กอง"
"หมายความว่าไง" เอกภพถามขึ้น
"หมายความตามที่พูดไงคะ คุณนุชเป็นเมียพี่เอก ส่วนผู้กองเป็นสามีของอัน ชัดเจนนะคะ"
นางแบบสาวใช้คำพูดแบบสองมาตราฐานสุดๆ โดยไม่ลืมเน้นย้ำคำว่า 'สามี' เพื่อข่มคนที่มีใบทะเบียนสมรสจริงๆ ทว่ามันกลับเรียกรอยยิ้มจากเจ้าของใบทะเบียนสมรสปลอมๆ นี่สิ
หืม...
"อันคิดจะทำอะไร" นักธุรกิจหนุ่มถามเสียงเรียบ
"ทำแบบที่พี่เอกสบายใจไงคะ อันไม่เคยก้าวก่ายเรื่องของคุณนุช พี่เอกก็ควรจะให้ความเสมอภาคกับอันบ้าง"
อันตารู้สึกอยากมอบรางวัลนักสิทธิสตรีนิยมให้ตัวเองก็คราวนี้
แหม... เรียกร้องความเสมอภาคด้วยการมี 'ผัวน้อย'
เริ่ดไปอี๊ก!