บทที่ 6
บทที่ 6
ผัวน้อย! 3
อันตาพยักหน้ารับคำตอบของเขา ก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาเพื่อปล่อยให้สองพี่น้องพูดคุยเรื่องที่พวกเขาต้องรวมหัวกันปิดบังเรื่องบาดแผลที่โดนยิงกับคุณนิตยา ผู้เป็นแม่ของเจนนิษฐ์และเป็นอาของเขา
"เดี๋ยวเจนมานะ ไปคุยกับไอ้อันก่อนไป๊"
นักเขียนสาวพูดขึ้นเร็วๆ แล้ววิ่งกลับไปบนห้องนอนอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือดังแว่วมา
"เอ๊า! ไอ้เจน..."
ปัง!
เสียงปิดประตูทำให้คนที่กำลังตะโกนเรียกเพื่อนเงียบเสียงลง แล้วหันมามองร่างสูงที่เดินเข้ามานั่งบนโซฟาข้างๆ
"แล้วจะให้ผมเริ่มแสดงละครกับคุณวันไหน" เขาถามขึ้น เมื่อเห็นว่าเธอไม่ยอมพูดอะไรออกมา
นางแบบสาวมองหน้าคนถามอย่างครุ่นคิด และเลื่อนสายตาไปมองตรงบริเวณที่เขาบอกว่ามีบาดแผลอย่างพิจารณา
"แผลผมใกล้หายแล้วล่ะ" คนตัวโตพูดขึ้นอย่างรู้ทัน เมื่อเห็นสายตาของเธอจับจ้องมาที่เขา
"อือ... สักวันอาทิตย์ได้ไหมคะ"
"ครับ"
"แล้วคุณต้องไปล้างแผลไหม" ร่างบางถาม แล้วจับจ้องบริเวณสีข้างของเขาราวกับโรคจิต
เอิ่ม... แต่เธอแค่เป็นห่วงย่ะ!
"ถามแบบนี้ จะพาไปหรอ" ทหารหนุ่มถามกลับ
"ฉันถามเฉยๆ"
เมื่อได้ยินคำตอบที่ไม่อยากได้ ร่างสูงก็แสร้งทำปากยื่นปากยาวอย่างแง่งอน ก่อนจะจิ้มนิ้วชี้เข้าที่ไหล่มนของเธอแบบมีจริตจะก้าน แล้วเอ่ยขึ้น
"ใจร้าย"
อันตาหลุดหัวเราะออกมาทันควัน เพราะน้ำเสียงสะบัดสะบิ้งของเขา ทว่าคนขี้แกล้งก็ยังคงจีบปากจีบคอเหวี่ยงค้อนประหลับประเหลือกใส่เธอไม่เลิก
"พอได้แล้วมั้ง" หญิงสาวบอกกลั้วหัวเราะ แล้วตีมือลงบนไหล่หนาของเขาบ้าง
"ถ้าก่อนหน้านี้คุณไม่กวนประสาทฉันนะ ฉันคงคิดว่าคุณเป็นเพื่อนสาวไปแล้ว"
"อ้าว...ว" คนขี้แกล้งลากเสียงยาว
"ทำไมคะ ฉันแค่จะชมว่าคุณเหมือน..."
"คุณนี่!"
จินเจษฎ์บีบเสียงแหลม แล้วแหวใส่คู่สนทนาเหมือนนางร้ายในละคร ทำให้คนมองระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดัง แล้วโบกมือไปมากลางอากาศเพื่อขอให้เขากลับมาเป็นปกติ
"พอได้แล้วคุณ เดี๋ยวไปเล่นบทผัวน้อยไม่เนียนนะ"
"ผมไม่ทำแบบนี้บ่อยๆ หรอกน่า แค่เห็นคุณดูเครียดๆ ก็เลยอยากแกล้งให้หัวเราะ" เขาพูดขึ้นราวกับอ่านใจคนออก ก่อนจะคลี่ยิ้มละลายใจมาให้คนข้างตัว
"มีอะไรไม่สบายใจบอกผมได้นะ"
"บอกได้หรอคะ"
"ได้สิ"
ร่างบางส่ายหน้าเบอร์แรง แล้วชี้นิ้วไปจิ้มไหล่เขาจึกๆ
"เราพึ่งรู้จักกัน อย่ามาหลอกถามฉันซะให้ยาก"
"แต่ผมเป็นผัวคุณนะ" เขาบอกเสียงเข้ม
"แค่ 'ผัวน้อย' ย่ะ อย่ามาเผยอ" อันตาตอบกลับด้วยโทนเสียงแบบนางร้ายในละคร จนคนฟังหลุดหัวเราะออกมา
แน่ล่ะ! ก็เธอเล่นเบะปากกรอกตาเกินเบอร์ด้วยนี่หว่า ถ้าเขาไม่หัวเราะออกมาสักแอะ แม่จะเคืองให้
"เปลี่ยนจากผัวน้อยเป็นอย่างอื่นได้ไหมคุณ ฟังแล้วมันแสลงหู รู้สึกหดหู่ชะมัด"
"เปลี่ยนเป็นอะไรดีล่ะ 'ชู้' เลยไหม" อันตาเสนอ
"หนักกว่าเดิม"
"รู้ไหมคะ... ว่าผู้ชายเรื่องมาก ไม่น่ารักเลย" นางแบบสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงออดอ้อน พลางช้อนสายตามองเขาราวกับนางแมวยั่วสวาท
เป็นเหตุให้ร่างสูงต้องเสมองไปทางอื่น แล้วบ่นพึมพำขึ้นมาเพื่อกลบเกลื่อนอาการเคอะเขินของตน
"เล่นอะไรของคุณ"
"เขินล่ะสิ โถ่วว...ว" สาวแซ่บแกล้งล้อ ก่อนจะดึงกลับเข้าสู่โหมดจริงจังอีกหน "ไม่อยากเป็นผัวน้อย แล้วอยากเป็นอะไรล่ะ เมียน้อยดีไหม เดี๋ยวฉันยอมเสียสละเป็นผัวให้คุณเอง"
"อันนั้นยิ่งไม่โอเคใหญ่เลย" ทหารหนุ่มค้าน
"แล้วอยากเป็นอะไร"
จินเจษฎ์ไม่ตอบ แต่กลับคลี่รอยยิ้มบางๆ แต่งแต้มที่มุมปาก แล้วถามในเรื่องที่เขาสงสัยแทน
"ผมถามจริงๆนะ คุณไม่รักสามีของคุณหรอ"
"รักหรอ ?" เธอเอ่ยทวนคำพูดของเขา แล้วส่ายหน้า
"ไม่รู้สิคะ เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ในสายตาฉันเขาเป็นคนเก่ง รอบคอบ เป็นสุภาพบุรุษ แล้วก็มีความรับผิดชอบ เอ่อ... ไอ้สองข้อหลังนี่ หมายถึงก่อนหน้านี้นะ ไม่ใช่ตอนนี้"
ในช่วงท้ายประโยคน้ำเสียงของหญิงสาวแข็งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนคนฟังต้องเผลอหลุดยิ้มออกมา
"ท่าทางจะแค้นมาก" เขาว่า
"ก็แค้นสิคุณ รู้ไหมว่าเขาทำให้ฉันเสียเซลฟ์ไปพักใหญ่เลยนะ เวลาจะใส่เสื้อผ้าชุดไหน แต่งหน้าทำผมยังไงก็ไม่มั่นใจเหมือนเมื่อก่อนอะ"
"ทำไม ?"
"ฉันคิดว่าตัวเองไม่มีแรงดึงดูดมากพอ ฟีโรโมนไม่พุ่ง ไร้แรงดึงดูดทางเพศ" อันตาพูดขึ้นอย่างหัวเสีย แล้วเสยผมยาวสลวยขึ้นลวกๆ คล้ายต้องการหาที่ระบายอารมณ์
"ผมว่า... ก็ไม่นะ"
"เอ้อ! ฉันก็ว่าไม่อะ สวยแซ่บเบอร์แรงขนาดนี้ ไอ้พี่เอกมันมีตาหามีแววไม่!"
คำพูดเหน็บแหนมที่ใส่อารมณ์เต็มขั้น ทำเอาคนฟังหัวเราะรวน ก่อนที่เขาจะพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเอาใจ
"คุณ..."
"หืม ?"
"ฉันขอถามอะไรหน่อยสิ" อันตาว่าพลางขยับเข้าไปใกล้เขา
"ครับ ?"
"ทำไมคุณถึงไม่อยากให้อานิตรู้เรื่อง... แผลล่ะ"
จินเจษฎ์มองคนถามแวบนึง ก่อนที่เขาจะคลี่ยิ้มออกมา เมื่อเห็นว่าคู่สนทนากำลังมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามเหมือนเด็กช่างซัก
"ผมไม่อยากให้อานิตเป็นห่วง"
"อ่อ... เจนบอกว่าอานิตรักคุณมาก" เธอบอก
"ครับ ตั้งแต่พ่อกับแม่ผมเสียไปเมื่อแปดปีก่อน ผมก็มีแค่อานิตกับเจนเนี่ยแหละ เป็นครอบครัวที่เหลืออยู่" คนตัวโตพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มอบอุ่น โดยที่ใบหน้าของเขาไม่ได้มีความเศร้าหรือความรู้สึกขมขื่นเจือปนอยู่เลยแม้แต่น้อย
"แล้วคุณมีแผลบ่อยไหม"
"ถามทำไม... เป็นห่วงผมหรอ" คนยียวนถาม
"ฉันก็ถามเฉยๆ"
"ไม่บ่อยหรอก" เขาตอบ
"อ่อ..." อันตาส่งเสียงตอบรับ แล้วเงียบไปอย่างไม่รู้จะหาเรื่องอะไรมาคุยกับเขาอีก
"แล้วสรุปว่าผมไม่เป็นผัวน้อยได้ไหม"
"ถ้าไม่เป็นผัวน้อย แล้วจะเป็นอะไรล่ะ" นางแบบสาวถามกลับ ก่อนจะเห็นว่าคนข้างตัวกำลังเอื้อมมือไปหยิบกระดาษเอสี่แผ่นหนึ่งออกมาจากสมุดจดพล็อตของเจนนิษฐ์
"เป็นสามีอีกคน"
หลังจากที่ตอบคำถามของเธอแล้ว เขาก็ลงมือร่างใบทะเบียนสมรสให้คล้ายคลึงกับต้นฉบับมากที่สุด ก่อนจะเซ็นชื่อของตัวเองลงไปในนั้น และเลื่อนมันมาตรงหน้าเธอ
"เซ็นสิคุณ"
"เล่นอะไรเป็นเด็กๆ" อันตาบอกกลั้วหัวเราะ แต่ก็ยอมหยิบปากกาขึ้นมาเซ็นชื่อลงไปในกระดาษแผ่นนั้นแต่โดยดี
พอเธอเขียนเสร็จ จินเจษฎ์จึงหยิบกระดาษขึ้นมาตรวจดูความเรียบร้อย ก่อนจะหันมาบอกว่า...
"อย่าลืมเปลี่ยนนามสกุลด้วยนะครับ"