บทย่อ
เมื่อสามีในนามที่แต่งงานกันมาร่วมสองปีพาเมียน้อยกับลูกเข้ามาอยู่ร่วมชายคา ครั้นจะหย่าก็กลัวผู้ใหญ่ผิดใจกัน เธอจึงเดินหน้าแก้เผ็ดเขาด้วยการมี 'ผัวน้อย' บ้างซะเลย...แถมงานนี้ดูเหมือนว่าฟ้าจะเห็นใจเธออยู่ไม่น้อย ถึงได้ส่งผู้กองรูปหล่อ ที่พ่วงตำแหน่งญาติเพื่อนมาร่วมแผนการแบบงงๆ ก็เอาสิคะ... ทนได้ก็ทนไป!"แล้วสรุปว่าผมไม่เป็นผัวน้อยได้ไหม""ถ้าไม่เป็นผัวน้อย แล้วจะเป็นอะไรล่ะ" นางแบบสาวถามกลับ ก่อนจะเห็นว่าคนข้างตัวกำลังเอื้อมมือไปหยิบกระดาษเอสี่แผ่นหนึ่งออกมาจากสมุดจดพล็อตของเจนนิษฐ์"เป็นสามีอีกคน"หลังจากที่ตอบคำถามของเธอแล้ว เขาก็ลงมือร่างใบทะเบียนสมรสให้คล้ายคลึงกับต้นฉบับมากที่สุด ก่อนจะเซ็นชื่อของตัวเองลงไปในนั้น และเลื่อนมันมาตรงหน้าเธอ"เซ็นสิคุณ"
บทนำ
บทนำ
...สองปีก่อน...
งานแต่งงานสุดหรูถูกจัดขึ้นภายในห้องบอลรูมขนาดใหญ่ของโรงแรมห้าดาวใจกลางกรุง โดยมีแขกเหรื่อในงานเกือบพันชีวิตมาร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวที่เป็นถึงทายาทเจ้าของบริษัททัวร์และบริษัทเรือเดินสมุทรรายใหญ่
แถมงานนี้เจ้าสาวยังมีดีกรีเป็นถึงนางแบบชื่อดังขวัญใจสื่อมวลชน และนี่คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่เกือบค่อนประเทศลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า...
'เจ้าบ่าวคือผู้ชายที่น่าอิจฉาที่สุด'
ใช่! วันนั้นเขาคือผู้ชายที่ใครๆ ต่างก็พากันอิจฉา
แต่วันนี้...
เธอเป็นผู้หญิงที่น่าสมเพชสุดๆ ไปเลย!
"เมื่อกี้พี่เอกพูดว่าผู้หญิงคนนี้กับเด็กคนนั้น... เป็นใครนะคะ"
อันตาถามพลางชี้นิ้วสลับกันไปมาระหว่างผู้หญิงหน้าตาสวยหมดจดแต่มีออร่าความเจิดจรัสน้อยกว่าเธอ กับเด็กผู้หญิงวันขวบเศษที่เดินเตาะแตะอยู่ข้างพี่เลี้ยง เพื่อให้เขาช่วยยืนยันว่าเธอไม่ได้หูฝาด
"นุชเป็นเมียพี่"
"เมียน้อย!" ร่างบางสวนกลับทันควัน
"เอ่อ... ความจริงพี่กับนุชเรารักกันมานานแล้วนะอัน" เอกภพพยายามอธิบายอย่างใจเย็น แม้จะรู้ดีว่ามันแทบไม่มีความเป็นไปได้เลยที่คู่สนทนาจะเข้าใจเขา
"นี่พี่เอกจะบอกว่าอันเป็นเมียน้อยหรอคะ"
"มันไม่ใช่แบบนั้นนะอัน"
"แล้วมันเป็นแบบไหน !?" หญิงสาวตะโกนถาม
"อันก็รู้ว่าเราแต่งงานกันเพราะอะไร"
"แล้วไงคะ ในเมื่ออันก็บอกพี่เอกไปนับครั้งไม่ถ้วนแล้วว่าอันเต็มใจแต่งงานกับพี่ เพราะว่าอันรักพี่ สำหรับอันเรื่องนี้มันไม่ใช่แค่เกมธุรกิจของผู้ใหญ่ แต่มันคือความรู้สึกจริงๆ ของอัน" นางแบบสาวบอกความรู้สึกของตนพร้อมกับน้ำใสๆ ที่เอ่อคลออยู่บริเวณขอบตา
ทว่าเธอกลับไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดที่เขามีคนอื่น แต่สาเหตุจริงๆ ของมันคือ...
"แกคิดดูนะเว้ยไอ้เจน จะมีเมียน้อยทั้งที แม่ง! หน้าตาไม่ได้ดีไปกว่าเล็บขบนิ้วเท้าฉันเลยสักนิด ไปคว้านังนั่นมาแทนที่ฉันได้ยังไง ตลกสิ้นดี!"
เจนนิษฐ์ที่กำลังนั่งรับฟังปัญหาครอบครัวของคนตรงหน้าพยักหน้าเออออตามอย่างเห็นด้วย เพราะขืนเธอยื่นปากเข้าไปขัดขวางความเกรี้ยวกราดของเพื่อนล่ะก็...
'มันต้องงอนแน่ๆ'
"แล้วแกคิดดูนะ แต่งงานกันมาสองปี ฉันกับเขาไม่เคยมีอะไรเกินเลยไปมากกว่ากอดกับหอมแก้ม จนฉันเกือบคิดว่าเขาเบี่ยงเบนไปแล้ว ที่ไหนได้... พูดแล้วเจ็บใจอะ!"
"เออๆ กินน้ำก่อนแก เดี๋ยวคอแห้ง" คนพูดว่าพลางยื่นแก้วน้ำส่งให้เพื่อนรักเพื่อดับกระหาย
นางแบบสาวรับแก้วน้ำไปดื่มรวดเดียวหมด ก่อนจะถามขึ้นอย่างขอความเห็น
"แล้วนี่ฉันจะทำยังไงต่อไปดีวะแก"
"แกต้องหย่ากับพี่เอก"
"ไม่ได้!" อันตารีบแย้ง
"ทำไมล่ะ ในเมื่อเขามีคนอื่น แถมแกเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาแล้ว มันก็ควรจะหย่าให้จบๆ ไป ไม่ใช่หรอ"
"ส่วนหนึ่งที่ฉันกับพี่เอกต้องแต่งงานกันมันเป็นเพราะเรื่องธุรกิจไง ถ้าฉันกับเขาหย่ากัน จะมีผลอะไรตามมาบ้างก็ไม่รู้"
"แต่แกจะอยู่แบบนี้ไม่ได้นะอัน ถ้ามันหย่ากันดีๆ ไม่ได้ แกก็ฟ้องหย่าไปเลยสิ เขามีคนอื่น แถมมีลูกพ่วงมาอีก แกจะทนอยู่กันสามคนผัวเมียหรอ"
"เรื่องฟ้องหย่านี่พับเก็บไปได้เลยแก ขืนขึ้นโรงขึ้นศาลกันจริงๆ พ่อฉันกับแปะได้ฆ่ากันตายไปข้าง" หญิงสาวบอกพร้อมกับยกมือขึ้นมาเสยผมยาวสลวยด้วยความกลัดกลุ้ม เพราะตอนนี้เธอไม่สามารถจัดการอะไรกับปัญหาได้ทั้งนั้น
นอกจากรอ...
รอให้เอกภพมีความกล้ามากพอที่จะไปบอกพ่อของเขา ว่าเขามีคนอื่น และพร้อมที่จะคืนสถานภาพโสดให้กับเธอ
"แล้วแกโอเคหรอ... ถ้าจะต้องอยู่กันแบบสามคนผัวเมียเนี่ย"
"ไม่โอเคอย่างแรง" อันตาตอบแบบไม่ต้องคิด แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างปลงตก "ฉันโกรธจนแทบบ้า แต่พี่เอกกลับขอร้องให้ฉันเก็บเรื่องนี้เอาไว้ก่อน เพราะกลัวแปะจะไม่ยอมรับเมียน้อยตัวเอง เห็นแก่ตัวชะมัด!"
"แล้วแกจะเก็บงั้นหรอ"
"ฉันเองก็ไม่อยากให้ป๊ารู้" ร่างบางบอกเสียงอ่อย
"หะ !?"
"ฉันเคยโกหกป๊าตั้งหลายครั้งว่าฉันให้พี่เอกกินยาสมุนไพรจีนที่ช่วยบำรุงสมรรถภาพของเขา พี่เอกจะได้ฟิตปึ๋งปั๋งมีหลานให้ท่านไวๆ" คนโกหกสารภาพความผิด
"เอ๊า! แล้วพี่เอกไม่ได้กินหรอ" คู่สนทนาถามกลับด้วยความงุนงง
"ใช่"
"แล้วใครกิน ?"
"แล้วแกคิดว่าใครลูกดกที่สุดในบ้านฉันล่ะ" อันตาถามกลั้วหัวเราะ
คนโดนถามทำท่าครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ ก่อนจะเบิกตากว้างแล้วตอบออกไปเสียงดังฟังชัด
"ไอ้ฮาเปอร์!"
"ถูกต้องค่าา...า" เจ้าของคำถามบอกด้วยรอยยิ้มขบขัน ทว่าคนฟังกลับขำไม่ออก
"แกเอายาจีนให้หมากินเนี่ยนะ"
"อ่ะ! ก็พี่เอกเขาไม่ยอมกิน แล้วแกจะให้ฉันทำยังไงอะ"
"ไอ้อัน ไอ้บ้า!" เจนนิษฐ์โวย แล้วส่ายหน้าไปมาอย่างหมดปัญญาจะสรรหาคำด่ามาให้เพื่อน
"ไม่บ้านะ ฉันรู้ว่าป๊าซื้อยามาแพงมาก แถมยังให้ฉันมาเป็นสิบๆ ครั้งแล้วด้วย ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูป๊านะ ไอ้อันเพื่อนแกโดนตัดออกจากกองมรดกแน่ๆ"
"แกบ้าตั้งแต่เอาให้หมากินแล้วไหม"
"ฉันเสียดายไง" คนพูดว่าพลางแสร้งทำหน้าตาใสซื่อ
"แล้วพี่เอกเขาได้บอกแกไหม ว่าเขาจะพร้อมเมื่อไหร่"
"เขาบอกแค่ว่าขอเวลา"
"แล้วแกจะรอจริงดิ"
"ฉันไม่มีทางเลือกเยอะขนาดนั้นนะแก เอาตรงๆ ฉันก็เจ็บใจจะตายอยู่ละ แต่จะให้ไล่ลูกไล่เมียเขาออกจากบ้าน ฉันก็ทำไม่ลงว่ะ" นางแบบสาวบอกพร้อมกับยกมือขึ้นมาคลึงขมับตัวเองด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
"แกใจอ่อน ?"
"ไม่รู้สิ แต่ฉันว่านะ ถ้าจะไล่ก็ต้องไล่ผู้ชายสันดานเสียอย่างไอ้พี่เอกนั่นแหละออกไป"
เจนนิษฐ์หัวเราะให้กับคำตอบของเพื่อน ก่อนจะยกมือขึ้นมาตบแปะๆ กลางอากาศ แล้วประกาศมอบมงฯ ให้คู่สนทนา
"ผู้เข้าอกเข้าใจสตรีประจำปีนี้ได้แก่... นางอันตา ลิ้มวรเกียรติค่าา...า"
"สต็อปค่ะ! ตอนนี้เครียด ไม่มีอารมณ์รับมงฯ" อันตาว่าพลางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เป็นรอบที่ร้อย แล้วถดตัวนอนราบลงไปบนโซฟาอย่างหมดแรง
"เอางี้ไหมไอ้อัน"
"เอาไง ?" เธอถาม
"ถ้าเขามีเมียน้อยได้ แกก็มี 'ผัวน้อย' ไปเลยสิ"