บทที่ 5
บทที่ 5
ผัวน้อย! 2
อันตามองสบตากับคู่สนทนาคล้ายต้องการจะให้เขาช่วยยืนยันอีกครั้ง ว่าเมื่อกี้เธอไม่ได้หูฝาดไป
ทว่านอกจากร่างสูงตรงหน้าจะมองตอบเธอด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรแล้ว หญิงสาวยังแอบรู้สึกด้วยว่าแข้งขาของตัวเองชักจะเกิดอาการทรยศเมื่อได้อยู่ใกล้เขาในระยะประชิดแบบนี้
'โอ้วว... ตั้งสติหน่อยไอ้อัน แกจะปันใจให้เขาตอนนี้ไม่ได้นะยะ เอาใจไปฝากไว้ที่ไอ้ฮาเปอร์ก่อนโว้ยย!' นางแบบสาวโวยวายในใจเพื่อเรียกสติ
ก่อนที่เธอจะหันไปมองหน้าเพื่อนรักที่ยืนยิ้มหน้าระรื่นอยู่กลางบันได
"สรุปว่าพี่จินจะช่วยไอ้อันใช่ป่ะ" เจนนิษฐ์ถาม
"ก็ถ้าเขาอยากให้ช่วย... พี่ก็จะช่วย"
"ตกลง!" คนต้นเรื่องพูดแทนเพื่อน
"ฉันยังไม่ได้ตอบอะไรเลยย่ะ" หญิงสาวขัดขึ้น แล้วแยกเขี้ยวใส่เพื่อนรักด้วยความหมั่นไส้
"อย่าเรื่องมากสิแก พี่ชายฉันตรงสเปคผัวน้อยแกทุกอย่างเลยนะเว้ย แถมเขายังอาสาจะช่วยฟรีๆ อีก แบบนี้ไม่ดีตรงไหนยะ" แม่สื่อเฉพาะกิจบ่นร่ายยาว แล้วเปิดกางสมุดเล่มเล็กในมือให้เพื่อนดู
"ข้อหนึ่ง... หล่อกว่าพี่เอก ข้อสอง... ไม่แคร์สื่อ ข้อสาม... ร้ายเหมือนแก"
"เดี๋ยวๆ พี่แกร้ายกว่าฉันเยอะเลยนะ" อันตารีบแก้คำพูดของเพื่อน อย่างไม่เกรงใจคนในบทสนทนาที่ยืนอยู่ข้างตัว
"เหมาะกันดีออก ฉันเห็นแล้วคิดว่าเป็นเนื้อคู่"
"หยาบคายมาก ไอ้เจน!" เธอแหวใส่
...ทว่ากลับเป็นเขาที่ร้อนตัว
"การเป็นเนื้อคู่ผมมันหยาบคายตรงไหนเนี่ยคุณ"
ร่างแบบบางหันมามองคนถามด้วยแววตาขบขันอย่างไม่รู้จะแก้ตัวยังไง แล้วหันกลับไปค้านเพื่อนรักอีกครั้ง
"พี่แกเป็นทหาร งานเขายุ่งไม่ใช่หรอเจน เขาไม่ว่างมาเล่นละครกับฉันหรอก"
"ผมพึ่งกลับมาจากปฏิบัติภารกิจติดต่อกัน มีวันหยุดยาวหนึ่งเดือน เว้นแต่จะมีกรณีฉุกเฉินเรียกตัวด่วนเท่านั้น" คนที่ไม่ได้รับคำตอบอะไรเลยพูดขึ้น แล้วเดินเข้ามากั้นกลางระหว่างน้องสาวกับคนข้างตัว
"แล้วสรุปว่าเป็นเนื้อคู่ผมมันแย่ตรงไหน"
"ก็... จะไปรู้หรอคะ" อันตาตอบไปส่งๆ แล้วพยายามขยับถอยห่างจากเขาให้มากที่สุด เพราะ...
ตึกตัก! ตึกตัก!
กลัวว่าเขาจะได้ยินเสียงหัวใจที่มันเต้นโครมครามอยู่ในอกนี่ไง
'ใจง่ายกว่านี้มีอีกไหมวะ ไอ้อัน!'
"อะแฮ่ม! ว่าไงครับ" คนที่ยังไม่ได้คำตอบคาดคั้น แล้วจ้องมองเธอด้วยสายตากดดันราวกับกำลังสอบสวนผู้ต้องหา
"เอ่อ... แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ ไม่ใช่เนื้อคู่คุณนี่"
"ลองเป็นดูไหมล่ะ" จินเจษฎ์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม จนคนฟังเกือบจะเคลิ้มตาม ถ้าไม่ติดว่าเหลือบไปเห็นรอยยิ้มล้อเลียนของเพื่อนเข้าซะก่อน
"จะบ้าเร๊อะ!"
"เอ้า! ก็ผมไม่อยากให้คุณสบประมาทกันนี่"
"ฉันไม่ได้สบประมาท" คนผิดเถียงข้างๆ คูๆ
"หรอ... แล้วที่บอกว่าการเป็นเนื้อคู่ผมมันหยาบคายนี่คืออะไร" เขาคาดคั้น
"ฉันก็พูดไปอย่างนั้น"
"ก็พูดไม่คิดแบบนี้ไง มันน่าจับตีซะให้เข็ด" ร่างสูงคาดโทษ
"จะตีผู้หญิงเนี่ยนะ คุณมันไม่ใช่สุภาพบุรุษ!" นางแบบสาวแกล้งโวยวายเสียงสูง ทว่าคนฟังกลับยิ้มกว้าง แล้วโน้มใบหน้าลงบอกเธอใกล้ๆ
"ตีด้วยปากครับ"
ความเงียบก่อตัวขึ้นระหว่างทั้งคู่ทันทีที่เขาพูดจบ แถมสายตาเจ้ากรรมของเธอดันเหลือบไปมองที่ริมฝีปากเขาซะงั้น
โอ๊ยย... สติ!
"สรุปจะเอายังไงกันล่ะสองคนนี้ จะให้พี่ชายฉันเป็นผัวน้อยแก หรือจะให้เขาตีแกด้วยปากก่อนดีคะ คุณเพื่อน"
เจนนิษฐ์ที่ยังไม่ได้คำตอบชัดเจนรีบขยี้อย่างรู้งาน พลางส่งสายตาล้อเลียนไปให้เพื่อนรักที่ยังไม่รู้ตัวว่าตอนนี้ตนเองหน้าแดงขนาดไหน
"ฉัน..." นางแบบสาวลากเสียงยาว แล้วหันไปมองคนตัวโตที่กำลังส่งยิ้มทะเล้นมาให้ "โอเค"
"สรุปว่าเป็นผัวเมียกันแล้วเนอะ" แม่สื่อกล่าวรวบรัด
"พูดให้มันเคลียร์ด้วยค่ะ นี่แค่การแสดง" อันตารีบแย้ง
"แต่ถ้าเรื่องจริง ฉันก็โอเคนะ"
"แต่ฉันไม่โออะ"
"พูดแบบนี้อีกแล้ว เดี๋ยวผมก็ตีด้วยปากจริงๆ ซะเลยนี่" จินเจษฎ์แกล้งขู่ พร้อมกับยื่นใบหน้าหล่อเหลาเข้ามาใกล้จนปลายจมูกชนกัน
"ฮื้ออ...อ! ไอ้เจน พี่แกแกล้งฉัน" หญิงสาวฟ้อง
"ผมเปล่านะ"
อันตารีบเบนหน้าหนีจากคนยียวน ก่อนที่เธอจะเผลอใจเต้นแรงไปมากกว่านี้ แล้วปล่อยให้คนต้นเรื่องเป็นฝ่ายอธิบายแผนการทั้งหมดให้เขาฟังแทน
"พี่จินต้องย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านไอ้อัน"
"แค่นี้หรอ" เขาถาม
"นอนห้องเดียวกัน"
"อือ" ทหารหนุ่มส่งเสียงตอบรับเบาๆ แล้วหันไปมองนางแบบสาวที่ยืนหันหน้าเข้ากำแพง
"เตียงเดียวกันเลยนะ" เจนนิษฐ์ย้ำ
"อย่ามาตลกไอ้เจน ห้องฉันมีโซฟาอันตั้งกว้าง พี่แกนอนได้สบายอยู่แล้วแหละ" เธอบอก แล้วส่งค้อนไปให้เพื่อน
"แล้วแกจะให้แขกนอนที่โซฟาหรออัน"
"งั้นให้เขานอนเตียง ฉันนอนโซฟาเองก็ได้"
"ผมนอนโซฟานั่นแหละดีแล้ว" ชายหนุ่มพูดขึ้น แล้วส่งยิ้มหวานให้ว่าที่เพื่อนร่วมห้อง
"แล้วก็อย่าไปตีกันให้คนอื่นเห็นล่ะ" เจนนิษฐ์บอกอย่างรู้ทัน
"มันก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์" อันตาว่า
"ไอ้บ้า! แบบนั้นแผนก็แตกหมดสิยะ"
"ถ้าพี่แกไม่กวนประสาทกันก่อน ฉันก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก" นางแบบสาวเอ่ย แล้วมองค้อนใส่คนตัวโตที่ยังล้อเลียนเธอผ่านทางสายตาไม่เลิก
"เชื่อมือพี่จินเหอะน่า"
"ฉันจะเชื่อเขาได้แค่ไหนกัน" หญิงสาวถามกลับอย่างไม่เกรงใจ
"ไม่ต้องเชื่อกันตอนนี้หรอกครับ ผมว่าคุณลองพิสูจน์ด้วยตัวเองดีกว่า" จินเจษฎ์ว่าพลางยักคิ้วใส่คู่สนทนาเป็นเชิงท้าทาย ก่อนที่เขาจะหันไปสั่งอะไรบางอย่างกับญาติผู้น้อง
"อย่าพึ่งให้อานิตรู้เด็ดขาดว่าพี่กลับมา"
"ได้แผลมาอีกแล้วหรือไง" เจนนิษฐ์ถามหน้าเครียด
"นิดหน่อย" ทหารหนุ่มตอบเสียงเรียบ ราวกับเรื่องเจ็บตัวเป็นเรื่องปกติสำหรับเขา
"เดี๋ยวแม่ก็ต้องรู้อยู่ดี ถ้าเห็นรถพี่จินจอดอยู่หน้าบ้าน"
"เอาไปจอดบ้านเพื่อนแล้ว" เขาบอก
"อาการหนักแค่ไหนล่ะ คราวนี้"
"นัดเดียว"
อันตาเผลอมองสำรวจร่างกายของเขาเพื่อหาแผลที่ว่า และดูเหมือนว่าเจ้าของร่างสูงจะรู้ตัวแล้ว เขาจึงชี้นิ้วไปที่สีข้างทางด้านขวาของตัวเองเพื่อบอกตำแหน่ง
"ตรงนี้ครับ"