บทที่ 4
บทที่ 4
ผัวน้อย!
เมื่อได้ยินเสียงตอบรับมาจากทางด้านล่าง เจนนิษฐ์ก็ไม่รอช้าที่จะวิ่งลงไปทันควัน ทำให้เพื่อนรักต้องวิ่งตามไปติดๆ ก่อนที่คนคิดแผนจะออกปากชวนเขามาร่วมแผนการนี้ โดยไม่ถามความสมัครใจของเธอเลยสักนิด
"พี่จินสนใจมาเป็นผัวน้อยของไอ้อันไหม"
"หา !?" คนถูกชวนอุทานด้วยความงุนงง แล้วมองเลยไปยังนางแบบสาวที่วิ่งตามญาติของเขาลงมาจากชั้นบน
"ผัวน้อยไงพี่จิน ช่วยมา... อุ๊บ! อ๊อยอ่ะ"
มือเรียวยกขึ้นมาปิดปากคนที่ตั้งท่าจะพูดย้ำอีกครั้ง แม้จะรู้ว่ามันไม่ทัน เพราะเพื่อนรักหลุดปากพูดออกไปแล้วก็เถอะ
"ไม่มีอะไรหรอกคุณ ไอ้เจนมันเพ้อเจ้อ" อันตารีบแก้ และพยายามลากเพื่อนกลับขึ้นไปข้างบนตามเดิม
"แล้ว... 'ผัวน้อย' มันคืออะไร" ร่างสูงถาม
"ผัวน้อยก็คือผัวน้อยนั่นแหละค่ะ"
เธอยืมวิธีการตอบคำถามกวนประสาทของเขามาใช้ชั่วคราว และคลี่ยิ้มกว้างเป็นการตบท้าย เมื่อเห็นว่าคู่สนทนาทำหน้าเหวอขนาดไหน หลังจากที่ได้รับคำตอบนั่น
"ทำไมต้องมีผัวน้อย" เขาถามต่อ
"ไอ้เจนมันก็พูดไปอย่างนั้นแหละคุณ อย่าไปใส่ใจเลย เนอะไอ้เจนเนอะ" หญิงสาวบอกปัด แล้วหันมาขอความเห็นจากคนที่โดนปิดปากอยู่ ทว่าเพื่อนรักก็ให้ความร่วมมือดีมาก ด้วยการ...
ส่ายหน้า!
"แต่เจนบอกว่าไม่ใช่นะ"
"เอ๊ะ! แต่ฉันบอกว่าใช่ก็ใช่สิ" ร่างบางบอกอย่างหัวเสีย เพราะเธอกำลังสู้แรงของเพื่อนไม่ไหว
"ผมว่าคุณปล่อยให้เจนพูดเหอะ ยื้อกันไปยื้อกันมาแบบนี้ เดี๋ยวก็ตกบันไดทั้งคู่หรอก"
"ไม่เอา!" อันตาปฏิเสธเสียงดัง
และสุดท้ายก็เป็นอย่างที่เขาว่า...
"ว๊ายย...ย!"
ร่างบอบบางที่เหยียบขั้นบันไดอย่างหมิ่นเหม่เซพรวดลงมาอย่างไร้การควบคุม ทว่าคนตัวโตที่ยืนอยู่ด้านล่างก็ก้าวเข้ามารับร่างของเธอได้อย่างหวุดหวิด
ตุบ!
เสียงศีรษะเล็กกระแทกเข้ากับแผงอกแน่น เป็นเหตุให้คนในอ้อมกอดเบ้หน้าเล็กน้อย ก่อนจะผละออกจากวงแขนของเขา
"ขอบคุณ"
แชะ!
สิ้นเสียงกล่าวคำขอบคุณของนางแบบสาว เจ้าของบ้านที่เป็นตัวตั้งตัวตีในแผนการรักก็จัดการลั่นชัตเตอร์เพื่อเก็บภาพความประทับใจเอาไว้อย่างรวดเร็ว
"ทำอะไรน่ะ ไอ้เจน!"
"ถ่ายรูปแกไง" คนต้นเรื่องตอบ พร้อมกับอวดภาพที่ถ่ายไว้ให้เพื่อนดู
"ลบ!"
"ไม่เอาหรอก ฉันจะเก็บไว้จิ้นตอนเขียนนิยายเรื่องของแกกับ 'ผัวน้อย' ยังไงล่ะจ๊ะ เพื่อนเลิฟ" เจนนิษฐ์บอกด้วยดวงตาเป็นประกาย ก่อนจะมองเลยไปยังญาติผู้พี่ของตน
"พี่จินช่วยเป็นผัวน้อยให้เพื่อนเจนหน่อยสิ"
"ตลก!" ชายหนุ่มตอบกลับทันควัน
"ไม่ตลกนะ เจนพูดจริง"
"พอได้แล้วไอ้เจน แกพูดขนาดนี้ แล้วฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนวะเนี่ย" อันตาปราม พลางยกมือขึ้นมาปิดหน้าเพื่อซ่อนความอาย
"แกไม่ต้องอายหรอกน่า พี่จินไม่ใช่คนปากสว่าง"
"โอ๊ยย...ย! แกจะไม่ให้ฉันอายได้ยังไง แกขอให้เขามาเป็นผัวน้อยฉันโต้งๆ แบบนี้เนี่ยนะ เห็นแก่หน้าเพื่อนแกบ้างเถอะ" หญิงสาวตอบเสียงเครียด ทว่าเธอกลับได้ยินเสียงหัวเราะดังมาจากคนข้างตัว จนต้องเงยหน้าขึ้นมองเขา
"หัวเราะอะไรคะ"
"หัวเราะคนอยากมีผัวน้อย" จินเจษฎ์ตอบกลั้วหัวเราะ เป็นเหตุให้เขาโดนค้อนเข้าโครมใหญ่
"ฉันไม่ได้อยากมี!" เธอแก้
"แล้วใครอยากมี เจนหรอ..." ทหารหนุ่มถามพลางเงยหน้าขึ้นไปมามองน้องสาวของตนที่ยังยืนอยู่กลางบันได "ให้มันหาผัวหลวงให้ได้ก่อนเถอะ"
อันตาเผลอหลุดยิ้มออกมาอย่างลืมตัว เมื่อได้ยินเขาล้อเลียนลูกพี่ลูกน้อง และกว่าเธอจะหุบยิ้มลงได้ ก็เป็นฝ่ายถูกเขายิงคำถามมาให้ซะแล้ว
"ว่าแต่คุณเถอะ ทำไมถึงอยากมี... ผัวน้อย"
คนถูกถามเงียบกริบ เพราะไม่รู้จะตอบคำถามนี้ยังไง เป็นเหตุให้คนที่ตั้งตัวเป็นแม่สื่อแม่ชักรีบชิ่งอธิบายที่มาที่ไปของเรื่องทันควัน
"คืออย่างนี้นะพี่จิน ผัวไอ้อันพาเมียน้อยเข้าบ้าน แถมยังมีลูกด้วยกันอีกแน่ะ ตอนนี้เด็กอายุเกือบสองขวบแล้วด้วย ถ้านับตามเวลาที่แต่งงานกัน เหมือนเมียน้อยจะท้องตั้งแต่ตอนที่ไอ้อันมันยังไม่ได้แต่งงานกับเขาด้วยซ้ำ"
"แล้วทำไมไม่หย่า" ทหารหนุ่มถามเสียงเรียบ และเลื่อนสายตามามองคนข้างตัวอย่างคาดคั้น
"แต่งงานกันเพราะธุรกิจครอบครัวน่ะ มันกลัวหย่าแล้วผู้ใหญ่จะผิดใจกัน" เจนนิษฐ์เป็นฝ่ายตอบแทนเพื่อนอีกครั้ง
"แล้วคุณทนได้หรอ" เขาถาม
"ทนได้ก็บ้าแล้วสิคุณ!" อันตาตอบเอง
"ทนไม่ได้ก็ไปบอกผู้ใหญ่สิ คุณไม่จำเป็นต้องทนกับคนอย่างเขา"
"บอกไปคุณก็ไม่เข้าใจหรอก ธุรกิจครอบครัวของเราจำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยกัน เผลอๆ ผู้ใหญ่จะมองว่ามันเป็นเรื่องปกติด้วยซ้ำที่เขาจะมีเมียน้อย"
"แต่มันไม่ใช่เรื่องปกติ" เขาแย้งเสียงเข้ม และเริ่มรู้สึกเห็นใจเธอ จนอยากจะดึงคนตรงหน้าเข้ามากอดปลอบด้วยซ้ำ
...ถ้าไม่ติดว่ามีก้างชิ้นใหญ่ยืนทำหน้าแป้นแล้นอยู่กลางบันไดนั่นน่ะนะ
"ฉันกับเขาแต่งงานกันมาสองปีแล้ว แต่เราไม่มีลูกด้วยกัน ในขณะที่เมียน้อยมี คุณลองคิดดูสิ ถ้าพวกผู้ใหญ่อยากอุ้มหลาน เขาก็ต้องมองว่ามันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว" อันตาบอกอีกเรื่องที่เธอคิด แล้วขยับไปยืนพิงกำแพงอย่างหาที่พึ่ง
"อย่างน้อยคุณก็ควรจะบอกที่บ้านคุณนะ"
"ฉันบอกไม่ได้"
"ทำไม" ชายหนุ่มถาม
"เขาขอเวลาาจากฉัน หมายถึงไอ้ผู้ชายเฮงซวยนั่นน่ะ เขาบอกว่าเขาจะบอกผู้ใหญ่เอง เมื่อเขาพร้อม"
"แล้วทำไมคุณถึงได้ยอมเสียเปรียบขนาดนั้น"
นางแบบสาวเงยหน้าขึ้นมามองคนถามด้วยหัวใจที่อุ่นวาบอย่างประหลาด และนั่นอาจเป็นผลของรังสีความห่วงใยที่เธอสัมผัสได้จากน้ำเสียงของเขา
"ฉันมีทางเลือกไม่เยอะหรอกนะ ฉันกลัวโดนตัดออกจากกองมรดกของป๊าด้วยแหละ" อันตาบอก ก่อนจะคลี่ยิ้มเจื่อนๆ ให้เขา
"พ่อคุณคงไม่ใจร้ายหรอกมั้ง"
"จะให้ฉันบอกป๊าว่าที่ฉันไม่มีลูก เพราะฉันไม่เคยนอนกับพี่เอกเลยอย่างนั้นหรอคุณ ป๊าได้เอาค้อนมาทุบหัวฉันแบะพอดีสิ" หญิงสาวบอก โดยละเว้นเรื่องที่เธอเอายาจีนให้หมากินไว้ ไม่อย่างนั้นล่ะก็...
เรื่องเครียดของเธอได้กลายเป็นจังหวะซิทคอมกันพอดี
"พ่อคุณเขาไม่ทำแบบนั้นหรอก"
"ทำแน่ล่ะ ถ้าป๊าขาดทุน" อันตาบอก
"คุณก็เลยต้องมีผัวน้อย ?"
"ใช่"
จินเจษฎ์หัวเราะไม่มีเสียง ก่อนที่เขาจะพยักหน้ารับคำตอบของเธอ แล้วเอื้อมมือไปวางลงบนไหล่มนของคนตรงหน้า
"ผมว่างนะ"