บทที่ 4.(พ่อเลี้ยงศรัน)
สามีปีมะเมีย(สามีปีนักษัตร)
บทที่ 4.(พ่อเลี้ยงศรัน)
"จิ๊!" ชายหนุ่มจิ๊ปากอย่างขัดใจ รู้สึกระคายหูเล็กน้อยกับคำพูดของหญิงสาว
เมื่อหมดความอดทน มือแกร่งจึงดึงใบหน้านวลรับจุมพิตของเขา นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มราวกับมีมนต์สะกดให้ไอรินมองตอบ เปลือกตาค่อย ๆ ปิดลง ยอมรับรสสัมผัสของอีกฝ่ายอย่างเต็มใจ
เรียวปากหยักสวยเคล้าคลึงขยับหยอกเย้าจนไอรินยอมตอบสนอง ริมฝีปากอุ่นร้อนหากให้ความรู้สึกหวานล้ำเชิญชวนให้หญิงสาวเป็นฝ่ายขยับตัวเข้าหา และเป็นฝ่ายเรียกร้องดูดดึงความหอมหวานนั้นเข้าสู่โพรงปาก ชายหนุ่มครางพอใจปล่อยให้เธอลิ้มรสตามต้องการ
"เราต้องไปกันแล้ว" น้ำเสียงนุ่มทุ้มอ่อนลง
"ขออีก... นะ" เสียงหวานออดอ้อนแบบที่เธอไม่เคยทำมาก่อน แม้เจ้าตัวยังแปลกใจ แต่ห้ามปรามมันไม่ได้
"ไม่ไปหาพ่อเลี้ยงแล้วรึไง?"
"ไป... แต่เดี๋ยวก่อน" มือบางยกขึ้นเกลี่ยริมฝีปากหวานที่เธออยากลิ้มลองอย่างเผลอไผลอีกครั้ง
ชายหนุ่มยิ้มละมุน ยอมทำตามคำขอของหญิงสาวแต่โดยดี เขาหันมองไอรินได้เพียงครู่เดียว ริมฝีปากร้อนชื้นของเธอก็ตามเข้าประกบลิ้มรสดูดดึงราวกับไม่รู้จักคำว่าอิ่ม จนเขาเองต้องเป็นฝ่ายร้องขออากาศหายใจ
"เดี๋ยว..."
"เร็ว ๆ สิ อย่าหยุด" หญิงสาวเร่ง ไขว่คล้าลำคอแกร่งโน้มเข้าหาอย่างลืมตัว
"ใจคอเธอจะให้ฉันขาดอากาศหายใจตายหรือยังไง ทีเมื่อครู่นี้ทำเป็นรังเกียจ"
ไอรินพลันรู้สึกตัว สติที่หลุดลอยไปไกลของเธอคืนกลับมา ใบหน้าหวานบัดนี้แดงก่ำ แต่ไม่รู้เป็นเพราะเขินอายหรือโมโหกันแน่
"ไอ้คนฉวยโอกาส!" ไอรินต่อว่า มือบางยกขึ้นเตรียมจะฟาดเข้าที่ใบหน้าคร้ามคมของอีกฝ่าย หากแต่ต้องชะงักเพราะคำขู่
"ตบหนึ่งทีจะจูบหนึ่งครั้ง ถ้าตบสองครั้งจะจูบทั้งตัว แต่ถ้าตบสามครั้งจะจับทำเมียให้รู้แล้วรู้รอด อยากเลื่อนขั้นแบบไหนก็เลือกเอา"
หญิงสาวอ้าปากค้าง วาจาหื่นห่ามของเขาทำให้เธอแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี และส่งค้อนให้อีกฝ่ายตาคว่ำ ทำเอาคนมองถึงกับอมยิ้ม
"ไม่ต้องทำท่าขึงขังกลบเกลื่อนความอายหรอกน่า ว่าแต่เธอพร้อมจะไปเจอพ่อเลี้ยงรึยัง หรือยังอยากจะชิมความหวานจากปากของฉันอยู่ เมื่อครู่นี้ถึงกับร้องขอเลยนี่ จะเอาอีกไหม?"
"นาย!"
"จ๋า... ว่ายังไง อยู่ใกล้แค่นี้ ไม่เห็นต้องตะโกนเลย หูจะแตกอยู่แล้ว" ชายหนุ่มมาดกวนลอยหน้าลอยตาสวนกลับ น้ำเสียงหวานหยดชวนให้ขนลุกนั่นกระตุ้นให้คนฟังเกิดความต้องการอยากประทุษร้ายขึ้นมาติดหมัด แต่ติดตรงที่ถูกเขาขู่ไว้ เธอจึงทำได้เพียงกำหมัดตัวสั่นเทิ้ม
"นั่งดี ๆ จะพาไปหาพ่อเลี้ยงศรันเดี๋ยวนี้แหล่ะ บอกเลยว่าถ้าเธอเจอเขา เธอจะต้องตกใจ"
น้ำเสียงติดเล่นเมื่อครู่นี้เปลี่ยนเป็นเข้มจัด ก่อนที่เจ้าตัวจะหันไปสตาร์ทรถแล้วเคลื่อนตัวออกทันที
ชายหนุ่มเลี้ยวรถไปตามถนนเส้นเล็ก ที่สองข้างทางเต็มไปด้วยสวนส้ม แต่เมื่อรถวิ่งมาได้สักครู่ สวนส้มก็เปลี่ยนเป็นสวนผัก ไร่องุ่น และมีสัตว์ประเภทวัวและม้าซึ่งมีมากมายสมกับชื่อไร่อาชา และยังมีเรือนพักที่ปลูกสร้างไว้ประปรายซึ่งเป็นที่อยู่ของคนงาน
ไอรินทอดสายตามองไปรอบ ๆ บริเวณไร่ด้วยความรู้ชื่นชอบที่แห่งนี้ หญิงสาวมองด้วยความตื่นเต้น เพราะไม่เคยได้สัมผัสกับทิวทัศน์แบบนี้เท่าไหร่นัก จนกระทั่งชายหนุ่มขับรถมาจอดหน้าเรือนไม้สักหลังใหญ่ เขาดับเครื่องยนต์และก้าวลงจากรถ ในขณะที่ไอรินก็รีบตามลงมาเช่นเดียวกัน
ร่างสูงทำท่าจะก้าวเข้าไปในตัวบ้านโดยไม่สนใจหญิงสาวที่มาด้วย และนั่นก็ทำให้เธอต้องรีบพาตัวเองเข้าไปขวาง
"เดี๋ยวสิ นายบอกว่าจะพาฉันไปหาพ่อเลี้ยงศรันไง?" เธอถามเสียงห้วนด้วยความไม่พอใจ
"ก็กำลังจะพาไปหาอยู่นี่ยังไงล่ะ" ชายหนุ่มตอบ ก่อนพยักเพยิดใบหน้าเข้าไปในบ้าน
ไอรินครุ่นคิดว่าจะตามเขาไปดีไหม เพราะไม่มั่นใจว่าพ่อเลี้ยงศรันจะอยู่ในบ้าน ช่วงสายแบบนี้ไม่ใช่ว่าเขาออกไปทำงานในไร่แล้วเหรอ
"ตกลงจะเอายังไง จะไปหรือไม่ไป?" เสียงทุ้มเร่งมาอีก และเมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังยืนเฉย ร่างสูงก็ยักไหล่ขึ้นเล็กน้อย แล้วเดินดุ่ม ๆ เข้าบ้านไป ทิ้งให้เธอยืนอ้าปากค้างอยู่ตรงนั้น
ไอรินเดินวนไปวนมาอยู่หน้าบ้าน ขณะชะเง้อคอมองว่าเมื่อไหร่ร่างสูงจะเดินออกจากบ้านมาซะที แต่จนแล้งจนรอดหญิงสาวก็ไม่เห็นเขาแม้เงา
ในขณะที่ไอรินชั่งใจว่าควรเดินตามเขาเข้าไปดีหรือไม่ หน้าประตูบ้านก็ปรากฏร่างของหญิงวัยกลางคนก้าวออกมา
"พ่อเลี้ยงกำลังอาบน้ำอยู่ เข้าบ้านก่อนเถอะค่ะคุณ ตรงนี้แดดร้อน"
น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความอารีของหญิงวัยกลางคนทำให้ไอรินใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย และยอมเดินตามนางเข้าบ้านไปแต่โดยที
"คุณนั่งคอยตรงนี้ไปก่อนนะคะ อีกเดี๋ยวพ่อเลี้ยงคงลงมา เดี๋ยวป้าจะไปเอาน้ำมาให้ค่ะ"
หญิงวัยกลางคนพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนเดินหายไปยังประตูที่เชื่อมต่อกับห้องนี้ สักพักนางก็ออกมาอีกครั้งพร้อมแก้วน้ำในมือ
"ป้าจะเข้าไปทำงานในครัว คุณต้องการอะไรก็เรียกป้าได้นะคะ" นางพูดขึ้นอีก ก่อนส่งยิ้มเอ็นดูให้หญิงสาว ขณะที่ไอรินพยักหน้าน้อย ๆ จากนั้นหญิงวัยกลางคนจึงเดินกลับเข้าไปยังประตูนั้นอีกครั้ง ส่วนไอรินรอคอยการปรากฏตัวของพ่อเลี้ยงศรันอย่างใจจดใจจ่อ
ผ่านไปสักพัก ร่างสูงของคนที่พาไอรินมายังบ้านหลังนี้ก็ฮัมเพลงเป็นทำนองสากลเบา ๆ ขณะเดินลงบันไดมาพร้อมแฟ้มเอกสารในมือ หญิงสาวเห็นแบบนั้นก็รีบเข้าไปขวางหน้าเขาทันที
"ไหนล่ะพ่อเลี้ยงศรัน ฉันรอนานแล้วนะ เมื่อไหร่นายจะพาฉันไปหาท่านสักที"
ไอรินเอ่ยถามอย่างหัวเสีย จนป่านนี้เธอก็ยังไม่ได้พบคนที่อยากพบ ส่วนคนที่ไม่คิดว่าจะได้พบได้เจอกลับลอยหน้าลอยตาโผล่มาปั่นหัวเธอไม่หยุดหย่อน ถ้าให้เธอเดา อีตานี่คงเป็นลูกชายหรือไม่ก็หลานของพ่อเลี้ยงศรันสินะ ถึงได้ลอยชายไม่ทำงานทำการแบบนี้
"ฉันนึกว่าเธอเจอเขาแล้วซะอีก" อีกฝ่ายยักคิ้วขึ้นด้วยมาดสุดกวน ก่อนเอ่ยคำถามที่ทำให้หญิงสาวหัวร้อนมากขึ้น
"ฉันจะเจอเขาได้ที่ไหนล่ะ ในเมื่อนายพาฉันมาทิ้งไว้ที่นี่แบบนี้" ไอรินขึ้นเสียงด้วยความโมโห ซึ่งอีกฝ่ายไม่ได้อนาทรร้อนใจกับท่าทางของเธอเลยสักนิดเดียว
"อยากเจอพ่อเลี้ยงศรันมากหรือ?" ชายหนุ่มถาม โน้มใบหน้าลงมาจนชิด หญิงสาวถึงกับผงะถอยหลังห่างไปสองก้าว
"อ้าว!... พ่อเลี้ยง จะเข้าไร่แล้วเหรอคะ จะรับกาแฟสักถ้วยไหม เดี๋ยวป้าไปชงให้"
เสียงของหญิงวัยกลางคนดังขึ้นขัดจังหวะปะทะคารมของทั้งคู่ ขณะที่ไอรินหันมองใบหน้าคร้ามคมเหมือนไม่อยากเชื่อ จนต้องหันไปถามหญิงวัยกลางคนเพื่อความแน่ใจ
"ป้าคะ เมื่อกี้นี้ป้าเรียกเขาว่าอะไรนะคะ?"
"ก็เรียกพ่อเลี้ยงน่ะสิคะ" หญิงวัยกลางคนตอบตามประสาซื่อ ส่วนไอรินอ้าปากค้าง มองชายหนุ่มที่กำลังพยายามกลั้นหัวเราะหน้าดำหน้าแดงด้วยแววตาเอาเรื่อง
"ขอแนะนำอย่างเป็นทางการครับคุณผู้หญิง ผม... คือพ่อเลี้ยงศรัน เจ้าของไร่อาชาตัวจริงเสียงจริง"
ไอรินมองคนหน้ามึนอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ หากมีมีดอยู่ในมือเธอคงแล่เนื้อเถือหนังของเขาแล้วเอาเกลือทาไปแล้ว ยิ่งพ่อเลี้ยงหนุ่มยกยิ้มขึ้นตรงมุมปากราวกับต้องการยั่วอารมณ์ของเธอ ไอรินก็แทบจะกรีดร้องออกมาให้สาสมกับความคับแค้นใจที่มีเขาเป็นผู้ก่อ ผู้ชายอะไรหน้าหนาไม่พอ ยังกวนประสาทเป็นที่หนึ่งอีกด้วย
"ฉันไม่มีเวลามาฟังเธอต่อว่าหรอกนะ ฉันจะให้ป้าแก้วจัดห้องให้เธอ และหลังจากที่ฉันกลับมาจากประชุมคนงานในไร่แล้ว เราจะมาคุยเรื่องอนาคตของเธอกันอีกที"
พ่อเลี้ยงหนุ่มปรับโหมดให้เข้มขึ้นอีกครั้ง ก่อนเอ่ยพูดกับ 'นางแก้ว' แม่บ้านของเรือน ขณะที่สายตาคมเข้มจ้องใบหน้าหวานซึ้งนิ่งนาน
"ป้าแก้วช่วยจัดห้องให้เธอที และถ้างานในบ้านหนักเกินไป ก็เรียกให้เธอช่วย อยู่ที่นี่เราอยู่กันอย่างพี่น้อง มีอะไรก็ต้องช่วยกัน"