บท
ตั้งค่า

บทที่ 16 น้าเล็กน่าสงสารจัง

อย่างที่ซูหลิงพูด หุบเขาเล็กๆ แห่งนี้แห้งแล้งและรกร้าง

เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่า สถานที่ที่อยู่ห่างกันเพียงร้อยเมตรจะมีความแตกต่างกันมากขนาดนี้

“ท่านดูสิ ข้าบอกแล้วว่าในนี้ไม่มีอะไร”

ซูหลิงพูด กำลังจะจูงมือพาซูเสี่ยวหว่านออกไป "ไปเถอะท่านพี่ ข้าจะพาท่านไปตามหาลูกสีแดงปลายแหลม"

ซูเสี่ยวหว่านมองไปที่วัชพืชข้างใน ทันใดนั้นดวงตาก็สว่างขึ้น "ที่นี่มีหญ้าเผิงเผิงเยอะแยะเลย"

“ใช่ ที่นี่มีหญ้าเผิงเผิงเต็มไปหมด มีอะไรแปลกงั้นหรือ?”

ในสายตาของคนอื่น หญ้าเผิงเผิงนี้เป็นเพียงวัชพืชธรรมดา แต่ซูเสี่ยวหว่านรู้ดี หญ้าชนิดนี้เมื่อนำไปเผาจนเป็นเถ้าก็จะกลายเป็นสารเติมแต่งอาหาร

ในสังคมยุคปัจจุบัน หลานโจวราเมนซึ่งมีขายทั่วประเทศ จะต้องเติมสารเติมแต่งอาหารที่เรียกว่าเถ้าเผิง เพื่อทำให้บะหมี่มีความเหนียวนุ่มมาก

การผลิตแบบโบราณมีจำกัด แป้งสาลีที่บดออกมายังคงมีสิ่งสกปรกปนอยู่มาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแป้งธัญพืชผสมเหล่านั้น มันเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ออกมามีเนื้อสัมผัสที่เหนียวหนึบ ถ้าเติมเถ้าเผิงเข้าไป ก็ไม่เหมือนเดิมแล้วน่ะสิ?

นางไม่เคยลองมาก่อน แต่ตอนนี้สามารถทดลองได้แล้ว

ซูเสี่ยวหว่านรู้สึกโชคดีที่ชีวิตก่อนนางเรียนเกษตรศาสตร์มา ถ้าไม่ได้เดินทางตะลอนๆ ไปหลายที่กับอาจารย์ นางคงจะไม่รู้เรื่องเหล่านี้

ในชีวิตก่อนตอนที่นางเรียนเรื่องเถ้าเผิงอะไรพวกนี้ ก็ได้ตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องและวิธีการผลิตเฉพาะอย่างถี่ถ้วน

ที่มีหญ้าเผิงเผิงเยอะมาก สามารถนำมาทดลองทำดูได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับเถ้าเผิงแล้ว พริกก็ค่อนข้างสำคัญมากกว่า ถึงอย่างไร แม้ว่าจะทำบะหมี่เย็นของซีเป่ยได้จริงๆ แต่ถ้าไม่มีน้ำมันพริกมันก็ไม่อร่อย

ซูหลิงเห็นซูเสี่ยวหว่านทำท่าทางมีความสุขมาก แต่ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมการเห็นกองหญ้าแห้งๆ จึงทำให้นางมีความสุขมากขนาดนี้

“ท่านพี่ ท่านเห็นกองหญ้าแห้งๆ แล้วมีความสุขขนาดนี้ หรือว่าสิ่งนี้มีราคา?”

“แน่นอน ทุกสิ่งในโลกล้วนมีประโยชน์ และเนื่องจากมีประโยชน์จึงมีราคา”

ซูหลิงขมวดคิ้ว “แต่หญ้าแห้งพวกนี้ใช้ทำอะไรได้เล่า?”

ซูเสี่ยวหว่านยิ้มอย่างลึกลับ "ไว้วันหลังค่อยบอกเจ้า ตอนนี้ไปหาพริกกันเถอะ"

หลังจากเดินไปสักพัก ก็เจอพริกจริงๆ แต่มันมีไม่มาก

แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย ไว้ค่อยเอากลับไปปลูก รอดูเถอะมันจะงอกได้กี่ต้น

คนทั้งสามรีบช่วยกันเก็บพริกทั้งหมดที่อยู่ละแวกนั้น ดูเหมือนจะมีน้ำหนักมากกว่าสองชั่ง ซูเสี่ยวหว่านพอใจมาก

“เอาล่ะ เรากลับกันเถอะ”

ซูหลิงดมนิ้ว ตอนที่เก็มเมื่อครู่นางทำหักไปอันหนึ่ง ทำให้มีกลิ่นฉุนติดมือ "ท่านพี่ สิ่งนี้กินได้จริงๆ หรือ?"

“แน่นอน เดี๋ยวพี่ทำเสร็จแล้วเจ้ามาลองกินก็จะรู้”

ซูเสี่ยวหว่านตักน้ำจากแอ่งน้ำเล็กๆ ข้างๆ มาล้างมือให้นาง “มือที่เก็บพริก ถ้ายังล้ามไม่สะอาดห้ามขยี้ตาเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะทรมานไปอีกนาน”

ซูหลิงพยักหน้า “เข้าใจแล้ว”

หลังจากเก็บพริกแล้ว พวกเขาก็เริ่มเดินกลับ วันนี้ทั้งสามเก็บเกี่ยวได้มากมาย ซูเสี่ยวหว่านก็อารมณ์ดีมาก

ครั้นแล้วก็บังเอิญเหลือบมองเข้าไปในป่า เห็นสาลี่บนต้นไม้จำนวนมาก

“โอ้ สาลี่เยอะมาก แต่ทำไมไม่มีใครมาเก็บ ก่อนหน้านี้ข้าก็เห็นเด็กในหมู่บ้านวิ่งมาเก็บจากที่นี่ไปเล่น”

“ท่านพี่ ท่านลืมไปแล้วหรือ สิ่งนั้นเปรี้ยวจนเข็ดฟัน จะกินมันได้อย่างไร”

ซูเสี่ยวหว่านวิ่งไปเก็บมาลูกหนึ่ง เช็ดฝุ่นแล้วจึงกัด

แม้ว่าจะได้เตรียมจิตใจไว้แล้ว แต่เมื่อกัดสิ่งนี้เข้าปาก ก็ทำให้ซูเสี่ยวหว่านรู้สึกเปรี้ยวจนน้ำตาเล็ด หน้าตาเหยเกบิดเบี้ยวไปหมด

“ฮ่าๆๆ”

“ฮ่าๆๆ”

สีหน้าของนางทำให้ซูหลิงและเสี่ยวหานหัวเราะจนตัวงอ

“ท่านพี่ ข้าบอกแล้วว่ามันเปรี้ยวมาก ทำไมท่านยังอยากกินอีก เด็กๆ ในหมู่บ้านนั้นไม่ธรรมดา ถ้าอร่อย จะเหลือไว้จนถึงตอนนี้หรือ?”

“ท่านแม่ สาลี่ที่นี่เปรี้ยวมาก ส้มก็เปรี้ยวเหมือนกัน แต่ส้มในหมู่บ้านส้มข้างๆ นั้นหวานมาก”

ซูเสี่ยวหว่านนึกได้แล้ว มีหมู่บ้านส้มอยู่ใกล้ๆ จริงๆ คนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแซ่จาง จึงเรียกว่าหมู่บ้านจาง แต่ต่อมาเพราะส้มที่หมู่บ้านนั้นมีชื่อเสียงมากขึ้น ทุกคนจึงเรียกว่าหมู่บ้านส้ม

ในที่สุดรสเปรี้ยวในปากของนางก็หายไป ซูเสี่ยวหว่านบีบลูกสาลี่ที่ถูกกัดคำหนึ่ง แล้วพูดว่า "อื้ม กินแบบนี้ก็เปรี้ยวเกินไปจริงๆ แต่ถ้าเอามาทำเป็นแยม อาจจะใช้ได้ก็ได้นะ"

“แยม? มันคืออะไรอีกหรือ?”

ซูหลิงรู้สึกว่าหลังจากที่ท่านพี่ของนางหายดีแล้ว ดูเหมือนนางจะรู้อะไรมากขึ้น เก่งขึ้นกว่าเดิมมากๆ

“อืม...” ซูเสี่ยวหว่านคิดอยู่พักหนึ่ง "ก็เหมือนกับถั่วที่สามารถเอามาทำเป็นเต้าเจี้ยวได้ แน่นอนว่าผลไม้ก็ทำเป็นแยมได้เช่นกัน สะดวกในการเก็บรักษา"

เมื่อเขาได้ยินคำว่าเต้าเจี้ยว ซูหลิงก็ขมวดคิ้ว นางไม่ชอบรสชาติของเต้าเจี้ยวมาก มักจะรู้สึกว่ามันมีกลิ่นเหมือนขึ้นรา ถ้าเอาผลไม้มาทำแบบนั้น จะยังกินได้หรือไม่?

“ไม่ต้องห่วง แยมผลไม้ไม่มีรสชาติแปลกเหมือนเต้าเจี้ยวหรอก มันมีรสเปรี้ยวอมหวาน ถูกใจเจ้าแน่นอน”

ซูหลิงกลืนน้ำลาย “ท่านพี่ ต่อไปท่านอย่าเล่าเรื่องพวกนี้ให้ข้าฟังดีกว่า พูดจนทำให้คนน้ำลายสอแต่กลับกินไม่ได้ อึดอัดจริงๆ”

ซูเสี่ยวหว่านเก็บสาลี่มาหลายลูก "ข้าจะเก็บไปก่อนเล็กน้อย ถ้ามันใช้ได้ พวกเราค่อยมาเก็บกันใหม่"

แม้ว่าในมหาวิทยาลัยจะเรียนเกษตรศาสตร์ แต่ก็ไม่รู้เรื่องของพืชทุกชนิด ยิ่งกว่านั้น ของบางอย่างในสมัยโบราณเมื่อพัฒนามาถึงยุคปัจจุบัน ก็เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากแล้ว

อย่างไรก็ตาม นางจำได้ว่านางเคยเห็นสาลี่ชนิดเดียวกันนี้ในหนังสือมาก่อน แม้ตอนเก็บมาแรกๆ จะไม่อร่อย แต่เมื่อบ่มคลุมไว้ด้วยผ้านวมไม่กี่วันก็จะทั้งนุ่มทั้งหวาน

นางเก็บไปลองดูก่อนว่าใช้ได้หรือไม่ ถ้าใช้ไม่ได้ค่อยเอาไปทำแยม

ตอนที่ยังอยู่ห่างจากหมู่บ้านไม่ไกล ซูเสี่ยวหว่านก็หาข้ออ้าง บอกให้ซูหลิงกลับไปก่อน

เสี่ยวหานจับมือซูเสี่ยวหว่าน "ท่านแม่ ท่านให้น้าเล็กกลับไปก่อน เพราะกลัวว่าถ้าท่านย่าทวดรู้เข้าจะดุน้าเล็กใช่หรือไม่?"

ซูเสี่ยวหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม "เสี่ยวหานฉลาดมาก"

คนร่างเล็กถอนหายใจยาว “น้าเล็กน่าสงสารจัง”

ซูเสี่ยวหว่านขมวดคิ้ว “ทำไมเจ้าถึงพูดแบบนั้น?”

นางรู้อยู่แล้วว่าชีวิตของซูหลิงนั้นยากลำบาก แต่แม้แต่เด็กเล็กก็ยังเห็นความน่าสงสารของนางเชียวหรือนี่

“ท่านย่าทวดไม่ชอบข้ากับท่านแม่ แต่เรามีบ้านของตัวเอง ไม่ต้องอยู่กับพวกเขา ไม่ชอบก็ไม่ชอบ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ แต่น้าเล็กไม่มีความสุขอยู่แท้ๆ แต่ยังต้องกลับไปที่นั่น ไม่น่าสงสารหรอกหรือ?”

ซูเสี่ยวหว่านก้มศีรษะลงมองไปที่เสี่ยวหาน เด็กเป็นผู้บริสุทธิ์และอ่อนไหวที่สุดจริงๆ แค่มองแวบเดียวก็รู้ว่าอีกฝ่ายชอบตัวเองหรือไม่

“เมื่อเสี่ยวหานคิดว่าน้าเล็กน่าสงสาร งั้นต่อไปก็ต้องทำดีกับน้าเล็กให้มากๆ นะ”

“แน่นอน” เสี่ยวหานเงยหน้าขึ้น “ท่านแม่ ให้น้าเล็กย้ายมาอยู่กับเราเถอะ แม้ว่าบ้านของเราที่นี่จะเล็ก แต่ถ้าอยู่ที่บ้านของเราก็ไม่ต้องถูกคนที่นั่นรังแก”

ซูเสี่ยวหว่านหย่อนกายลงนั่งต่อหน้าเสี่ยวหาน หยิบเศษหญ้าสองชิ้นออกจากผมของลูก

"แต่ว่า ถ้าน้าเล็กย้ายมาอยู่กับพวกเรา คนที่นั่นจะมาหาเรื่องเราแน่ๆ เจ้าไม่กลัวหรือ?"

“ไม่กลัว!” เสี่ยวหานพูดอย่างหนักแน่น “ท่านพ่อบอกว่า ลูกผู้ชายควรปกป้องคนสำคัญของตัวเอง ข้าเป็นผู้ชาย ต้องปกป้องท่านแม่กับน้าเล็ก”

เมื่อเห็นเด็กน้อยยืดอกขึ้น ซูเสี่ยวหว่านก็ใจอ่อนยวบ “ได้ รอให้แม่หาเงินได้มากกว่านี้ จะรับน้าเล็กมาอยู่กับเรา พวกเราต้องใช้ชีวิตให้ดีก่อน ถึงจะมีความสามารถทำให้น้าเล็กมีชีวิตที่ดีได้ ถูกหรือไม่?”

“อื้อ” ดวงตาของเด็กน้อยเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “ข้าจะช่วยท่านแม่ทำงาน จะตั้งใจเรียนด้วย ในภายหน้าจะทำให้ท่านแม่มีชีวิตที่ดี”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel