5 ข้าไม่เคยทำร้ายผู้หญิง
เสียงถอนใจหนักๆ ดังขึ้น นารีอดที่จะเหลือบมองใบหน้าเข้มไม่ได้ หลังจากพิจารณาชั่วครู่ รู้ว่าเป็นผู้ชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาคนหนึ่ง น่าเสียดายที่มาหลบซ่อนอยู่ในถ้ำ โดยไม่ยอมออกไปดูโลกภายนอก อยากรู้เหลือเกินว่ายังมีคนที่กระทำตัวเหมือนเขาอยู่ในบริเวณนี้อีกหรือไม่
สายลมเย็นที่พัดกรูเข้ามาจากปากถ้ำ ช่วยให้นารีรู้สึกโล่งสบายมากกว่าเดิม บุรุษลึกลับผู้มีสีหน้าเรียบเฉยก้มลงมามองเธออีกครั้ง
“ข้าไม่รู้จัก ถ้าเจ้าไม่กินเนื้อดิบข้าจะเอาผลไม้มาให้ ลงไปจากถ้ำทางด้านซ้ายข้าเห็นกล้วยกำลังสุกได้ที่ รอประเดี๋ยวเดียวก็แล้วกัน”
พร้อมๆ กับร่างใหญ่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ความกำยำแข็งแรงเหมือนคนออกกำลังกายเป็นประจำ จึงเป็นชายหนุ่มที่มีเรือนร่างสวยงามไม่น้อย
“ขอบคุณมากค่ะที่กรุณา”
หญิงสาวยิ้มหวานส่งไปให้ เวลานี้เธอได้แต่รอให้ร่างกายหายดีเสียก่อน แล้วจะย่างไก่ให้เขากิน เชื่อว่าจะต้องติดใจไก่ป่าสดๆ เมื่อนำมาถอนขน ล้างทำความสะอาดให้ดี เอาไม้ไผ่ เสียบเข้าไป จากนั้นนำมาย่างไฟ แม้ไม่ได้คลุกด้วยเครื่องปรุงรส แต่จะมีความหอมหวานตามธรรมชาติ
บุรุษกลางไพร หายออกไปเพียงครู่เดียว ทิ้งให้นารีนอนลืมตาเพียงลำพัง กระทั่งกลิ่นสาบสางโชยมาตามลม เธอรู้ว่าเขากำลังเข้ามาและก็เป็นจริง ร่างใหญ่เดินเหมือนย่องเข้ามาใกล้ๆ น่าแปลกทำไมเวลาย่างก้าวแต่ละครั้ง ไม่มีเสียงดังให้ได้ยิน
“ป่าแห่งนี้มีผลไม้ที่กินได้ไม่กี่อย่างหรอก แต่ข้าจะพยายามหามาให้เจ้ากินจนอิ่ม”
“ขอบคุณมากค่ะ แล้วเมื่อไหร่ฉันจะลุกได้เสียที”
ถามทั้งที่รู้สึกเจ็บปวดเนื้อตัวเหมือนร่างกำลังถูกแยกออกจากกันเป็นเสี่ยงๆ ถ้ากระดูกหักคงยากที่จะลุกเดินได้ง่ายๆ นึกถึงพ่อแม่ขึ้นมา น้ำตาคลอด้วยความคิดถึง ป่านนี้ท่านคงเกณฑ์คนออกตามหาไปทั่ว โดยไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน เปรียบเสมือนตาบอดคลำทาง ไม่สามารถหาจุดหมายที่แท้จริงได้
“อีกไม่กี่วันหรอก กระดูกเจ้าไม่หัก แต่ข้าจะช่วยเช็ดตัวและหาขนสัตว์หุ้มกายให้จะได้รู้สึกอบอุ่น”
นารีเพิ่งสังเกตว่าเขาสวมใส่ขนสัตว์ คงจะเป็นขนเสือเพราะลายพร้อยไปทั้งตัว ที่คอนั้นมีเขี้ยวสัตว์แหลมสีขาวห้อยเป็นแผง เรือนร่างที่แข็งแรงทำให้รู้สึกอุ่นใจ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า เวลานี้เธอกำลังหลงเข้ามาอยู่ในยุคหินสมัยโบราณ
“ไม่ต้องเช็ดตัวให้ฉันก็ได้”
ปฏิเสธความหวังดีด้วยความกระดากอาย กลัวเขาจะเห็นเรือนร่างที่ปกปิดด้วยอาภรณ์มาตลอดยี่สิบเอ็ดปี ตั้งแต่ก้าวพ้นจากวัยเด็กเข้าสู่วัยสาว เธอไม่เคยเผยอเนื้อขาวให้ชายใดได้ยล พยายามปฏิบัติตนตามคำสอนของมารดา ให้รักนวลสงวนตัวเอาไว้ จนกว่าจะถึงวันวิวาห์ อย่าพลั้งเผลอพลีร่างให้แก่ชายใดเด็ดขาด
“ไม่ต้องกลัวหรอก ข้าไม่เคยทำร้ายผู้หญิง”
เสียงเรียบแต่หนักแน่นที่หลุดลอดออกมาจากริมฝีปากหนาแต่ได้รูป ทำให้นารีคลายความกลัวลงไปบ้างได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเองว่าเขาเป็นใครทำไมถึงได้เย็นชาต่อเพศตรงข้ามนักหรือว่าเป็นพวกขันที จึงหลบลี้ผู้คนมาปลีกวิเวกอยู่ในถ้ำตามลำพัง
“แสดงว่าเคยมีผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยสิ”
เวลานี้เธอกล้าที่จะต่อปากต่อคำด้วยและใจชื้นขึ้นบ้างแล้ว ถ้ามีผู้หญิงอยู่ด้วยคงไม่ต้องเกร็งเช่นนี้ เพราะรู้ว่าอยู่กับผู้หญิงคงปลอดภัยกว่าอยู่ใกล้ผู้ชายอย่างเขา
“ก็มีบ้างแต่อยู่สูงขึ้นไปกว่าถ้ำนี้อีก”
เขามองออกนอกถ้ำสายตามองไกลออกไป แสดงว่าผู้หญิงคนนั้นคงอยู่ไกลจริงๆ แต่ถึงอย่างไรในสภาวะเช่นนี้เธอก็ยังต้องการเพื่อนหญิงอยู่ดี
“พามารู้จักฉันบ้างสิ”
ทันทีที่พูดจบ นัยน์ตาเขาฉายแววเรืองวาบออกมา ดูเหมือนสายตาของสัตว์เวลากลางคืน ชายผู้นี้คงจะอยู่ในป่ามานาน ตาจึงเหมือนสัตว์เข้าไปทุกที อยากรู้นักเขาทำตาวาวเรืองแสงได้อย่างไรกัน หรือว่า ในร่างกายคงมีสิ่งที่พิเศษกว่าคนอื่น
“ไม่ได้! อันตราย ข้าต้องรักษาเจ้าให้หายแล้วจะพาไปส่งโดยเร็ว”
เสียงเข้มดุดันน่ากลัว ถ้าหูไม่ฝาดเฝื่อนจนเกินไป รู้สึกว่าคล้ายกับมีเสียงสัตว์คำรามออกจากลำคอบุรุษกลางไพร หญิงสาวใจหักหายวาบ พายามข่มความกลัวเอาไว้ ปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วรีบเปลี่ยนเรื่องสนทนาโดยเร็วที่สุด