19 แก้มเจ้าหอมมาก 2
ตะเบ็งเสียงดังด้วยความเสียใจจนสุดจะกลั้น สางหน้าซีดสลดลง ทำไมเขาจะไม่อยากไปหาเธอ เขาอยากไปทุกเวลานาที ต้องการอยู่ด้วยกันตลอดเวลา แต่เมื่อเป็นเหตุผลส่วนตัวที่ไม่อาจบอกได้ ทำให้เขาปิดปากเงียบทำเหมือนคนไม่มีชีวิตจิตใจ นารีไม่พอใจทำท่าจะเดินเข้าถ้ำ เพราะต้องการให้สางง้อ แต่เขากลับนั่งซึมไม่ตามเข้าไป ทำให้เธอเสียใจจนน้ำตาไหล แล้วยกมือปาดน้ำตาออกจากใบหน้าเดินเข้าไปในถ้ำด้วยหัวใจที่ร้าวราน
สางเจ็บปวดจนสุดจะทนทานไหว จำใจกัดฟันลุกขึ้นยืนเขาเดินไปข้างหน้าตรงชายป่า อยากอธิบายให้นารีรู้เสียเดี๋ยวนั้นว่าเขาเป็นเสือแปลงร่าง ที่เห็นเป็นรูปร่างเพราะความดีที่สะสมเอาไว้ ทำให้เป็นเหมือนมนุษย์แต่มีวิถีชีวิตที่ต่างกัน อีกทั้งเผ่าพันธุ์เธอกับเขาไม่อาจใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเยี่ยงคู่ผัวตัวเมียเฉกเช่นคนอื่นได้ ซึ่งมันทรมานมาก แต่จะให้ดื้อดึงเหนี่ยวรั้งหญิงสาวเอาไว้กับตัว มันไม่ใช่วิสัยของเขาที่จะทำเช่นนั้น
‘เจ้าไม่เข้าใจข้าเลย ที่ข้ามีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะต้องนั่งจำศีลภาวนา ดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์ ถ้าข้าเอาเจ้าเป็นเมียทุกอย่างก็จบ ข้าจะต้องเป็นเสือที่แก่ชราตลอดไปไม่อาจมีร่างเป็นมนุษย์ได้ ข้าเสียใจด้วยที่ทำให้เจ้าเสียใจ’
น้ำตาเสือแปลงไหลหยดลงอาบแก้มทั้งสองข้าง ถ้าหากว่านารีได้เห็นน้ำตาเขาในเวลานี้ เธออาจจะรักสางมากยิ่งขึ้น แต่กริยาที่แสดงออกมานั้นกลับสร้างความเจ็บปวดให้แก่สิงสาซึ่งแอบดูอยู่ใกล้ๆ นางเสือแปลงร้องไห้เมื่อรู้ว่าสางมีใจให้กับมนุษย์สาว สุดจะทนนิ่งอยู่เฉย ร่างประเปรียวถลันออกมา พูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยถากถางให้สางเจ็บช้ำมากยิ่งขึ้น
“เสียใจมากใช่ไหม เฮอะ! ที่สุดเจ้าก็มอบหัวใจให้แก่มันไปหมดแล้ว อยากรู้เหมือนกันว่าถ้ามันรู้ว่าเจ้าเป็นเสือมันจะรักเจ้าอีกไหม”
สางชะงักงัน เมื่อเห็นสิงสายืนจ้องหน้า จนดวงตาแทบถลนออกมา แต่เขาไม่อยากต่อความกับคนพาลจึงเงียบเสีย
“ทำไมไม่พูด มันแทงใจเจ้าใช่ไหม ข้าจะบอกให้นะ นังมนุษย์ตัวเมียคนนั้นมันก็แกล้งพูดว่ารักเจ้า หากว่ากลับถึงบ้านเมื่อไหร่มันคงมีคนรออยู่ ส่ำส่อนจะตายไป”
แต่ละถ้อยคำล้วนแต่เหยียบย่ำนางอันเป็นที่รักให้ต่ำเตี้ยติดดิน สางตบหน้าสิงสาหนึ่งครั้ง ทำให้ร่างที่เต็มไปด้วยกล้ามล้มลงพื้นที่เต็มไปด้วยโขดหินน้อยใหญ่จนได้รับบาดเจ็บ
“โอ๊ย! สางเจ้าทำร้ายข้าอีกแล้วนะ”
“ก็ปากของเจ้ามันไม่ใช่ย่อยเสียเมื่อไหร่ ข้าขอบอกเจ้าเสียเดี๋ยวนี้เลยนะ ผู้หญิงอย่างเจ้าไม่มีสิทธิ์ในตัวข้าแม้แต่น้อย”
เหมือนหัวใจถูกขยี้แหลกสลายจนย่อยยับ สิงสาร้องโฮกเสียงดังลั่นป่า ซึ่งเสียงนั้นสะท้อนกลับไปมา กระทั่งค่อยๆจางหายไป แต่ความเจ็บปวดที่นางได้รับไม่อาจจะลดน้อยหายไปจากใจได้ ใบหน้าที่น่าเกลียดบิดเบี้ยวด้วยความแค้น
“สางเจ้าดูถูกข้าเกินไปแล้ว”
“ใช่ ข้าดูเจ้าถูก คนอย่างเจ้าสกปรกโสมม เห็นแก่ตัวไม่มีใครอยากได้เจ้าเป็นเมียหรอก ถามพวกหนุ่มๆดูสิมีใครอยากอยู่กับเจ้าบ้าง”
“ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจและซานมาหาข้า”
สิงสามีความมั่นใจเต็มที่ แต่สางไม่สนใจนางแม้แต่น้อย ผละร่างกำยำเดินเข้าไปในถ้ำโดยเร็ว สิงสามองตามด้วยความแค้นจนแทบกระอักเป็นเลือด
“เจ้าเห็นมนุษย์ดีกว่าเผ่าพันธุ์ของตัวเอง พ่อเฒ่าบาบีว่าเจ้าทรยศต่อฝูง อีกไม่นานธรรมชาติจะลงโทษเจ้า ข้าไม่อยากให้เจ้าเป็นเช่นนั้นเลย สาง”
สิงสาตะโกนไล่หลัง ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แต่สางไม่สนใจ เพราะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะรักนางเสือแปลงที่มีแต่ความเหี้ยมโหด เขาเข้าไปนั่งสงบจิตใจในถ้ำชั้นในโดยไม่หันมามองนารีที่นั่งตัวสั่นเพราะได้ยินเสียงเสือร้อง แท้จริงแล้วเธออยากโผซบอกกว้างๆ แต่คงทำอย่างนั้นไม่ได้เพราะยังมีทิฐิอยู่เต็มเปี่ยม
สางพยายามรวบรวมจิตใจให้เป็นหนึ่งเดียวแต่ไม่สามารถทำได้เพราะเวลานี้เขารู้ว่าใจไม่สงบเสียแล้ว เห็นแต่ใบหน้าของนารี จึงเดินออกมา เจอเธอนั่งร้องไห้เงียบๆ คนเดียว
“ข้าไม่ชอบน้ำตา”
เอ่ยเสียงเย็นเยียบ ซึ่งมันกลับทำให้นารีร้องไห้หนักขึ้น สางเหนื่อยใจไม่น้อย แล้วทรุดกายนั่งลงใกล้ๆ
“เจ้าเสียใจอะไรนักหนา หรือว่าไม่สบายใจที่ข้าไม่ตามใจเจ้า อย่างว่าข้าไม่เคยพบปะกับพวกภายนอกจึงไม่รู้อะไรมากนักดอก ขอโทษด้วยที่ทำให้เจ้าร้องไห้”
“สาง”
เรียกชื่อเขาออกมาเบาๆ และโผกอดร่างบึกบึนเอาไว้แน่น ใบหน้าของสางปลื้มปิติเพราะรู้ว่ามนุษย์สาวนางนี้รักเขา เธอโดยไม่เฉลียวใจเลยว่าเรือนกายแกร่งกำยำนี้ เป็นแค่เพียงการจำแลงขึ้นมาเท่านั้น
“ฉันรักคุณมากไม่อยากจากคุณไปเลย”
“แต่ที่นี่มันไม่เหมาะกับเจ้า”
ความเศร้าสร้อยในน้ำเสียงจากเสือแปลง ไม่อาจทำให้นารีล้มเลิกที่จะฉุดให้เขาออกไปเผชิญกับโลกภายนอกที่เต็มไปด้วยมนุษย์
“แต่คุณก็ออกไปอยู่กับพวกเราได้ ไปทำไร่เผาถ่าน ในหมู่บ้านยังมีที่สำหรับคุณ พ่อฉันเป็นหัวหน้าหมู่บ้านสามารถจัดสรรที่ดินให้คุณได้นะ”
“ข้าอยากไปแต่ไปไม่ได้”
“ทำไมล่ะ คุณพูดแต่ว่าไปไม่ได้ แล้วทำไมถึงไปไม่ได้”
“เอาเถอะเจ้าอย่าคาดคั้นข้านักเลย ข้าขออยู่อย่างนี้ก็มีความสุขดีแล้ว”
‘ฮึ! คงมีผู้หญิงสาวๆ ที่นี่ครองหัวใจคุณอยู่ล่ะสิ ถึงไม่อยากจากไป’