บท
ตั้งค่า

17 แก้มเจ้าหอมมาก

“หัดเดินเยอะๆ นะ เตรียมตัวเอาไว้สำหรับการเดินทางไกล”

แม้ว่าจะเศร้าสักแค่ไหน แต่สางพยายามข่มความเจ็บปวดเอาไว้ สายตาที่มองร่างบางอรชรเต็มได้ด้วยความรัก นารีในชุดเสื้อแขนยาวลายดอกปล่อยชายคลุมทับกับกางเกงยีนสีเข้มยังคงเดินก้าวไปมาด้วยความมุ่งมั่น กระทั่งหันกลับมามองที่สาง แล้วขยับนั่งใกล้ๆ เห็นใบหน้าหนุ่มกลางไพร เศร้าหมองรู้สึกเสียวปลาบในใจ

ชั่วเวลาไม่กี่วันเขารักเธอมากขนาดนี้เชียวหรือ อาจจะเป็นเพราะความเหงาว้าเหว่ บวกกับไม่เคยพานพบอิสตรีเพศเช่นเธอ ทำให้หัวใจที่แข็งกระด้างอ่อนยวบลงอย่างง่ายดาย

“อีกนานเท่าไหร่ที่ฉันจะกลับบ้านได้”

หญิงสาวไม่ต้องการที่จะให้เกิดความผูกพันมากไปกว่านี้ จึงถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเศร้าหมอง สางจ้องดวงตากลมดำเหมือนนิลอย่างตรงๆ ยอมรับว่านารีเป็นผู้หญิงที่มีดวงตาสวยมากคนหนึ่ง

“คงสักพัก ขอให้ข้าจำศีลมากกว่านี้สักหน่อย ข้าคิดว่าอีกไม่นานหรอก เจ้ารอได้ไหมหือ หรือว่าอยากกลับบ้านแล้ว”

“ไม่เป็นไร ฉันอยู่ที่นี่ได้ ว่าแต่คุณเถอะเมื่อไหร่จะออกไปจับไก่ให้ฉันเสียที ฉันจะก่อไฟแล้วย่างให้กิน”

สางถอนใจยาวด้วยความกลัดกลุ้ม ใช่ว่าการจับไก่ป่าจะยากเย็น ไก่น่ะจับง่ายแต่ไฟนี่สิ มันไม่ถูกกับพวกเขาเพราะไฟที่ร้อนแรงนั้น แค่แสงสว่างก็ทำให้ร้อนจนร่างแทบมอดไหม้

“แต่ไม่มีไฟ เจ้าจะทำได้ยังไง”

“ฉันมีวิธีทำให้ไฟติดได้”

“ถ้าอย่างนั้นข้าจะเป็นผู้หาไก่มาให้เจ้ากินเอง เจ้าคงจะดีใจสินะที่จะได้กินเนื้อเสียที ข้าเข้าใจเจ้าอาจจะเบื่อผักผลไม้ของข้าแล้วก็ได้”

สางตัดพ้อด้วยเสียงสั่นเครือ สายตาคมวาวเพ่งมองไปที่ต้นไม้ใหญ่ที่ยืนตระหง่านอยู่เบื้องล่าง ตรงนั้นรู้ดีกว่ามีไก่ป่าฝูงใหญ่มารวมตัวกันพักผ่อนในเวลากลางคืน เพียงแค่ใช้สายตาสะกดจิต มันก็ร่วงผล็อยลงมาให้จับอย่างง่ายดาย

ทว่าอาการเงียบงันของหนุ่มร่างใหญ่ นารีรู้สึกไม่สบายใจ คิดว่าเขาน้อยใจที่หาอาหารให้ไม่ถูกปาก

“ไม่หรอก แม้ว่ามีไก่แต่ฉันยังชอบกินผลไม้ของคุณอยู่นะ สางคะทำไมพักนี้คุณดูเศร้าๆ ยังไงก็ไม่รู้หรือว่ามีเรื่องไม่สบายใจ”

“ก็คงอย่างนั้นแหละ”

“บอกฉันบ้างได้ไหม ฉันยินดีรับฟังทุกอย่าง ที่เป็นเรื่องของคุณ เชื่อใจฉันเถอะความลับของคุณฉันไม่เปิดเผยให้ใครรู้หรอก”

ความเอื้ออาทรในตัวเขา สร้างความประทับใจให้ไม่น้อย สางจับมือนุ่มขาวไว้แน่น ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทั้งใบหน้า หญิงสาวรู้สึกเขินอายไม่น้อย ก้มหน้ามองพื้นเงียบนิ่ง สางบีบมือเบาๆ กระตุ้นสติที่กระเจิดกระเจิงให้กลับคืนมา

“เจ้าเป็นมนุษย์ที่ดีไม่เบียดเบียนผู้อื่นให้เดือดร้อน ข้าเองก็อยากให้เจ้าอยู่ที่นี่ให้นานๆ อยู่ตลอดไปยิ่งดี แต่มันเป็นไปไม่ได้เพราะเจ้ามีพ่อแม่ที่รออยู่ ข้าเองไม่อาจระวังอันตรายให้เจ้าได้ตลอดชีวิต”

“พูดยังกับที่นี่มีอันตรายมากมาย”

“ใช่ที่นี่มีอันตรายมาก โดยเฉพาะกับมนุษย์ที่แปลกหน้าเช่นเจ้า”

คิ้วโก่งสวยขมวดมุ่นเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว นับวันสางมักจะมีคำพูดแปลกๆ ให้ได้ยินเสมอ บางทีป่าแห่งนี้อาจจะมีมนุษย์กินคนซุกซ่อนอยู่ก็ได้

“คุณพูดแปลกมาก”

“ข้าบอกแล้วว่าสักวันเจ้าก็จะรู้เองว่าข้าพูดอะไร ไปเถอะ ข้าจะให้เจ้าดูอะไร”

ลำแขนกำยำโอบประคองร่างนารีลุกขึ้นยืน แล้วชี้นิ้วลงไปข้างล่างที่เป็นป่าไม้เขียวขจี ทุกๆต้นเบียดเสียดแย่งกันโผล่ยอดขึ้นมารับกับแสงแดด

“เจ้าดูสิข้างล่างนั่น ถ้าคนไม่รู้ทางจะออกไปจากป่าไม่ได้เลยแล้วก็หลงตาย”

หญิงสาวหันมามองหน้าเขา ตาสบตาด้วยความไหวหวั่น ความรู้สึกแปลกๆได้เกิดขึ้น เลือดสาวฉีดพล่านไปทั่วทั้งตัว ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยให้ชายใดเข้าประชิดมาก่อน และสะดุ้งวาบเมื่อมือสางเลื่อนจับลงที่เอวคอดกิ่ว

“แต่คุณรู้ใช่ไหมว่าทางออกอยู่ที่ไหน”

“ข้าอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิด”

ชายหนุ่มตอบไม่ตรงกับคำถาม จากกลิ่นกายแปลกๆของเขา กลับสร้างความรัญจวนให้แก่เธอไม่น้อย ลอบสูดเข้าจมูกด้วยความพึงใจ

“แปลกนะอยู่ห่างไกลหมออย่างนี้แต่ไม่เป็นโรคภัยไข้เจ็บ เวลาไม่สบายคุณรักษายังไงคะถึงจะหาย”

“ก็ดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์และนั่งจำศีล อีกไม่นานก็หาย ทุกคนรู้จักวิธีการรักษาตัวเองให้พ้นอันตราย แต่อันตรายจากมนุษย์มีมากกว่าทำให้พวกเราต้องระวัง”

“ระวังหรือ ทำไมต้องระวังด้วยในเมื่อคุณก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน”

“แต่มันคนละอย่าง ไปเถอะข้าจะพาเดินไปทางนั้น”

เสียงที่ทุ้มนุ่มหูเอ่ยชวนแล้วรั้งเอวพาเดินลิ่วไปยังอีกด้านหนึ่งของหน้าถ้ำ แม้ว่าร่างกายบางส่วนของสางจะถูกแดดจัดจ้า แต่ไม่อาจทำให้ท้อ รู้สึกมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้กับผู้หญิงที่รัก ใบหน้าหวานแฉล้มของสาวงามคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ จนสางอดใจไม่ไหว ยื่นจมูกหอมแก้มขาวปลั่งหนึ่งครั้ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel