12 เจ็บเพราะน้ำมือมนุษย์ 1
ไม่คิดเลยว่าคำพูดของนารีจะทำให้สางหน้าเสีย เสียงทอดถอนใจดังขึ้น บัดนี้ภายในหัวใจของบุรุษลึกลับเกิดความลังเลขึ้นมา ไม่รู้ว่าจะจัดการกับความรู้สึกแปลกประหลาดได้อย่างไร
“คงจะอย่างนั้น พ่อแม่ย่อมรักลูก เหมือนกับพ่อแม่ข้า ป้องกันข้าไม่ให้ถูกทำลาย”
เสียงดังขึ้นกว่าเดิม นารีรู้สึกกลัวจนขนลุก เกิดอะไรขึ้นทำไมจู่ๆ อารมณ์เขาถึงเปลี่ยนไปได้เร็วขนาดนี้ เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้ายน่ากลัวเหมือนกับสัตว์ป่ากระหายเลือด
“สางทำไมคุณถึงทำเสียงอย่างนั้นด้วยล่ะ”
“อยากให้ข้าพูดรึ ข้าเจ็บเพราะน้ำมือมนุษย์”
ตาวาวเรืองวาวน่ากลัว นารีรู้สึกว่าหัวใจเหมือนหยุดเต้น จ้องมองบุรุษตรงหน้าด้วยอาการขวัญผวา บางทีเขาคงโดนมนุษย์ด้วยกันทำร้ายพ่อแม่ จนกลายเป็นเกลียดมนุษย์ฝังใจ
“แต่คุณก็เป็นมนุษย์นะคะ”
“ใครบอกว่าข้าเป็นมนุษย์”
ทิ้งท้ายด้วยเสียงห้วนจัดแล้วก้าวเร็วๆ ออกจากถ้ำไปโดยไม่หันกลับมามอง ปล่อยให้นารีนอนนิ่งอยู่เพียงลำพัง ซึ่งเธอหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน
สางออกมาด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ภายนอกถ้ำที่มีแต่ป่าที่หนาทึบ ในใจหวนนึกถึงคณะติดตามหาตัวนารี รู้ว่าคงไม่สามารถมาถึงที่นี่ได้
“พวกมนุษย์หน้าโง่ พวกเอ็งไม่มีโอกาสมาถึงที่นี่หรอก ถ้ามาก็คงจะมีแต่ตายกับตายเท่านั้น”
คำรามด้วยเสียงดังน่ากลัว ความน่าสะพรึงกลัวได้เกิดขึ้น เมื่อเล็บแหลมคมงอกออกมาอย่างรวดเร็วและกางกรงเล็บครูดลงกับก้อนหินแข็ง จนเกิดเป็นรอยยาวปรากฏขึ้น
“สาง”
เสียงเรียกแหบแห้งข้างหลังทำให้สางหันไปมองด้วยตาขุ่นขวาง จึงเห็นร่างๆหนึ่งสวมใส่อาภรณ์คล้ายกับเขา ส่วนหลังโค้งงอคุ้มลงมา ผมหนวดและเคราสีเงินยวง ทว่าดวงตาสีเหลืองเข้มทำให้ผู้ที่สบตาด้วยต้องสยบตรึงเท้าอยู่กับที่เพราะพ่ายต่อพลังอันแก่กล้าที่พวยพุ่งออกมา
“ผู้เฒ่าบาบี”
สางเอ่ยนามผู้มาเยือนด้วยเสียงอ่อนลงกว่าเดิม ร่างใหญ่ของเขาย่อตัวลงเล็กน้อย กลิ่นสาบสางโชยเข้าจมูกอย่างรุนแรง เมื่อผู้เฒ่าบาบีเคลื่อนตัวเข้ามาหา สางเข้าไปจูงมือเหี่ยวย่นแล้วพามานั่งลงบนก้อนหินที่เขาครูดเล็บลงไปเมื่อครู่
“สิงสามันบอกข้าว่า เจ้าช่วยเหลือมนุษย์ผู้หญิงเอาไว้”
ผู้เฒ่าบาบีข้าสู่ประเด็นสงสัยโดยเร็ว สางสบสายตาเหลืองเข้มคู่นั้นอย่างไม่สะทกสะท้าน รอยยิ้มน่ากลัวบังเกิดขึ้นที่มุมปากทั้งสอง แล้วตอบกลับไปด้วยพลังเสียงอันห้าวลึก
“ใช่แล้วผู้เฒ่า ข้าช่วยเหลือนาง นางบอบช้ำมากเพราะข้าออกไปข้างนอก ทำให้เกิดพายุหอบร่างนางมาที่นี่”
“ฮึ่มมมมมม!”
ผู้เฒ่าบาบีแหงนหน้า และอ้าปากคำรามออกมาเบาๆ แต่เสียงก้องสะท้อนไปทั่วทั้งหุบเขา ใบหน้าที่ย่นยับบิดเบี้ยวเหยเก คล้ายดั่งโกรธแค้นแสนสาหัส สางผงะก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว อาการอย่างนี้รู้ว่าผู้เฒ่าบาบีไม่พอใจต่อคำบอกเล่าของตน
“ทำไมเจ้าไม่กำจัดมันเสียล่ะ”
เสียงแหบพล่าที่เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากแห้งแตกเป็นขุยนั้นแข็งกระด้างน่ากลัว สางจ้องมองด้วยสายตาแข็งกล้าไม่แพ้กัน ใช่ว่าผู้เฒ่าบาบีจะแก่ชรา ฟันฟางหักจนเกือบหมดปาก ความเกรงขามไม่มีหลงเหลืออยู่เลย ตรงกันข้ามสางเคารพนับถือในตัวผู้เฒ่ามาก เปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ แต่เขาไม่พอใจที่ผู้เฒ่าจะให้ฆ่านารีตามความต้องการของเสือแปลงทุกตัว สำหรับเขาแล้วรู้ว่ายากที่จะกระทำเช่นนั้นได้
“กำจัดหรือ ทำไมต้องทำอย่างนั้นด้วย”
สางทวนคำด้วยสีหน้าบึ้งตึง บัดนี้ไม่สู้จะพอใจต่อคำแนะนำของผู้เฒ่า แต่ไม่กล้าแสดงสิ่งใดออกมามากนัก เพราะยังมีความเกรงใจกันอยู่
“เจ้าก็รู้ว่ามนุษย์จะนำความเดือดร้อนมาสู่พวกเรา เจ้าจำไม่ได้รึไง ว่าพ่อแม่ของเจ้าตายเพราะน้ำมือมนุษย์”
“นังสิงสาคงไปเป่าหูผู้เฒ่า”
แม้จะเจ็บปวดต่อการที่บิดามารดาถูกฆ่าตายด้วยฝีมือมนุษย์ที่เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับนารี แต่ชายหนุ่มพยายามเลี่ยงที่จะเอ่ยถึง กลับพาดพิงไปถึงสิงสา นางเสือแปลงนิสัยอันธพาล ทว่าผู้เฒ่าบาบีกลับไม่ให้ความกระจ่าง มือเหี่ยวย่นน่าเกลียดขยับดันหินแกร่ง ร่างงอคุ้มลุกขึ้นยืดตัวเต็มความสูง
“พูดคนละเรื่องกันแล้ว เจ้าคอยดูก็แล้วกันว่ามนุษย์มันจะนำความเดือดร้อนให้แก่พวกเราเมื่อนั้นล่ะ เจ้าจะรู้สึก”
ผู้เฒ่าสะบัดหน้าพรืดแล้วปีนป่ายขึ้นไปบนภูเขาสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่น่าเชื่อว่าชายชราเช่นผู้เฒ่าบาบีจะปีนภูเขาได้คล่องแคล่วเช่นนี้ สางทำเสียงฮึดฮัดอยู่ชั่วครู่และตาพองโตเมื่อมองเห็นสิงสาก้าวเข้ามา ใบหน้าสี่เหลี่ยมของนางดูแข็งกระด้าง ช่างเข้ากันกับชุดหนังสัตว์ที่ตัดเป็นเสื้อเกาะ เย็บถักด้วยเถาวัลย์สด กับกระโปรงสั้น ทำจากหนังสัตว์ผืนเดียวกันกับเสื้อ ส่วนด้านล่างชายขาดรุ่งริ่ง สางไม่ชมชอบสิงสาสักเท่าไหร่ มองหน้าแค่แวบเดียวเท่านั้น จึงเสมองลงไปที่เท้าแบบานเปลือยเปล่า