บทที่ 03 ชายผู้นั้น?
เมื่อการร่ายรำจบสิ้นลง ตวนมู่ได้รับเสียงปรบมือเช่นทุกครั้ง นางทอดสายตามองบรรดาชายหนุ่มที่มีหญิงสาวนั่งคอเคลียไม่ห่างกาย บางคนก็พาหญิงสาวเหล่านั้นเข้าไปยังห้องหอที่อยู่ด้านข้าง บางคนก็ดื่มเหล้าดอกท้อชั้นดีที่นางบ่มด้วยตัวเอง ทำให้เป็นที่เลื่องลือในเมืองหลวง
จะหาสุราไหนจะเทียบเท่ากับสุราดอกท้อของหอไห่ถัง
ตวนมู่น่าหลังก้าวเดินลงมาจากพื้นยกสูง เหล่าชายหนุ่มและตาเฒ่าต่างเผยรอยยิ้มชื่นชมนาง แต่ไม่กล้าอาจเอื้อม ถึงแม้ว่าตวนมู่น่าหลังจะงดงามเป็นหนึ่งในใต้หล้า พวกเขาล่วงรู้ว่านางคือผู้ใด พวกเขาแค่ได้มาดื่มเหล้าและดูนางแสดงร่ายรำเป็นอาหารตา ทำให้เหตุนี้นางคณิกาในหอไห่ถังงดงามจากการคัดเลือกของน่าหลังเอง อีกทั้งห้องหอของพวกนางก็แทบไม่เคยว่างเว้น และที่สำคัญน่าหลังไม่ได้บังคับขายเรือนร่างให้กับชายพวกนั้น ถ้านางคณิกาอยากจะเสพสุขกับชายหนุ่มนางจะคิดค่าตัวเอง โดยมีแม่เล้าเป็นผู้ควบคุมอีกทีว่าพวกนางควรได้เท่าไหร่ และแม่เล้าจะเอาจากพวกนางเพียงสองชั่ง แม้พวกนางจะได้สิบช่างแม่เล้าจะรับเพียงสองชั่งเท่านั้น
แต่ถ้าตวนมู่น่าหลังเรียกชายใดเข้าพบถือว่าชายคนนั้นโชคดีมากเลยทีเดียว โดยเป็นที่โจษจันว่า ตวนมู่น่าหลังนางไม่เป็นเพียงหญิงงามที่เป็นที่เลื่องลือเท่านั้น เรื่องบนเตียงนางเร่าร้อน และพาพวกเขาสุขสมอย่างที่พวกเขาเหล่านั้นไม่เคยได้รับจากหญิงใดมาก่อน ชายมากมายจึงเที่ยวมาหอคณิกาแทบทุกวันคืน เพื่อต้องการให้นางเรียกเข้าไปเสพสังวาสด้วย
ซึ่งตวนมู่น่าหลังเองจะนอนกับผู้ชายเพียงคืนละหนึ่งคน เมื่อเสพสังวาสเสร็จสิ้นชายเหล่านั้นก็อยากจะให้นางมาสนองตัณหาใหม่ แต่ทว่านางจะไม่เลือกชายไม่เคยซ้ำหน้า หนึ่งเพื่อความปลอดภัยของตัวนางเอง สองนางเป็นคนเบื่ออะไรที่มันซ้ำๆ และจำเจ นางเป็นพวกที่ชอบลองอะไรใหม่ๆ อาทิเช่น ท่าบนเตียงอันเร่าร้อน หรือ ท่าเล่นโหนผ้าที่นางทำให้ชายหนุ่มหลายต่อหลายชอบยิ่งนัก
“กงจู่เพคะ” นางกำนัลสาวนามว่าหมี่วาเอ่ยเรียกน่าหลัง ทำให้หยุดเดินและนางหันกลับมามองหมี่วา นางกำนัลคนสนิท (กงจู่ แปลว่า องค์หญิง)
“ว่าไงหมี่วา” น่าหลังเอ่ยถามเสียงเรียบ
“ชายผู้นั้นต้องการพบท่าน เขาบอกว่าจะเรียกเท่าไหร่ก็ได้เพคะ” หมี่วาเอ่ยบอก และมองไปยังชายหนุ่มที่ยืนตรงทางเข้าของหอคณิกา นางทอดสายตามองเขาด้วยความแปลกใจ เพราะนางไม่เคยเห็นชายผู้นี้มาก่อน แต่ทว่าเป็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ขาวดุจหิมะในฤดูเหมันต์ ใบหน้าของเขางดงามราวกับหยกชิ้นงาม จมูกของเขาช่างโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหนาได้รูปอมชมพูนัยน์ตาสีดำ
นางจ้องมองเขาเนิ่นนาน แต่ไม่รู้ว่าเหตุใด นางกลับรู้สึกร้อนวูบวาบในใจ ร่างกายของนางบ่งบอกว่าอยากแนบชิดเรือนร่างของเขายิ่งนัก และร่วมรักกับเขาอย่างดูดดื่มอาการเช่นนี้ นางไม่เคยรู้สึกเป็นเช่นนี้มานานมากแล้ว จนนางแทบจดจำความรู้สึกเช่นนี้ไม่ได้ว่ามันเป็นเช่นไร แต่ชายผู้นี้ทำให้นางรู้สึกขึ้นมาอีกครั้ง มันเป็นเพราะเหตุใดกันเล่า
“กงจู่จะพบเขาหรือไม่เพคะ” หมี่วาเอ่ยถาม เพราะว่าน่าหลังเงียบไปนานพอสมควร น่าหลังรีบควบคุมร่างกายของนางไม่ให้กำหนัดพลุ่งพล่านในเพลานี้ นางตั้งสติจ้องใบหน้าของชายหนุ่มผู้นั้น และเอ่ยถามออกไป
“ชายผู้นั้นมีนามว่าอะไร” น่าหลังเอ่ยถาม
“เขาชื่อว่าเสี่ยวกู่เพคะ”
“หมี่วา ข้าไม่เคยเห็นชายผู้นี้มาก่อน” น่าหลังเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“หรือเขาจะเป็นคนของแคว้นไป๋ ตอนนี้แคว้นไป๋กำลังโจมตีเราอยู่มาหลายวันแล้ว หม่อมฉันจะไปไล่เขาออกไป” หมี่วาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล
“ไม่เป็นไร ให้เขามาพบข้าที่ห้องใหญ่อีกครึ่งชั่วยาม” น่าหลังเอ่ยบอกด้วยเสียงเรียบ
“แต่ว่า”
“เจ้าจงต้อนรับเขาเป็นอย่างดีด้วย อีกครึ่งชั่วยามให้เขามาพบข้าที่ห้องใหญ่”
“เพคะ” หมี่วาเอ่ยบอกและถวายบังคม ขณะที่ตวนมู่น่าหลังก้าวเดินจากไปจากตรงนี้
.........................................
ทำไมนางจึงรู้สึกเร่าร้อนและอยากถึงเพียงนั้น
ชายคนนั้นเขาเป็นใครกันเล่า ทำไมทำให้น่าหลังสนใจ
อย่าลืม! กดหัวใจ และ เขียนคอมเม้นท์มาพูดคุยกันบ้างน๊า ไรท์จะได้ไม่เหงา
ไรท์ชอบอ่านคอมเม้นท์ของทุกท่าน และพยายามตอบกลับทุกคอมเม้นท์นะ