บทที่ 2 ปราบพยศเสือสาว 2
“ฉัน ฉันเกลียดคนอย่างคุณที่สุดที่ทำให้ฉันต้องมีสภาพแบบนี้” แวววิวาห์กัดปากตัวเองจนเลือดซึม เจ็บ...เจ็บข้อเท้า คงเพราะหล่อนสวมรองเท้าส้นสูงแล้วต้องมาออกแรงวิ่งแบบสมบุกสมบัน ข้อเท้าจึงพลิกหลายหน ขาเรียวสั่นระริก และสุดท้าย...หล่อนก็ทนต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวนั่งแผละลงบนพื้นหญ้าทั้งๆที่ยังวิ่งไปไม่ทันถึงประตูรั้วด้วยซ้ำ
“อ้อ...สิ้นฤทธิ์แล้วหรือ ?” หางเสียงเจือรอยขัน ชายหนุ่มเดินตรงมาหาหญิงสาวพลางยื่นมือส่งให้
แวววิวาห์เหลือบตามองเจ้าของมืออย่างโมโหจัด ปัดมือเขาทิ้งอย่างไม่ไยดี
“ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากโจรอย่างคุณ”
“บางครั้งโจรก็อยากเป็นสุภาพบุรุษที่มีโอกาสได้ช่วยเหลือเจ้าสาวที่น่าสงสารเหมือนกันนะ” เขากระตุกรอยยิ้มเย็น ขณะที่หญิงสาวมองเขาอย่างเคืองขุ่น
“น่าสงสาร เหอะ ! อย่ามาใช้คำว่าน่าสงสารกับคุณหนูแวววี่ผู้เพอร์เฟ็กต์อย่างฉันนะ ฉันเกลียดคุณ ที่ฉันต้องมีสภาพแบบนี้ก็เพราะคุณไม่ใช่เหรอไง ไอ้คนเฮงซวย”
แซ็คหรี่ตาลงมองร่างงามในชุดสีขาวบริสุทธิ์ ผมของหล่อนหลุดลุ่ยระข้างแก้มที่แดงปลั่ง ตากลมโตวาววับราวแม่เสือ ทั้งๆที่เนื้อตัวกำลังสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว
เหมือนเทพีพระจันทร์ที่น่าปกป้อง....
เด็ดเดี่ยว เข้มแข็ง แต่ก็แฝงด้วยความอ่อนแอจนบุรุษเพศอย่างเขาแทบอยากกระโจนเข้าไปกอดปลอบ
ตาหวานๆที่มักสื่อถึงอารมณ์หลากหลาย... ถือดี หวาดกลัว เข้มแข็ง และหยิ่งยโส
แก้มแดงๆน่าจุมพิต
ปากสีระเรื่อน่าจูบ
ตัวเล็กๆน่าโอบกอด
ตาคู่คมสีฟ้าเบิกกว้าง คิ้วเข้มขมวดฉับเมื่อรู้ตัวว่าตนกำลังคิดอะไรอยู่ บ้าชะมัด...นี่เขากำลังหลงใหลผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักของศัตรูอย่างนั้นหรือ
“ก็อย่างที่บอก ผมไม่ชอบให้ใครขัดใจ ผมต้องการอะไร ผมก็จะทำตามใจตัวเอง” เขาพูดตัดบท พร้อมก้มลงช้อนร่างเล็กขึ้นอุ้มแนบอกท่ามกลางเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจของแวววิวาห์
“กรี๊ดดด ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน ปล่อยฉัน คนอย่างฉันไม่ชอบให้ใครมาอุ้ม ฉันไม่ใช่เด็กแล้ว”
“ที่อุ้มแบบนี้ก็เพราะมองว่าคุณเป็นสาวน่ะสิ หากคิดว่าคุณเป็นเด็ก ผมคงอุ้มคุณเข้าเอว ไม่ใช่อุ้มแบบนี้”
แวววิวาห์หน้าแดง หล่อนใช้เล็บยาวๆจิกท่อนแขนเขาอย่างแรงพร้อมขู่
“ปล่อยฉันนะ”
“คงให้ตามที่คุณขอไม่ได้”
“ถ้าไม่ปล่อยฉันกลับไป คุณได้เข้าไปอยู่ในตะรางแน่ๆ คุณพ่อต้องตามหาฉัน ท่านไม่ยอมให้ลูกสาวหายตัวไปนานๆหรอก”
“แต่เท่าที่ผมรู้มา...พ่อคุณรักหน้าตาตัวเอง คงไม่กล้ากระโตกกระตากนักหรอก”
จากสีหน้าระเรื่อเริ่มเปลี่ยนเป็นขาวซีด หญิงสาวเม้มปากแน่นจนเป็นเส้นตรง ก่อนพูดเสียงสะบัด
“คุณภาคภูมิที่เป็นเจ้าบ่าวของฉัน เขาจะยิงหัวคุณแน่ หากคุณทำให้ฉันมีรอยขีดข่วนแม้แต่ปลายเล็บ”
“งั้นไม่ต้องห่วง...” แซ็คหัวเราะในลำคอ ดวงตาสีฟ้าเปล่งประกายวิบวับอย่างเห็นได้ชัดในแสงจันทร์สลัวที่ส่องกระทบ “เพราะผมไม่มีทางปล่อยให้ผิวนุ่มๆของคุณต้องเป็นรอยแน่ๆ”
“โอ๊ย ปล่อยฉันเถอะ ฉันจะให้เงินคุณ คุณอยากได้กี่แสนกี่ล้านก็ว่ามา”
หน้าคมกระด้างขึ้นฉับพลัน ดวงตาแข็งกร้าวขึ้นชั่ววูบหนึ่ง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งๆ
“เงินฟาดหัวผมไม่ได้”
“อ้อ ลืมไปว่าบ้านคุณหลังใหญ่คงไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน แล้วลักพาตัวฉันมาทำไมไม่ทราบ”
“คุณคิดว่าไงล่ะ ?” แซ็คย้อนถามห้วนๆ หลุบตาลงมองริมฝีปากอิ่มของคนในวงแขนอย่างลืมตัว
“ฉันรู้ว่าฉันสวย คุณอาจจะแอบหลงรักฉันอยู่ พอรู้ว่าฉันจะแต่งงาน หัวใจคุณเลยแตกสลายถึงขั้นทำใจยอมรับไม่ได้จนต้องลักพาตัวฉันมาจากเจ้าบ่าว ฉันก็พอเข้าใจหรอกนะว่าความสวยระดับฉัน ไม่ว่าจะหนุ่มไทยหรือหนุ่มเทศต่างก็หลงใหลฉันทั้งนั้น เอาเป็นว่าฉันยอมรับความรู้สึกของคุณก็แล้วกันนะ ขอโทษด้วยที่ทำให้คุณอกหัก แต่ช่วยปล่อยฉันกลับบ้านไปเถอะ ฉันจะไม่ลืมคุณชั่วชีวิต ในฐานะผู้ชายที่รักฉันจนยอมทำผิดศีลธรรม”
ประโยคหลงตัวเองขั้นเทพที่หล่อนพ่นใส่หน้าเขา ทำให้ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างนิดๆอย่างคาดไม่ถึง เขายืนตัวแข็งพลางเลิกคิ้วดำขึ้นสูง ถามอย่างไม่แน่ใจ
“ผมหลงรักคุณ ?”
“ใช่สิ ถ้าไม่ใช่ด้วยเรื่องเงิน ถ้างั้นก็ต้องเป็นเรื่องความรักชัวร์ๆ” แวววิวาห์พยักหน้าอย่างมั่นอกมั่นใจ ก่อนจะตาขุ่นเขียวเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆจากเขา
“หัวเราะอะไรยะ ?”