บทที่ 2 ปราบพยศเสือสาว 1
บทที่ 2
ปราบพยศเสือสาว
ทันทีที่ผ้าผืนใหญ่ถูกปลดออกจากดวงตาคู่สวย แวววิวาห์ก็ได้เห็นสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าได้ถนัดชัดแก่สายตา คฤหาสน์หลังงามทาสีน้ำเงินเข้ม ให้ความรู้สึกเยือกเย็นและมั่นคงท้าแสงจันทร์ที่ฉาบไล้
บนผืนฟ้ามีดวงดาราดวงเล็กๆกระจายไปทั่วราวเกล็ดเพชรที่โรยบนผืนกำมะหยี่สีดำสนิท ดวงจันทร์กลมโตลอยเด่นอยู่เหนือหลังคาแข็งแรง สาดแสงอบอุ่นลงมาจนหล่อนต้องยืนมองอย่างเผลอไผล
สวยงาม...ราวภาพแห่งความฝัน รั้วสีขาวมีดอกกุหลาบดอกใหญ่สีชมพูอ่อนพันเลื้อยเกาะเกี่ยวส่งกลิ่นหอมหวาน และ...ไออุ่นจากคนตัวโตซึ่งยืนซ้อนอยู่เบื้องหลังหล่อน
ดวงตาคู่โตเบิกกว้าง ไม่สิ หล่อนจะมาชมว่าบ้านของโจรสวยได้อย่างไรกัน ตอนนี้หล่อนควรตกใจมากกว่าจะมาเคลิ้มฝันกับความงามลวงตาที่เห็นอยู่เบื้องหน้า
“ที่นี่ที่ไหน จังหวัดอะไร พาฉันกลับบ้านเดี๋ยวนี้นะ” เริ่มต้นด้วยคำถาม แต่ปิดท้ายด้วยคำสั่ง ทำให้คิ้วเข้มถึงกับเลิกขึ้นสูง
“ที่นี่คือบ้านที่ผมพักอยู่ อยู่ในจังหวัดที่คุณเกิด ส่วนเรื่องส่งคุณกลับไปให้นายภาคภูมิ...ลืมไปได้เลย เพราะยังไม่ถึงเวลา”
“มิสเตอร์มาสเตอร์สัน !” หญิงสาวตวาดลั่น จ้องหน้าเขาอย่างฉุนเฉียว ขณะที่คางเล็กถูกจับด้วยปลายนิ้วอุ่นของคนตัวโต
“เรียกผมว่าแซ็คเถอะ”
“ฉันไม่ต้องการสนิทสนมกับคุณ”
“หมายความว่าจะไม่ยอมเรียกผมว่าแซ็ค ?” เขาถามพลางเลิกคิ้วขึ้นสูง
“ใช่” หล่อนเน้นย้ำอย่างมั่นใจ สองตาเขม้นมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง ไม่สนใจแม้ว่าตอนนี้เพอร์สันกำลังขับรถลีมูซีนไปเก็บในโรงจอดรถ ปล่อยให้หล่อนกับแซ็คยืนเถียงกันต่อไปหน้าบ้านหลังใหญ่
“ผมไม่ชอบให้ใครขัดใจ”
“ฉันก็ไม่ชอบให้ใครมาบังคับเหมือนกัน” ไม่มีทางเสียหรอกที่คนอย่างแวววิวาห์จะยอมอ่อนข้อให้ เพราะดวงตาของหล่อนยังคงฉายชัดถึงความเด็ดเดี่ยว มือเรียวเท้าเอวเอาไว้อย่างไม่นึกเกรงกลัว แม้ว่าคนตรงหน้าจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ชายที่ไม่น่าไว้ใจก็ตาม
“หึหึ” แซ็คหัวเราะในลำคอ นิ้วแกร่งพันปลายผมที่หลุดลุ่ยของหล่อนเล่น ก่อนยกปอยผมขึ้นจุมพิตเบาๆ เล่นเอาหน้านวลร้อนฉ่าราวมีเตารีดมาแนบ
“ทำบ้าอะไร อยากตายเรอะ”
“ถ้าต้องตายคาอกคุณ... ผมก็คิดว่าคุ้มค่า”
วาจาล่วงเกินที่เขาพูดออกมา แทบทำให้แวววิวาห์เต้นเร่า หล่อนกัดฟันกรอด เพราะอะไรกันหล่อนถึงร้อนรุ่มไปทั้งหัวใจ ทั้งๆที่บรรยากาศก็สุดแสนจะโรแมนติก
ท้องฟ้าสีดำ เกล็ดดาวนับหมื่น คฤหาสน์หลังงามสีน้ำเงินสวย กลิ่นกุหลาบหวานๆ และ...ผู้ชายรูปหล่อนัยน์ตาชวนฝันที่ยืนอยู่ตรงหน้า
แต่ขอโทษทีเถอะ แม้ทุกอย่างจะชวนให้หลงใหล แต่ตอนนี้หล่อนอยากตะบันหน้าหมอนี่มากกว่า คนอะไร...ไร้มารยาท กล้าลักพาตัวหล่อนกลางงานวิวาห์ !
“ถ้าคุณพูดจาห่วยแตกใส่ฉันอีกแม้แต่คำเดียว ฉันจะตะบันหน้าคุณให้หมดหล่อ”
“เก่งซะด้วยสิ...” เขาปรบมือให้ แต่หล่อนรู้ดีว่าเขาไม่ได้ปรบมือเพราะชมหล่อนหรอก เขาแค่แกล้งประชดและแดกดันหล่อนเท่านั้น
หญิงสาวเริ่มเหล่สายตาลอกแลก หล่อนจะไม่มีวันพ่ายแพ้ต่อโชคชะตา ไม่ว่าวันข้างหน้าอะไรจะเกิดขึ้น ตอนนี้ก็ขอให้หล่อนได้สู้จนถึงที่สุดก่อนเถอะ
แซ็คมองแวววิวาห์อยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าหล่อนกำลังหาทางหนีทีไล่ เมื่ออยู่ๆกำปั้นเล็กๆก็ลอยหวือหมายจะเสยปลายคางเขา เขาจึงหลบได้ทันอย่างหวุดหวิด ขณะที่หญิงสาวฉวยโอกาสช่วงที่เขาไม่ทันตั้งตัว รีบวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว
“แวววี่ คุณคิดเหรอไงว่าจะหนีผมได้”
“ฉันต้องหนี ไอ้โรคจิต ไอ้บ้ากาม” หล่อนแหวดังลั่น หลับหูหลับตาวิ่งตรงไปทางประตูรั้วที่ปิดสนิทอยู่ แม้ว่าจะสูงลิ่วจนน่ากลัว แต่หล่อนก็จะฝืนปีน จะไม่ยอมปล่อยให้ผู้ชายคนนี้ทำอะไรหล่อนได้แน่ๆ
“เอ้า...อยากหนีก็หนีไป หนีเลยคุณหนู ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าคุณจะวิ่งต่อไปได้อีกสักกี่ก้าว” เพราะสังเกตเห็นว่าหญิงสาวเริ่มวิ่งเซๆ หลายครั้งที่ช่วงขาอ่อนวูบลงไปเฉยๆ แต่หล่อนก็ยังพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาใหม่ได้ทุกครั้ง เขาจึงหยุดยืนนิ่ง ไม่วิ่งตามหล่อน แต่ยืนกอดอกรอดูอยู่เฉยๆ... รอดูการหนีของหล่อนอย่างใจเย็น