บทที่ 1 งานวิวาห์ และการถูกลักพาตัว 3
แวววิวาห์หันไปมองผู้ที่กำลังจะมาเป็นสามีของหล่อน ก่อนจะสะบัดหน้าเดินอาดๆเข้าไปในบ้านเป็นคนแรก ตามด้วยภาคภูมิที่เดินเนิบนาบอย่างใจเย็นสมเป็นผู้ดี
การจดทะเบียนระหว่างแวววิวาห์กับภาคภูมินั้น มีสายตาของแขกเหรื่อมองมาอย่างให้กำลังใจ รวมทั้งบิดาของหล่อนที่คอยยืนอยู่ใกล้ๆหนุ่มสาวไม่ยอมห่าง
“เซ็นชื่อเสียสิลูก” วิธานเอ่ยเร่งเร้าเมื่อภาคภูมิเซ็นชื่อตัวเองเรียบร้อยแล้ว แต่แวววิวาห์ไม่ยอมหยิบปากกาเสียที
“ค่ะพ่อ...” หญิงสาวขบเม้มริมฝีปากจนแดงช้ำ ในที่สุดหล่อนก็หนีไม่พ้นกรงทองที่บิดามอบให้ อีกไม่นานหล่อนจะได้ชื่อว่าเป็นหญิงที่มีสามีแล้วอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หล่อนไม่มีโอกาสได้เลือกคนที่รักด้วยตัวเอง จบแล้วสินะ...ชีวิตสาวโสดที่แสนจะมีความสุข
ดวงตากลมหวานเหลือบมองนายอำเภอที่นั่งอยู่ตรงหน้าก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วค่อยๆจรดปลายปากกาลงบนแผ่นกระดาษสีขาว แต่ยังไม่ทันได้เซ็นชื่อตัวเองลงไปในนั้น เสียงโหวกเหวกโวยวายก็ดังขึ้นเสียก่อน
“ไฟไหม้ ไฟไหม้โรงจอดรถ!”
เสียงเอะอะนั้นทำให้ผู้คนแตกตื่น รวมทั้งวิธานกับภาคภูมิที่รีบผุดลุกวิ่งไปดูต้นเพลิงทันที เหลือเพียงนายอำเภอหัวล้านมันวับกับแวววิวาห์ที่ยังคงนั่งอยู่ที่เก่า
หญิงสาวขยับตัว ตั้งท่าจะตามทุกคนไปดูบ้าง แต่ยังไม่ทันจะวิ่งถึงประตู มือใหญ่ของใครคนหนึ่งก็คว้าหมับที่ข้อมือเล็ก ครั้นหล่อนหันไปมอง ทั้งตัวก็ร้อนฉ่าราวมีไฟประจุอยู่ในนั้น
เจ้าของมือที่ยึดหล่อนไว้สวมชุดสีดำทั้งร่าง มีผ้าปิดที่จมูกลงถึงปากสีดำสนิท โผล่ออกมาเพียงคิ้วสีดำได้รูปและดวงตาสีฟ้าโดดเด่น
“แซ็ค มาสเตอร์สัน !” หญิงสาวอุทาน ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อชายหนุ่มพยักหน้ารับ
“ดีใจที่จำผมได้นะ” เขายื่นหน้าไปมองที่โต๊ะ “อ้อ...ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส”
“นายอำเภอ นายอำเภอช่วยฉันด้วย ช่วยพาหมอนี่ออกไปจากบ้านที” หญิงสาวหันไปร้องขอชายวัยกลางคน แต่ทว่าคนที่หล่อนหวังอยากได้ความช่วยเหลือกลับส่ายหน้าอย่างช้าๆ
“ขอโทษนะ ผมไม่ใช่นายอำเภอหรอก เป็นแค่น้องชายนายอำเภอที่มีหน้าตาคล้ายๆกัน และที่สำคัญ...หัวล้านเหมือนกัน พอสวมรอยเป็นพี่ชายเลยไม่มีใครจับได้”
“หะ...มะ หมายความไง ทำไมต้องสวมรอยด้วย” หญิงสาวผู้เย่อหยิ่งที่ไม่เคยกลัวใคร ตอนนี้ทั้งร่างกลับสั่นเทิ้ม ตัวเย็นวาบไปหมดเมื่ออุ้งมือร้อนผ่าวจับไหล่บางทั้งสองข้างไว้ เขายืนซ้อนอยู่ด้านหลังหล่อน กระซิบบอกว่า
“เพราะผม...ต้องการคุณ”
“อะ อะไรกัน ฉันไม่เข้าใจ”
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาอธิบาย เพราะอีกสักพักไฟที่ลูกน้องผมจุดเผาคงบรรเทาลง เมื่อนั้นทุกคนคงแห่กลับมาที่นี่ ผมจำเป็นต้องพาคุณไป”
“ไป...ไปไหน” หญิงสาวถามเหมือนเด็กหลงทาง
“อย่าถาม อย่าขัดขืน ให้ความร่วมมือกับผมดีๆเถอะ เพื่อความปลอดภัยของคุณเอง มิสแวววิวาห์”
“ทำไม ทำไมฉันต้องทำตามความต้องการของคุณด้วย ฉันไม่ยอม” หญิงสาวดิ้นเพื่อให้หลุดจากอุ้งมือเขา แต่ก็ไม่เป็นผล ขณะที่ชายหนุ่มใช้มือข้างที่ว่างหยิบกระดาษขึ้นมาดูก่อนปล่อยให้ร่วงปลิวหล่นแทบเท้า
“ก็ยังดีที่ยังไม่ได้จดทะเบียนกัน แต่ถึงจะเซ็นชื่อลงไปแล้วก็ไม่เป็นผลอะไร เพราะใบทะเบียนสมรสนั่นไม่ใช่ของจริง”
“ห๋า ! คุณทำแบบนี้ทำไม ไอ้บ้า ไอ้บ้า ปล่อยฉันนะ” หล่อนพยายามกระทืบเท้าแซ็ค แต่เขาก็หลบได้ทันทุกครั้ง
“อย่าขัดขืนผมดีกว่าน่า”
“ไม่นะ กรี๊....” ปากจิ้มลิ้มเตรียมอ้ากว้างเพื่อปล่อยเสียงกรีดร้อง แต่เสียงของหล่อนยังไม่ทันพ้นจากลำคอ ริมฝีปากได้รูปก็ก้มลงจูบปิดปากอิ่มอย่างรวดเร็ว หญิงสาวกลืนทุกคำลงอก ได้แต่เบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึง ขณะที่นายอำเภอจอมปลอมรีบหันหน้าไปทางอื่นทันที
จูบหวานล้ำ...สัมผัสได้ถึงรสชาติไวน์ชั้นเยี่ยมส่งผ่านจากลิ้นอุ่นร้อนที่สอดแทรกเข้าสำรวจในโพรงปากของหล่อน ซาบซ่าน หวามไหว
ใครจะคาดคิดล่ะว่าจูบแรกของหล่อนจะไม่ใช่เจ้าบ่าว แต่เป็นชายปริศนาที่มาช่วงชิงจุมพิตในวันวิวาห์
มือใหญ่โอบรัดรอบเอวเล็ก บดคลึงเคล้ากลีบปากนุ่ม ป้อนความรัญจวนให้หญิงสาวครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้เบื่อ จนขาเรียวเริ่มอ่อนแรงเกินกว่าจะฝืนยืนต่อไปไหว หล่อนค่อยๆรูดลงไปกองที่พื้น แต่เขารั้งร่างบางไว้ได้ทัน ดวงตาสีฟ้าเข้มทอดลงมองดวงตาสีดำขลับของเจ้าสาว ก่อนยิ้มหยัน
“ทำเหมือนสาวเวอร์จิ้นที่จูบไม่เป็น ถ้าเป็นดารา คุณคงได้รางวัลตุ๊กตาทอง” เขาพูดเหยียดๆ ก่อนจะช้อนร่างหล่อนขึ้นอุ้มราวกับกระสอบนุ่นที่ไร้น้ำหนัก
แซ็ค มาสเตอร์สันก้มมองหน้าหวานของคนที่อยู่ในวงแขน ก่อนจะกำชับเสียงห้าวว่า
“อย่าคิดร้องขอความช่วยเหลืออีกเด็ดขาด ไม่งั้นผมจะจูบคุณอีกครั้ง ไม่สิ... ผมอาจจะปล้ำคุณต่อหน้าเจ้าบ่าวเลยก็ได้ !”
“คะ...คุณ คุณไม่กล้าหรอก”
“อย่าคิดว่าผมไม่กล้า หากไม่เชื่อก็ลองกรี๊ดดูสิ ผมทำจริงแน่ คราวนี้ชื่อเสียงคุณคงป่นปี้ เจ้าสาวที่ถูกชายแปลกหน้าล่วงเกิน อยากให้ข่าวออกมาแบบนั้นใช่มั้ย”
เขาขู่... แต่แววตาเอาจริงจนหล่อนนึกกลัว ไม่กล้าท้าทายเขาอีกต่อไป ได้แต่นอนตัวเกร็งในอ้อมกอดของเขา อกสั่นไหวระทึกทุกช่วงเวลาที่เขาพาหล่อนออกวิ่ง
ดูท่าเขาจะชำนาญทางเป็นพิเศษ เขาออกทางด้านหลังบ้านซึ่งมีประตูอยู่ทางครัว ... เขาคงเตรียมวางแผนมานานแล้วสินะ
หยดน้ำตาหนึ่งหยดค่อยๆทิ้งลงตรงหางตา ก่อนที่หล่อนจะกระพริบตาถี่ๆ พร้อมสั่งตัวเองในใจว่า
‘อย่าร้องนะแวววี่ อย่าร้องไห้เด็ดขาด ต้องตั้งสติไว้ให้มั่น ตอนนี้หล่อนกำลังถูกลักพาตัว หล่อนต้องพยายามคิดหาทางเอาตัวรอดให้ได้’
คิดพลางก็เหลือบตามองหน้าคมของคนที่อุ้มหล่อนไปพลาง ไม่น่าเชื่อว่าหล่อนจะมองคนผิด
คนที่หล่อนมองว่าเหมือนเทพบุตร แท้จริงแล้วกลับเป็นซาตาน !