บท
ตั้งค่า

บทที่7

ข่าวเรื่องการแต่งงานระหว่างฟรองซัวร์และเอสแตลล์เดินทางมาถึงมารีในเวลาต่อมา หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างโล่งอกเมื่อแรกได้ยิน คราวนี้หล่อนจะได้ไม่รู้สึกผิดต่อฟรองซัวร์อีกต่อไป และเป็นข้ออ้างอันดีที่จะปฏิเสธหากเขามาปาหินใส่หน้าต่างเพื่อนัดเจอกันอีก

หญิงสาวคลี่จดหมายที่คนรับใช้จากคฤหาสน์ เดอ ปาปิญง นำมาส่งให้ออกอ่าน มันเป็นจดหมายจากมาร์กี เดอ ปาปิญง คู่หมั้นของหล่อนที่ส่งมาเพื่อนัดหมายการพบกันระหว่างหล่อนกับ...โอลิวิแยร์ ญาติของเขา ในจดหมายระบุว่า การนัดพบครั้งนี้เพื่อให้โอลิวิแยร์ทำหน้าที่แทนท่านมาร์กีในการผูกสัมพันธ์และทำความรู้จักกับหล่อนซึ่งเป็นคู่หมั้นคู่หมาย แม้ว่ามารีจะมีความสงสัยว่าเหตุใดท่านมาร์กีจึงไม่มาด้วยตนเอง แต่อีกใจหนึ่งหล่อนก็ยินดี

มารีอยากเจอผู้ชายคนนั้น...รูปร่างสูงสง่าและหน้าตาอันหล่อเหลายังติดตรึงอยู่ในใจ

ไหนจะแววตาวิบวับคู่นั้นอีกเล่า!

“ว่ายังไงล่ะลูก คู่หมั้นของเจ้าเขียนมาบอกว่าอะไร?” มาดาม เดอ โบมองต์ถามเมื่อเห็นรอยยิ้มจางๆ ปรากฏบนใบหน้าบุตรสาวหลังอ่านจดหมาย

“ท่านมาร์กีเขียนมาบอกลูกว่า จะให้ญาติของเขามาพบเพื่อผูกสัมพันธ์และทำความรู้จักกับลูกค่ะ”

“เอ๊ะ! แล้วทำไมท่านมาร์กีถึงไม่มาเอง?” มารดาตั้งคำถามด้วยความสงสัย

“เขาอาจจะไม่ว่างก็ได้มั้งคะแม่ อย่าลืมสิคะว่าตระกูลเดอ ปาปิญง ร่ำรวยขนาดนั้น ท่านมาร์กีก็คงต้องมีงานมากมายจนปลีกตัวมาไม่ได้”

“ก็อาจจะจริงอย่างที่ลูกว่า แต่มันก็ยังแปลกอยู่ดี ท่านมาร์กีเป็นคนที่จะต้องแต่งงานกับลูก แล้วทำไมถึงส่งญาติมาให้ทำความรู้จักกับลูกแทนเล่า แต่เอาเถอะ...เขาคงมีเหตุผล ถึงได้ทำแบบนี้”

“ค่ะแม่ อย่าคิดมากเลยนะคะ” มารีบอกมารดาก่อนจะโผเข้าไปหอมแก้มฟอดใหญ่ “ลูกขอตัวไปเตรียมเสื้อผ้าสำหรับวันพรุ่งนี้ก่อนนะคะ”

“ตามสบายเถอะจ้ะ”

เมื่อขึ้นมาบนห้องแล้วหญิงสาวก็เปิดตู้เสื้อผ้าหาชุดเพื่อใส่ในวันรุ่งขึ้น หล่อนมีเสื้อผ้าไม่มากนัก ชุดที่หรูหราพอจะใส่รับแขกหรือไปงานนั้นยิ่งน้อยกว่า ดังนั้นจึงไม่ต้องเสียเวลาเลือกนานนัก มารีก็ตัดสินใจเลือกชุดผ้าไหมสีครีมทอลายเถากุหลาบเป็นสีอ่อนๆ ดูหวานไปทั้งตัว

ชุดนี้เป็นชุดโปรดของมารี หล่อนมักเลือกในโอกาสสำคัญ และพรุ่งนี้ก็เป็นโอกาสสำคัญ...เพราะเป็นโอกาสที่จะได้เจอบุรุษหนุ่มรูปงามคนนั้น

โอลิวิแยร์

บุรุษซึ่งเป็นเจ้าของดวงตาที่มีพลังราวถ่านร้อน...ที่ทำให้เนื้อตัวของหล่อนร้อนวูบวาบยามถูกจับจ้องมอง มารีพาดชุดแสนสวยลงบนเก้าอี้ปลายเตียงแล้วยืนมองพลางอมยิ้มฝันหวาน

“มารี...” เสียงมารดาเรียกอยู่หน้าห้อง “แม่จะไปข้างนอกสักหน่อยนะลูก”

หล่อนเดินไปเปิดประตู มารดาสวมเสื้อคลุมและหมวกเรียบร้อย เตรียมตัวจะออกไปข้างนอกแล้ว

“แม่จะไปไหนคะ”

“จะเข้าเมืองไปหาซื้อของ พรุ่งนี้เรามีแขกนี่นา”

“ให้ลูกไปเป็นเพื่อนไหมคะ” มารีถามด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น ทว่ามาดาม เดอ โบมองต์กลับส่ายหน้า

“ลูกอยู่บ้านนี่แหละ”

หญิงสาวจำใจพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินเคียงมารดาลงบันไดไปส่ง หน้าบ้านรถม้าคันเล็กที่ใช้มาตั้งแต่บิดายังมีชีวิตจอดรออยู่แล้ว มาดาม เดอ โบมองต์ ก้าวขึ้นรถม้าแล้วก็ชะโงกหน้าออกมาโบกมือให้บุตรสาวพร้อมรอยยิ้มสดใส มารีโบกมือตอบและยืนมองจนกระทั่งรถม้าหายไปจากสายตา หล่อนเดินกลับเข้าบ้านยืนเคว้งตรงห้องโถงด้วยไม่รู้จะทำอะไรดี

ถ้าเป็นเมื่อก่อนมารีคงแอบนัดพบฟรองซัวร์แล้ว พอแม่ไม่อยู่หล่อนก็ออกไปหา...ทั้งคู่มักพากันไปพูดคุยพรอดรักในโรงนาร้างที่อยู่ใกล้บ้านของฟรองซัวร์ แต่เมื่อต้องหมั้นหมาย แถมฟรองซัวร์ก็จะแต่งงานในไม่ช้า เรื่องนัดพบจึงกลายเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ และหล่อนก็ไม่คิดจะทำอีก

พูดตรงๆ ฟรองซัวร์ไม่ได้อยู่ในความนึกคิดของมารีอีกต่อไปแล้ว หล่อนไม่คิดถึง ไม่นึกอยากเจอ เมื่อรูข่าวว่าเขาจะแต่งงานกับน้องสาวต่างสายเลือด หล่อนก็ไม่เสียใจเลยสักนิด มารีอยากจะเชื่อว่า...หล่อนไม่ได้รักเขาแล้ว

คล้ายว่า...ตัวตนของเขาจะหายวับไปจากความรู้สึกนึกคิด...หายไปจากหัวใจหล่อน

ทั้งที่คืนก่อนหล่อนยังนอนระทวยให้ฟรองซัวร์เชยชม คิดแล้วก็นึกขอบคุณคนที่ทุบประตูเหลือเกิน มิเช่นนั้นความบริสุทธิ์ของหล่อนคงไม่เหลือถึงวันแต่งงาน มารียอมรับว่าลิ้นของฟรองซัวร์ทำให้ลืมแทบทุกสิ่ง...รู้สึกลอยละล่องคล้ายนอนอยู่บนก้อนเมฆ นึกถึงความสุขซ่านที่ได้รับเมื่อเมฆลอยขึ้นสู่จุดที่สูงที่สุดแล้ว เนื้อตัวของมารีก็สั่นสะท้านขึ้นมาอีกครั้ง หญิงสาวกำลังจะก้าวขึ้นบันไดอยู่แล้วเชียว เมื่อแว่วเสียงคล้ายม้าเหยาะย่างหน้าบ้าน

สาวน้อยเดินไปที่หน้าต่าง แหวกม่านออกมองแล้วก็ตกใจจนขยี้ตา ชายหนุ่มที่อยู่บนหลังม้าสูงสง่ามีราศีนั้นจะเป็นใครไปมิได้นอกจาก...โอลิวิแยร์

...ไหนว่าเขาจะมาพรุ่งนี้อย่างไรเล่า...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel