สวาทรักมายเลดี้ My Lady's Lover

46.0K · จบแล้ว
คีตาญชลี ลลิตรา ดาห์เลีย
32
บท
6.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

มารี เดอ โบมองต์ สาวน้อยวัยสิบแปด ตกปากรับคำแต่งงานกับ มาร์กี* เดอ ปาปิญง (*มาร์กี = มาร์ควิส = Marquise) ชายหนุ่มที่เธอไม่เคยพบเจอหรือรู้จัก ตามความต้องการของมารดา เพื่อที่จะรักษาสถานภาพทางการเงินอันสั่นคลอนเต็มทีนับแต่สูญเสียบิดา...ไวส์เคาน์ เดอ โบมองต์ เมื่อหลายปีก่อน หากมีเพียงมารีเท่านั้นที่รู้ว่า ที่ตกปากรับคำไปนั้นก็เพราะเธอหลงใหลในความหล่อเหลาของเขา... โอลิวิแยร์ ไวส์เคานต์หนุ่ม ญาติสนิทของ มาร์กี เดอ ปาปิญง หญิงสาวแอบหวังว่าท่านมาร์กีว่าที่สามีจะหล่อเหลาไม่แพ้ไวส์เคานต์หนุ่มผู้นี้ ยิ่งเมื่อได้สบตาเขา เห็นความปรารถนาบางอย่างที่คุกรุ่นอยู่ภายใน มารีจึงมิรอช้าที่จะก้าวตามเสียงเรียกร้องภายในโอลิวิแยร์...หนุ่มหล่อมากรัก จำต้องรับปากญาติสนิทรับหน้าที่ตระเตรียมความพร้อมให้กับเจ้าสาวซึ่งยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง ให้รู้จักการปรนนิบัติสามีบนเตียง โดยมีข้อแม้ว่า...เขาต้องสอนทุกสิ่ง เปลี่ยนสาวน้อยไร้เดียงสาให้เป็นสาวร้อนแรง แต่ห้ามแตะต้องพรหมจารีย์ของนาง...พรหมจารีย์ซึ่งต้องยังอยู่กระทั่งถึงคืนส่งตัวมาร์กี อัลแบร์ เดอ ปาปิญง มาร์กีหนุ่ม ผู้ขี้อายเพราะปมด้อยที่ฝังใจ จำเป็นต้องแต่งงานเพื่อสืบทอดสายตระกูล แต่ผู้หญิงคนแล้วคนเล่า ต่างก็ปฏิเสธยามได้เจอตัว ทรัพย์สมบัติมหาศาลไม่ได้ช่วยให้เขาหาเจ้าสาวได้ง่ายๆ เหมือนคนอื่น มารีจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เมื่อหล่อนมาจากตระกูลดี หน้าตาสะสวย ที่สำคัญหล่อนมีปัญหาทางการเงินซึ่งจะกลายเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ไม่อาจปฏิเสธการแต่งงานครั้งนี้เช่นหญิงสาวรายอื่นนอกเหนือจากคุณสมบัติเหล่านั้น ยังมีอีกข้อหนึ่งที่ท่านมาร์กีระบุมาเป็นพิเศษ และมอบหมายให้ญาติสนิทตระเตรียมให้ว่าที่เจ้าสาวซึ่งยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง ได้เตรียมพร้อมสำหรับคืนส่งตัวในวันแต่งงาน นั่นก็คือ...การสอนให้สาวน้อยไร้เดียงสาเรียนรู้และมีความช่ำชองเรื่องบนเตียง ท่านเคานต์หวังว่าเมื่อเจ้าสาวช่ำชอง...หล่อนจะสามารถนำพาคนขี้อายอย่างเขาให้ก้าวข้ามปมด้อยบางประการของตนไปได้เรื่องรักหลายเส้าเคล้าโลกีย์จึงบังเกิด เมื่อแต่ละคนต่างก็ปล่อยให้ความปรารถนานำชีวิต การแต่งงานซึ่งทำให้ทุกคนตกลงไปในวังวนความรัก ความใคร่ และเซ็กส์ร้อนแรง ที่จะเปลี่ยนชีวิตทุกคนไปตลอดกาล

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักโรแมนติกดราม่า

บทที่1

“เชื่อแม่เถอะมารี ตกลงแต่งงานกับท่านมาร์กีเสียเถอะ เพื่อแม่...เพื่อตัวลูกเอง”

มาดามโบมองต์กระซิบริมใบหูบุตรสาววัยสิบแปดก่อนที่จะจูงมือเข้าไปในห้องขนาดเล็กเก่าโทรมซึ่งใช้เป็นทั้งห้องรับแขกและห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์เก่าโทรมหลังนี้ บนเก้าอี้นวมบุผ้าที่ครั้งหนึ่งเคยมีสีฟ้าสดใสเหมือนท้องฟ้าหน้าร้อน คือร่างของบุรุษรูปร่างผึ่งผายสูงสง่า และหน้าตาหล่อเหลาผู้หนึ่ง

...นั่นน่ะหรือ...ท่านมาร์กีที่แม่พูดถึง...

มารีคิดในใจขณะลอบชำเลืองฝ่ายนั้นด้วยท่าทางเขินอาย หล่อนก้มหน้างุดเมื่อพบว่าดวงตาของบุรุษผู้นั้นจ้องตอบด้วยประกายวาววาม...ที่ทำให้หล่อนใจเต้นตึกตักเหมือนเสียงกลองลั่น เนื้อตัวร้อนรุ่มขึ้นมาราวยืนอยู่บนกองไฟ อาการประหม่าตื่นเต้นทำให้ไม่ได้ยินบทสนทนาระหว่างมารดากับเขาผู้นั้นแม้แต่น้อย กระทั่งมารดาสะกิดเรียกนั่นแหละ

“มารี...ว่าอย่างไร?”

“คะ?” มารีเงยหน้าสบตามารดาก่อนจะแลเลยไปยังบุรุษรูปงามที่กำลังมองมาด้วยท่าทางใจจดใจจ่อกับคำตอบของหล่อน

“แม่ถามว่าลูกตกลงใจว่าอย่างไรกับ...ท่านมาร์กี เดอ ปาปิญง?”

“ค่ะ ลูก...” เหลือบมองไปยังคนที่รอฟังด้วยท่าทางเอียงอายก่อนพยักหน้ารับ

“หมายความว่า...ตกลงใช่ไหม?”

“ค่ะ”

รีมฝีปากของบุรุษรูปงามปรากฏรอยยิ้มยินดี เขาก้าวมายืนตรงหน้ามารี หญิงสาวยื่นมือไปข้างหน้าตามธรรมเนียมก่อนจะถอนสายบัว อีกฝ่ายยื่นมือมารับพลางค้อมศีรษะลงจุมพิตบางเบาบนหลังมือเรียว มารีสะดุ้งวาบราวกับถูกถ่านร้อนนาบบนหลังมือ ชั่วจังหวะที่บุรุษรูปงามกำลังจะยืดตัวขึ้นเป็นจังหวะเดียวกับที่มารีถอนสายบัวเสร็จ สองสายตาจึงประสานกันชั่วแวบ หากเป็นชั่วแวบที่เหมือนนิจนิรันดร์

มารีแทบลืมหายใจ แค่ถูกเขามองหล่อนก็วูบวาบไปทั้งตัวราวกับถูกจุมพิต หล่อนอายุสิบแปดแล้ว ถึงแม้จะยังเป็นสาวบริสุทธิ์ แต่มารีก็รู้ว่ารสชาติของจุมพิตนั้นเป็นอย่างไร

ก่อนที่แข้งขาของหญิงสาวจะอ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงทรงตัว เขาผู้นั้นก็หันไปบอกลามารดาของหล่อนก่อนจะเอ่ยถึงนัดหมายครั้งต่อไป

“ลาก่อนมาดาม ข้าจะให้คนส่งจดหมายมาแจ้งเรื่องการจัดเตรียมงานแต่งงานระหว่างบุตรสาวของมาดามกับท่านมาร์กี เดอ ปาปิญง”

พูดจบเขาก็ก้าวออกจากประตู โดยมีมารีและมารดาเดินตามไปส่ง ข้างนอกนั้นมารีเห็นรถม้าคันงามรออยู่ ก่อนจะก้าวขึ้นรถม้า เขาหันมาโบกมือให้หล่อนกับมารดาอีกครั้ง ทั้งคู่ยืนมองจนรถม้าลับสายตาและเมื่ออยู่เพียงลำพัง มาดามโบมองต์ก็หันมาสวมกอดบุตรสาวด้วยความดีใจ

“แม่ดีใจที่ลูกตกลง ลูกจะได้สบายและแม่จะได้ไม่ต้องห่วงลูก”

“แม่...ผู้ชายเมื่อกี้ คือ ท่านมาร์กีเหรอคะ?” มารีถามอยากรู้เต็มเปี่ยมว่าเขาคือใคร

“โอ...ไม่ใช่” มาดามโบมองต์ยกมือทาบอก “นั่น...โอลิวิแยร์ต่างหากเล่าจ้ะ เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องคนสนิทของท่านมาร์กี แม่เองก็ไม่เคยเห็นท่านมาร์กีมาก่อนหรอกนะ คิดว่าน่าจะหล่อเหลาไม่น้อยไปกว่าโอลิวิแยร์หรอก แต่เรื่องความร่ำรวยของท่านมาร์กีนั้น ล้วนเป็นที่ร่ำลือ แม่รับรองว่าลูกจะมีความสุข ลูกของแม่จะได้แต่งตัวสวยๆ ไปงานเลี้ยงในสังคมชั้นสูงเหมือนเด็กสาวลูกผู้ดีอื่นๆ”

“แม่จ๋า...” มารีซบลงบนอกมารดา ความปรารถนาของคนเป็นแม่จะมีสิ่งใดนอกจากอยากเห็นลูกสุขสบาย

ชีวิตเมื่อยังเด็กครั้งที่บิดาซึ่งก็คือ วีกงต์ เดอ โบมองต์ ยังมีชีวิตอยู่นั้นนับว่าสุขสบายไม่น้อย แม้ว่าท่านวีกงต์ เดอ โบมองต์ จะมิได้ร่ำรวยและเป็นเพียงขุนนางชั้นผู้น้อยก็ตาม แต่เพราะมีหัวทางการค้าจึงทำให้ครอบครัวสุขสบายมีเงินทองใช้จ่ายอย่างสบาย

เมื่อได้รับเงินทองจากทางอื่น วีกงต์จึงเก็บภาษีที่ดินจากผู้คนในปกครองแต่เพียงน้อย ครั้นเขาป่วยและเสียชีวิตไปเมื่อหกปีก่อน ทุกอย่างก็พลิกผัน...เงินจากการค้าขายหดหาย มีเพียงรายได้จากภาษีเท่านั้น ถึงกระนั้นมาดาม เดอ โบมองต์ ก็ยังเก็บภาษีในอัตราเดิม ครั้นเงินทองร่อยหรอจึงนำทรัพย์สินบางส่วนออกขาย จนคฤหาสน์ทั้งหลังแทบไม่มีของมีค่าเหลือ สองแม่ลูกจึงอยู่ในฐานะที่ลำบาก ต้องใช้จ่ายแค่เพียงสิ่งที่จำเป็น

การหมั้นหมายครั้งนี้จึงมีความสำคัญยิ่ง เพราะจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของทั้งคู่ดีขึ้น และสามารถกลับไปมีหน้ามีตาในสังคมได้ดังเดิม

ใบหน้าของบุรุษหนุ่มนามโอลิวิแยร์ยังคงติดตรึงอยู่ในใจสาวน้อยมารี หล่อนได้แต่หวังหมดใจว่าท่านมาร์กี เดอ ปาปิญง ว่าที่สามีจะหล่อเหลาสักครึ่งของเขา แค่นึกถึงเรือนร่างสูงใหญ่กำยำนั้นแล้วมารีก็ใจสั่นกระทั่งสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงก๊อกคล้ายของแข็งกระทบกระจก

มารีผุดลุกขึ้นจากเตียงนอนที่ตนนอนฝันหวานอยู่แล้วตรงดิ่งไปที่หน้าต่าง มองลงไปยังความมืดมิดด้านล่างนั้น เมื่อปรับสายตาจนชินแล้วจึงเห็นเงาตะคุ่มที่ยืนชะเง้อชะแง้แลหา ใบหน้าคุ้นตาส่งยิ้มให้พร้อมกวักมือเรียกให้ลงไปหา

ฟรองซัวร์นั่นเอง!

มารียิ้มตอบหวังว่าความมืดจะอำพรางความกังวลใจของตนได้ หล่อนจะบอกเขาอย่างไรดีเรื่องการดูตัวเมื่อกลางวัน

ฟรองซัวร์เป็นหนุ่มในฝันของสาวในหมู่บ้านด้วยผมสีทองและรอยยิ้มละลายหัวใจ อีกทั้งรูปร่างสูงใหญ่และฐานะลูกชายคนโตผู้สืบทอดตระกูลคนทำชีสของหมู่บ้านยิ่งทำให้เขาเป็นที่หมายปองของหญิงสาวแทบทุกคน แต่ฟรองซัวร์กลับมาหลงรักมารี ซึ่งก็มีใจให้ชายหนุ่ม ทั้งคู่จึงคบหากันอย่างลับๆ มาได้เกือบปีแล้ว