บทที่1│เจ้าป่าลายพาดกลอน (3)
“เอาจีบ”
พิลลาสร่างเมาทันที รีบปรี่ไปที่ชายหนุ่มก่อนจะเสยหมัดเข้าที่ใบหน้าคมคายอย่างไม่ออมแรง
“ไอ้เวรนี่!”
สารินที่โดนจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวก็เซถลาไปเล็กน้อย เขาใช้มือยันไปที่ผนังเพื่อไม่ให้ตัวเองล้มลงไปกองที่พื้น ก่อนจะค่อยๆ หยัดยืนอย่างมั่นคง มือหนาลูบไปที่แก้มสากป้อยๆ
“แค่นี้ต้องต่อยกันเลยเหรอจีบ”
“อยากทำมากกว่านี้อีก” เธอยอมรับอย่างตรงไปตรงมา “ใครใช้ให้มาพูดจาหมาๆ กับจีบก่อน”
สารินยิ้มทั้งที่มีเลือดออกบริเวณมุมปาก “แล้วสนปะ”
“อีกสักหมัดไหม”
“นอนกับพี่ครั้งเดียว เรไรจะได้กลับไปอยู่ที่บ้านโดยที่จีบไม่ต้องเสียสักบาท”
สาวหมวยแค่นหัวเราะ “เพราะเสียตัวแทนอะนะ”
“อย่าพูดงั้น ไม่มีการเสียอะไรทั้งนั้น เราได้กัน พี่ได้จีบ จีบได้พี่ มีแต่ได้กับได้”
“ทำไมถึงอยากได้”
นัยน์ตาคมกริบจดจ้องไปที่ดวงหน้านวล โค้งริมฝีปากเล็กน้อย “ก็อยากได้”
ในขณะที่เขาอยากได้เธอ เธอกลับอยากกระทืบเขา
“ไม่เอา เสนออย่างอื่นมาแทน” เขาส่ายหน้า “อย่าเรื่องมาก ทำตัวให้มันสมกับที่พอใจมันนับถือหน่อย ผ่อนวันละเท่าไรก็ว่ามา”
“ก็บอกว่าไม่ชอบเงินผ่อน”
“แล้วพี่เอาเรไรไปขายทำไม” พิลลาเริ่มฉุนเมื่อการเจรจากับเขานั้นเป็นไปอย่างยากเย็น “มันเป็นนกของพ่อ เป็นของต่างหน้าของพ่อ พอใจมันผิดที่เอามาจำนำกับพี่ก็จริง แต่พี่จำเป็นต้องใจร้ายกับน้องมันถึงขนาดนี้เลยเหรอ”
กำปั้นถูกทุบไปที่อกด้านซ้าย
“มีหัวใจปะ ทุบไปเนี่ยเจ็บไหม รู้สึกรู้สาอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงได้กล้าทำกับน้องมันแบบนั้น”
สารินไม่ยอมให้เธอประทานความเจ็บปวดให้นานนัก เขาคว้าไปที่ข้อมือบางแล้วจับไว้แน่นจนเธอขาดอิสระ ร่างสูงหลุบตาลงต่ำเพื่อจ้องมองหญิงสาวที่ถูกโทสะครอบงำ ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ชื่อเสียงเรียงนามของพิลลา
หน้าหมวย ปากหมา ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย
มนุษย์ที่ดูภายนอกแสนน่าทะนุถนอม บอบบาง และนุ่มนิ่ม แต่อะไรไม่รู้ที่หล่อหลอมให้กลายเป็นคนหัวร้อน เจ้าอารมณ์ และปากจัด
ถึงเขาจะจับมือไว้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอหยุดพูด “สี่หมื่นกว่าเกือบห้าหมื่นอะ พี่คิดว่ามันน้อยเหรอ พี่คิดว่ามันหาง่ายเหมือนเงินร้อยสองร้อยหรือไง จีบต้องถ่ายเอกสารตั้งกี่ใบกว่าจะได้ ภาระจีบมันเยอะ ที่บ้านมีจีบทำงานอยู่คนเดียว ต้องตื่นตั้งแต่เช้า ทำงานทั้งวัน ทุกวัน ไม่เคยได้หยุดกับเขา เพราะจีบต้องเลี้ยงอีกตั้งสามชีวิต ไหนยังค่ารถ ค่าเช่า สารพัดที่จะต้องจ่าย สายตัวจะขาดอยู่แล้ว แล้วพี่ยังคิดว่าสี่หมื่นแปดมันน้อยสำหรับจีบอยู่อีกไหม”
เธอจดจ้องเขาอย่างไม่วางตา เหมือนที่เขาเองก็มองแต่เธอ
“พ่อก็ตาย เรไรมันก็เหมือนตัวแทนพ่อ รู้หรอกว่าที่พูดแบบนี้มันเห็นแก่ตัว แต่พี่ใจร้ายเกินไปหรือเปล่าที่ปล่อยขายทั้งๆ ที่ผ่านไปแค่วันเดียว น้องมันไม่ใช่คนอื่นคนไกลของพี่เลย จีบสั่งมันว่าอย่ามาที่นี่บ่อยๆ แต่แล้วยังไง มันก็มาอยู่ดี เลิกเรียนก็ตรงมาบ้านพี่ วันหยุดก็ขลุกตัวอยู่แต่ที่โต๊ะ พี่มองพอใจเป็นตัวอะไรถึงไม่เห็นใจเด็กมันเลย”
“พูดจบยัง”
“ยัง!” พิลลาสวนทันควัน “พี่ใจร้ายมาก ขอผ่อนก็ไม่ได้ อะไรก็ไม่ได้”
เขาจับมือ เธอจึงหยุดทุบ เพราะฉะนั้นการจะให้เธอหยุดพูด เขาก็คงต้องปิดปาก
“อื้อ!”
ฝ่ามือหนาถูกยื่นมาจับไว้ที่ต้นคอ ราวกับว่าต้องการที่จะปรับองศาใบหน้าของเธอให้รับกับสัมผัสที่เขามอบให้ อีกทั้งยังยึดไว้เพื่อไม่ให้เธอมีโอกาสได้ขยับหนีไปไหน สารินตะโบมโลมไล้ไปที่กลีบปากบางอย่างตะกละตะกลาม ความร้อนรุ่มก่อเกิดภายในใจ ฝ่ามืออีกข้างฟอนเฟ้นไปที่เอวบางคล้ายหวังปลุกอารมณ์กำหนัด ทั้งยังดึงรั้งให้ร่างระหงเข้ามาประชิดอกแกร่ง จนร่างสองร่างเสียดสีกันไปมา
สารินมอมเมาพิลลาด้วยจุมพิตและสัมผัสที่แสนเร่าร้อน ผนวกกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ไหลเวียนอยู่ในตัว ทำให้หญิงสาวอ่อนระทวย เธอยับยั้งชั่งใจไม่อยู่แม้จะรู้ว่าควรหยุด แต่ก็ถูกหลอกล่อด้วยความวาบหวามและความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยพบเจอ
จากต่อต้าน ก็โอนอ่อน
เผยอปากออกจากกันเพื่อให้ลิ้นร้อนได้เข้ามาช่วงชิงน้ำหวานในโพรงปาก พร้อมๆ กับที่รู้สึกว่าฝ่ามือของเขาเคลื่อนลงไปอยู่ที่สะโพกงามงอน บีบเคล้นเพื่อเร้าอารมณ์ และเธอก็มิอาจปฏิเสธได้ ปล่อยให้เขาปรนเปรอจนกระทั่งทนไม่ไหว ถึงได้ทุบไปที่อกแกร่งเพื่อประท้วง ชายหนุ่มถึงได้ยอมผละริมฝีปากออกไป
พิลลาใช้โอกาสนั้นในการกอบโกยอากาศเข้าปอด ก่อนจะเผลอส่งเสียงครางกระเส่าออกมาเมื่อริมฝีปากหนาซุกไซ้ไปที่ซอกคอหอมกรุ่น กดจูบหนักๆ หวังฝากฝังร่องรอยเพื่อตีตราร่างกายของหญิงสาว แล้วจึงเคลื่อนตัวไปประกบริมฝีปากเข้าหากันอีกครั้งเมื่อคิดได้ว่าเธอคงเติมอากาศเข้าปอดจนพอใจแล้ว
เมื่อเห็นว่าสาวหมวยที่ใครๆ ก็บอกว่า ‘ของแรง’ แต่เขากลับสามารถทำให้เจ้าหล่อนอ่อนยวบได้ ก็ไม่คิดจะดึงรั้งท้ายทอยอีกฝ่ายไว้ และเมื่อเขาปล่อย พิลลาก็ไม่ได้ผละออกไปอย่างที่คาดเดาไว้ ซ้ำยังพยายามจูบตอบอย่างเงอะงะ
ฝ่ามือที่ไม่ได้ใช้งานในการบีบเคล้นสะโพกมนมีจุดมุ่งหมายคือ ‘ภูเขา’ สองลูกที่บดเบียดอยู่บริเวณอกแกร่ง
พิลลามีชื่อเล่นว่าพุดจีบ แต่เพื่อนๆ ของเธอมักเรียกขานว่า ‘อีนม’ เหตุผลนั้นเป็นสิ่งที่เขาได้ประจักษ์กับตัว ความอวบอิ่มของเธอนั้นน่าสัมผัสเสียยิ่งกว่าอะไร ยิ่งยามที่มันบดเบียดไปกับตัวของเขา ก็ทำเอาลูกชายตื่นได้อย่างไม่ยาก
อีกไม่ถึงคืบ เขาก็จะได้รู้แล้วว่าอีนมมันนมใหญ่สมชื่อหรือเปล่า แต่พิลลาก็ผละตัวออกไป พร้อมกับเสียงเรียกเข้าที่ดังขึ้น
สาวเจ้าหอบหายใจด้วยความเหนื่อย ก่อนล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วคว้าสมาร์ตโฟนเครื่องบางมากดรับสาย “ว่า”
(เห็นไปนาน แม่เลยให้โทร. มาถามดู)
“อ้อ” เธอหลุบตาลงต่ำเพราะไม่อยากสบตากับเจ้าของบ้าน พลางถอยออกมาสองสามก้าว “ก็...คุยๆ อยู่”
(ได้เรื่องยังไงบ้างครับ พี่เสือเขายอมให้ผ่อนหรือเปล่า)
พี่สาวได้แต่อ้ำอึ้งเพราะหาคำพูดมาตอบโต้กับน้องชายไม่ได้ ทั้งยังไม่มีสติมากพอจะพูดคุย เธอดื่มเบียร์ไปสองขวดครึ่ง ทนคุยกับเขาได้ตั้งนานโดยที่ภาพไม่ตัดไปก่อนก็ดีถมเถ ไหนยังมาทะเลาะจนเผลอลงไม้ลงมือใส่เขาอีก และทุกเรื่องที่ว่ามาไม่มีอะไรพรากสติเธอได้เท่าการ ‘รุกล้ำ’ ของสารินเลย
“คุยอยู่ ยังตกลงกันไม่ได้”
ขณะนั้นเอง โทรศัพท์ก็ถูกแย่งออกไปจากมือ “พรุ่งนี้มาพาเรไรกลับบ้าน”
พิรภพนิ่งงันเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของคนที่เป็นเหมือนพี่ชาย (พี่เสือ นี่พี่จะคืน-)
“แล้วอย่าเอาไปจำนำที่ไหนอีก”
(ครับๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้-)
เด็กหนุ่มยังพูดไม่ทันจบประโยค สารินก็กดตัดสายทิ้งอย่างไม่ไยดี เขาหันมามองอาหมวยสุดเร่าร้อน พยักหน้าให้เธอหนึ่งหน “ต่อนะ”
“ไม่...ไม่เอาแล้ว จะกลับบ้าน”
“อย่าโกงกันน่า” ใบหน้าคร้ามคมส่ายไปมาในจังหวะที่แสนเนิบนาบ รอยยิ้มบางๆ ผุดพรายขึ้น “พี่คืนเรไรให้โดยที่จีบไม่ต้องเสียสักบาท นี่พี่เข้าเนื้อด้วยซ้ำ จีบก็ควรทำตามข้อตกลงของเราหรือเปล่า”
“แต่จีบยังไม่ได้ตอบตกลงกับพี่สักประโยค พี่จะมาว่าจีบโกงได้ไง เป็นพี่เองต่างหากที่ตกลงจะคืนเรไรให้พอใจมันเอง”
“แน่ใจใช่ไหมว่าจะเหลี่ยมใส่พี่แบบนี้”
สารินยิ้ม แต่เป็นยิ้มที่ไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลย
เขากดโทร. ออกหาเบอร์ล่าสุด รอสายแค่ครู่สั้นๆ ก็มีคนรับ “พอใจ เรื่องเรไรน่ะ”
“วาง”
(ทำไมครับ)
พิลลาจ้องชายหนุ่มตาเขม็ง “พี่-เสือ-ใหญ่”
“พี่คิดว่า...”
เธอยังคงยืนกรานเช่นเดิม “วางก่อน”
(ว่าอะไรครับ)
“จะบอกว่ามาตอนเย็นๆ นะ วันพฤหัสฯ นี่เนอะ ไปโรงเรียนก่อนแล้วค่อยมาบ้านพี่”
(ได้ครับพี่ ผมก็ตั้งใจจะไปตอนเย็นนั่นแหละครับ ขอบคุณ-)
สารินตัดสายทิ้งอีกครั้ง พร้อมกับที่ลมหายใจของเธอถูกพรูออกอย่างแรง ก่นด่าคนเจ้าเล่ห์อยู่ในใจไปหลายสิบประโยค
คิ้มเข้มถูกเลิกขึ้นสูง “เอาไง”
“อย่าหาว่างั้นว่างี้เลยนะ แต่มันเกินใจจะรับไหวจริงๆ ค่ะที่จะต้อง อืม ทำแบบนั้น”
“ก็คือจะไม่นอนกับพี่? โอเค งั้นเรไรก็-”
“แค่จูบได้ไหมคะ”
“ไม่ได้” เขาสวนกลับมาอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิด ดูก็รู้ว่าเธอและเขาจะต้องเข้ากันได้อย่างดี ลำพังนัวเนียกันแค่ครู่สั้นๆ ยังปลุกความเป็นชายของเขาให้ผงาดมาเตรียมตัวลงสนามรักได้ขนาดนี้ ถ้าได้พาไปฟัดบนเตียงจริงๆ เขาไม่ขึ้นสวรรค์จนหาทางลงไม่เจอเลยหรือ เพราะฉะนั้นข้อเสนอของเธอจึงถูกปัดตกอย่างไม่ต้องสงสัย “มันไม่พอ”
“สิบครั้ง”
“ให้เอาสิบครั้ง?”